สอนภิกษุหรือสอนทุกคน

 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่  26 ก.ย. 2555
หมายเลข  21793
อ่าน  1,346

ขอเรียนถามว่า การที่พระพุทธเจ้ากล่าวขึ้นว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ... ตามด้วยข้อความที่พระองค์กล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพระวินัย พระสูตร เป็นการกล่าวหรือสอนเฉพาะภิกษุเท่านั้นหรือไม่ หรือว่าเป็นการสอนให้กับฆราวาสด้วย

ขอขอบคุณและอนุโมทนา

ที่อธิบายให้ความรู้ความเข้าใจถูกเสมอมาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คำว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกนั้น

หมายรวมถึง บริษัททั้ง ๔ ด้วยครับ ไม่ใช่เพียง พระภิกษุเท่านั้น แต่ที่พระองค์ทรงเรียกดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะ ด้วยความเป็นใหญ่ในพุทธบริษัท ๔ คือ ภิกษุบริษัท จึงตรัสเรียกด้วย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครับ

เพราะในความเป็นจริง พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ควรค่าแก่การรับฟัง ใส่ใจและพิจารณา น้อมประพฤติปฏิบัติตาม กับพุทธบริษัททั้ง ๔ สำหรับผู้ที่สะสม ศรัทธาและปัญญามา เพราะ คุณความดี ต่างๆ ที่เกิดจากากรฟังพระธรรม ไม่ได้จำกัดเฉพาะบริษัทหนึ่งบริษัทใด สามารถเกิดคุณความดี เกิดปัญญาได้ กับบริษัทใดก็ได้ ที่สะสมปัญญามา ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 26 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

จากการได้ฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ สรุปได้ว่า

พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเหมือนกับแสงพระอาทิตย์ ไม่เลือกหน้าว่าจะเป็นเศรษฐี ผู้ดี ยากจน เข็ญใจ เป็นภิกษุ เป็นภิกษุณี เป็นอุบาสก อุบาสิกา ฆราวาส ผู้ใดมีความเข้าใจสดับฟังพระธรรมเทศนา ประโยชน์ย่อมเกิดมีแก่ผู้นั้น

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๑


พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นประโยชน์เกื้อกูลสำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาอย่างแท้จริง โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่งหรือวัยใดวัยหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่ได้ศึกษา

เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัยใด เพศใด สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ก็คือ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปัญญาของตนเอง

พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา มีมากมาย นับคำไม่ถ้วน จะฟังครั้งเดียวไม่ได้เลย จึงต้องฟัง ต้องศึกษาบ่อยๆ เนืองๆ สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 26 ก.ย. 2555

ดูกรภิกษุ เป็นคำตรัสเรียกของพระพุทธเจ้า ที่เตือนให้พุทธบริษัท ๔ ให้ตั้งใจฟังธรรม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 26 ก.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 27 ก.ย. 2555
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 27 ก.ย. 2555

ขอเรียนถามเพิ่มเติมว่า พระวินัยเป็นข้อกำหนดหรือข้อห้ามสำหรับพระภิกษุอย่างเดียวใช่ไหม ไม่ได้ห้ามฆราวาส

ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เซจาน้อย
วันที่ 27 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
paderm
วันที่ 27 ก.ย. 2555

เรียนความเห็นที่ 6 ครับ

สำหรับพระวินัยบัญญัติของพระพุทธเจ้า ทรงบัญญัติสำหรับเพศพระภิกษุเท่านั้น ไม่ได้บัญญัติห้ามสำหรับเพศฆราวาส และไม่มีอาบัติสำหรับเพศฆราวาส ซึ่งพระวินัยบัญญัติก็มีข้อที่ตรัสให้ภิกษุควรประพฤติ ทางกาย วาจา

ซึ่งในบางประการแม้เพศคฤหัสถ์ ก็ควรประพฤติตามได้ แต่ไม่มีข้อห้าม สำหรับเพศคฤหัสถ์ ครับ

พระวินัยบัญญัติ จึงเป็นความงามทางกาย วาจาด้วยความดี เพราะฉะนั้น คฤหัสถ์ก็ควรศึกษา ก็จะทำให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควรกับประพฤติกับพระภิกษุ และที่สำคัญ ในข้อพระวินัยบัญญัติ บางประการ คฤหัสถ์ก็สามารถประพฤติปฏิบัติตาม ก็นำมาซึ่งความสำรวมทางกาย วาจาด้วย ครับ เช่น การไม่คุยตอนทานอาหาร เป็นต้น ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
นาวาเอกทองย้อย
วันที่ 27 ก.ย. 2555

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jaturong
วันที่ 28 ก.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
nong
วันที่ 1 ต.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 2 ต.ค. 2555
ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pornchai.s
วันที่ 2 ต.ค. 2555

ในครั้งพุทธกาล

ภิกษุส่วนใหญ่ประพฤติ-ปฏิบัติตามพระวินัยที่พุทธองค์ทรงบัญญัติโดยเคร่งครัด

ดังนั้นภิกษุส่วนใหญ่เหล่านั้นดูภายนอก

ทั้งอิริยาบถ การเคลื่อนไหวด้วยมือ-เท้า-กาย-วาจา

จึงไม่แตกต่างจากพระอรหันต์ ครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ