พระนำเงินปัจจัยที่ญาติ-โยมให้ ไปเลี้ยงบิดา-มารดา ผิดวินัย-บาปหรือไม่บาป

 
วลพ
วันที่  4 ส.ค. 2555
หมายเลข  21514
อ่าน  6,191

-ตามความเห็นนี้ ถูกหรือไม่-

พระสามารถรับเงินที่ชาวบ้านถวายโดยผ่านไวยาวัจกรได้ ตามหลักเมณฑกานุญาต ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุโลมผ่อนปรนไว้แล้ว

ปัจจัยสี่ เงิน หรืออะไรต่างๆ ที่พระได้มา สามารถเอามาแจกจ่ายให้กับบุคคลต่อไปนี้ได้ โดยไม่ผิด ไม่ทำไทยธรรมให้ตก ... คือ

๑. พ่อ แม่ ของพระ
๒. คนที่รับใช้ดูแล (เช่น พวกเด็กวัดต่างๆ )
๓. คนที่คอยดูแลเฝ้าไข้
๔. คนวัด (คนที่ทำงานให้วัด)
๕. คนที่เคยมีบุญคุณกับพระ
๖. การแจกจ่ายสงเคราะห์ให้ทานกับคนหรือสัตว์ทั่วๆ ไป ด้วยจิตเมตตาอนุเคราะห์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 8 ส.ค. 2555

ก่อนอื่นขออนุญาต นำข้อความโดยตรงจากพระวินัยปิฎก เรื่อง เมณฑกานุญาต

ให้ทุกท่านอ่านข้อความโดยตรงก่อน ผมจะขอสรุปตอนภายหลังครับ

พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 148

เมณฑกานุญาต

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงให้เมณฑกะคหบดีเห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาแล้ว ทรงลุกจากที่ประทับเสด็จกลับไป หลังจากนั้น พระองค์ทรงธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตโครส ๕ คือ นมสด นมส้ม เปรียง เนยข้น เนยใส มีอยู่

ภิกษุทั้งหลาย หนทางกันดารอัตคัดน้ำ อัตคัดอาหาร ภิกษุไม่มีเสบียงจะเดินทางไป ทำไม่ได้ง่าย เราอนุญาตให้แสวงหาเสบียงได้คือ

ภิกษุต้องการข้าวสาร พึงแสวงหาข้าวสาร

ต้องการถั่วเขียว พึงแสวงหาถั่วเขียว

ต้องการถั่วราชมาส พึงแสวงหาถั่วราชมาส

ต้องการเกลือ พึงแสวงหาเกลือ

ต้องการน้ำอ้อย พึงแสวงหาน้ำอ้อย

ต้องการน้ำมัน พึงแสวงหาน้ำมัน

ต้องการเนยใส ก็พึงแสวงหาเนยใส.

มีอยู่ ภิกษุทั้งหลาย ชาวบ้านที่มีศรัทธาเลื่อมใส เขามอบเงินทองไว้ในมือกัปปิยการก สั่งว่า สิ่งใดควรแก่พระผู้เป็นเจ้า ขอท่านจงถวายสิ่งนั้นด้วยกัปปิยภัณฑ์นี้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ยินดีของอันเป็นกัปปิยะจากกัปปิยภันฑ์นั้นไว้ แต่เรามิได้กล่าวว่า พึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายไรๆ เลย


จากข้อความในพระวินัย ที่เป็นพระพุทธพจน์โดยตรงจะเห็นได้ว่า

- ทรงอนุญาตให้ แสวงหาเสบียงได้ ถ้าจะต้องเดินทางผ่านทางกันดารฯ

- ทรงอนุญาตให้ยินดีในกัปปิยภันฑ์ (สิ่งของ) ที่เขามอบเงินไว้กับไวยาวัจกร ไม่ใช่ให้พระรับเงินทอง

อนึ่ง การแจกจ่ายสิ่งของที่พระได้มา ตามหลักพระวินัย ก็ต้องมีขอบเขตอยู่พอสมควร มิฉะนั้น ก็จะเข้าข่ายประทุษร้ายสกุล หรืออาจจะ เป็นการต่อลาภด้วยลาภ หรือเป็นการเข้าข่ายมิจฉาอาชีวะของบรรพชิตก็ได้

ดังนั้น เว้นบุคคลที่ทรงอนุญาตไว้แล้ว บุคคลที่เหลือ ถ้าท่านชำระจิตให้บริสุทธิ์จริงๆ ก็ให้ได้ แต่ต้องเป็นผู้ตรงจริงๆ มิฉะนั้นจะถึงความเป็นพระอริยะไม่ได้ครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
jaturong
วันที่ 10 ส.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ