โลกสูตร.. เรื่องทรงตรวจดูโลก

 
pirmsombat
วันที่  14 ก.ค. 2555
หมายเลข  21413
อ่าน  926

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 44] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 360

๑๐. โลกสูตร

ว่าด้วยเรื่องทรงตรวจดูโลก

[๘๔] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าแรกตรัสรู้ ประทับอยู่ที่ควงไม้โพธิ์

ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลา ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า

ประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขโดยบัลลังก์เดียวตลอด ๗ วัน ครั้งนั้นแลโดยล่วง

๗ วันนั้นไป พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากสมาธินั้นแล้ว

ทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ ได้ทรงเห็นหมู่สัตว์ผู้เดือดร้อน

อยู่ด้วยความเดือดร้อนเป็นอันมาก และผู้ถูกความเร่าร้อนเป็นอันมากซึ่ง

เกิดจากราคะบ้าง เกิดจากโทสะบ้าง เกิดจากโมหะบ้าง แผดเผาอยู่

ลำดับนั้นแล

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว

จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

โลกนี้เกิดความเดือดร้อนแล้วถูกผัสสะครอบงำ

แล้วย่อมกล่าวถึงโรคโดยความเป็นตัวตน

ก็โลกย่อมสำคัญโดยประการใด

ขันธปัญจกอันวัตถุแห่งความสำคัญนั้น

ย่อมเป็นอย่างอื่นจากประการที่ตนสำคัญนั้น

โลกข้องแล้วในภพมีความแปรปรวนเป็นอื่น

ถูกภพครอบงำแล้ว ย่อมเพลิดเพลินภพนั่นเอง

(สัตว์) โลกย่อมเพลิดเพลินสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นภัย

โลกกลัวสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นทุกข์ ก็บุคคลอยู่ประพฤติ

พรหมจรรย์นี้เพื่อจะละภพแล.

ก็สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง กล่าว

ความหลุดพ้นจากภพด้วยภพ (สัสสตทิฏฐิ) เรากล่าวว่า

สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมดไม่หลุดพ้นไปจากภพ

ก็หรือสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง กล่าว

ความสลัดออกจากภพด้วยความไม่มีภพ (อุจเฉททิฏฐิ)

เรากล่าวว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมดไม่สลัดออกไปจากภพ

ก็ทุกข์นี้ย่อมเกิดเพราะอาศัยอุปธิทั้งปวง

ความเกิดแห่งทุกข์ย่อมไม่มี เพราะความสิ้นอุปาทานทั้งปวง

ท่านจงดูโลกนี้ สัตว์ทั้งหลายเป็นจำนวนมาก

ถูกอวิชชาครอบงำหรือยินดีแล้วขันธปัญจกที่เกิดแล้ว

ไม่พ้นไปจากภพ ก็ภพเหล่าใดเหล่าหนึ่ง

ในส่วนทั้งปวง (ในเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง)

โดยส่วนทั้งปวง (สวรรค์ อบาย และมนุษย์เป็นต้น)

ภพทั้งหมดนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวน เป็นธรรมดา

อันบุคคลผู้เห็นขันธปัญจก กล่าวคือ

ภพตามความจริงด้วยปัญญาอันชอบอย่างนี้อยู่

ย่อมละภวตัณหาได้ ทั้งไม่เพลิดเพลินวิภวตัณหา

ความดับด้วยอริยมรรคเป็นเครื่องสำรอกไม่มีส่วนเหลือ

เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหาทั้งหลาย โดยประการทั้งปวงเป็นนิพพาน

ภพย่อมไม่มีแก่ภิกษุนั้น ผู้ดับแล้วเพราะไม่ถือมั่น

ภิกษุนั้นครอบงำมาร ชนะสงครามล่วงภพได้ทั้งหมดเป็นผู้คงที่ ฉะนี้แล.

จบโลกสูตรที่ ๑๐

จบนันทวรรคที่ ๓


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
รากไม้
วันที่ 14 ก.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 14 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เข้าใจ
วันที่ 15 ก.ค. 2555

ต้องอ่านถึง ๔รอบจึงพอเข้าใจบ้างครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เซจาน้อย
วันที่ 15 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณหมอและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kinder
วันที่ 15 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nong
วันที่ 16 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pirmsombat
วันที่ 16 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณ และ อนุโมทนาคุณเซจาน้อยและทุกท่านครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ