กระผมสนใจ เกี่ยวกับ อริยสัจ ๔

 
tar
วันที่  16 พ.ค. 2555
หมายเลข  21119
อ่าน  1,803

กระผมฟังพระอาจารย์รูปหนึ่งเทศน์ให้ฟัง แต่ฟังแล้วมีเหตุผลมากมาย กระผมจึงอยากศึกษาและสนใจอยากจะศึกษาให้มากกว่านี้

- อยากรู้ว่าดับทุกข์ยังไง

- จะทำยังไงถึงจะไม่เป็นทุกข์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 16 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขั้นต้นยังไมใช่การดับทุกข์ แต่เป็นการสะสมความเข้าใจถูก เนื่องจากว่า ยังไม่รู้จักทุกข์ แล้วจะดับทุกข์ได้อย่างไร ซึ่งจะต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะถ้าไม่ศึกษาก็จะไม่รู้ว่า ทุกข์คืออะไร หนทางที่จะเป็นไปเพื่อดับทุกข์คืออะไร

ทุกข์ คือ สภาพธรรมที่มีจริง ที่เกิดดับ อยู่ในขณะนี้ซึ่งไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย มีสภาพธรรมที่เป็นทุกข์ เกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเป็นทุกข์ เพราะทุกข์ไม่ได้มุ่งหมายถึงเพียงทุกข์กายอันเป็นผลของอกุศลกรรม และทุกข์ใจ ซึ่งเป็นเรื่องของกิเลส เท่านั้น แต่หมายรวมถึงสภาพธรรมที่เกิดดับทุกประเภท

ส่วนเหตุของทุกข์ คืออะไร เหตุของทุกข์ คือ โลภะ เพราะมีตัณหาหรือโลภะ จึงยังต้องมีการเกิดในสังสารวัฏฏ์อยู่ร่ำไป ทำให้ประสบกับทุกข์ภัยต่างๆ มากมายอย่างไม่มีวันจบสิ้น บุคคลผู้ที่มีปัญญา ท่านเห็นว่าเป็นโทษเป็นภัย ไม่น่ายินดี จึงแสวงหาหนทางที่จะเป็นไปเพื่อความดับทุกข์ ดับสังสารวัฏฏ์ ดับการเวียนว่ายตายเกิด นั่นก็คือหนทางอันประเสริฐ เป็นหนทางที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ และทรงแสดงแก่สัตว์โลก คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ ที่เริ่มจากความเห็นที่ถูกต้อง (ปัญญา)

ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในพระพุทธศาสนา คือ เพื่อพ้นจากทุกข์ ไม่เกิดอีก ซึ่งเป็นการดับกิเลสทั้งหลาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ พระธรรมคำสอนทั้งหมด ไม่ว่าจะทรงแสดงโดยนัยใดก็ตาม ก็เพื่อประโยชน์สูงสุด คือ การดับกิเลส พ้นจากทุกข์โดยประการทั้งปวง

หนทางที่เป็นเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา จนกระทั่งถึงสามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น สูงสุด คือ สามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้น ถึงความเป็นพระอรหันต์ มีอยู่แล้ว คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ดำเนินตามหนทางอันประเสริฐนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีศรัทธา เคยสะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อน เห็นประโยชน์ของพระธรรมมาแล้วเท่านั้น เป็นเรื่องของการสะสมมาของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง ถ้าดำเนินตามหนทางนี้ ซึ่งไม่มีตัวตนที่ดำเนินแต่เป็นธรรมฝ่ายดีที่เกิดขึ้นเป็นไป คล้อยไปสู่หนทางที่ถูกต้อง ด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก โอกาสที่จะสามารถดับทุกข์ ซึ่งก็คือ สามารถดับกิเลสอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ ก็ย่อมจะมีได้เหมือนอย่างพระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีต ซึ่งเมื่อกล่าวโดยประมวลแล้ว จะขาดความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นไม่ได้เลยทีเดียว

จึงขอให้เริ่มต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ตั้งแต่ในขณะนี้ เพราะการดับกิเลส เป็นเรื่องที่ยาวไกลมาก ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ครับ.

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ทุติยสุริยูปมสูตร, อรหันตสูตร ... วันเสาร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕

กิจของอริยสัจจ์ ๔

ทางลัด ไม่มี

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

- อยากรู้ว่าดับทุกข์ยังไง

ก่อนจะดับทุกข์ ก็ต้องรู้จักตัวทุกข์ และ หนทางการดับทุกข์ว่าคืออะไร ทุกข์ คือสภาพธรรมที่มีจริงที่เกิดขึ้นและดับไป ไม่เที่ยง ที่เป็น จิต เจตสิก รูป เพราะฉะนั้น สภาพธรรมที่เป็นทุกข์ จึงไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ที่ไม่ใช่เพียง ทุกข์ใจ ทุกข์กาย ขณะนี้เห็น เป็นทุกข์ ได้ยิน เป็นทุกข์ คิดนึก เป็นทุกข์ เพราะ ไม่เที่ยง เกิดขึ้นและดับไป

หนทางดับทุกข์ คือ หนทางดับความเกิดขึ้นของสภาพธรรมนั่นเอง ที่เป็นทุกข์ ที่เป็นการเกิดขึ้นและดับไป หนทางการดับทุกข์ มีอยู่ คือ การเจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา คือ รู้จักตัวทุกข์ คือ ตัวธรรมที่กำลังปรากฏนั่นเอง รู้ว่า ตัวทุกข์ คือ ไม่ใช่เราที่ทุกข์ แต่เป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา หนทางการดับทุกข์ ละทุกข์ คือ รู้จักตัวทุกข์ตามความเป็นจริงด้วยปัญญาที่เป็นการเจริญสติปัฏฐาน ครับ แต่ ปัญญา จะต้องเจริญไปตามลำดับ จะรู้จักตัวทุกข์ถึงการดับทุกข์ทันทีไม่ได้ เพราะกิเลสมีมากที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ ก็ต้องค่อยๆ อบรมปัญญาให้เจริญไปตามลำดับ ทีละเล็กละน้อย โดยเริ่มจากปัญญาขั้นการฟัง คือให้เข้าใจความจริงในขั้นการฟังว่า ธรรมคืออะไร หรือ ทุกข์คืออะไร และก็ต้องอาศัยความอดทนที่จะฟัง ศึกษาพระธรรมต่อไปเรื่อยๆ ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น ค่อยๆ รู้จักตัวทุกข์ และก็สามารถละทุกข์ เพราะเข้าใจทุกข์ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 16 พ.ค. 2555

- จะทำยังไงถึงจะไม่เป็นทุกข์

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย การจะไม่ทุกข์เลย คือจะต้องมีปัญญาสามารถดับกิเลส เป็นพระอรหันต์ ไม่เกิดความทุกข์ใจอีก แต่ถึงกระนั้น พระอรหันต์ก็ยังมีทุกข์ คือยังมีทุกข์กาย เพราะยังมีขันธ์ ๕ ที่เป็นสภาพธรรมที่เป็นทุกข์ เพราะเกิดขึ้นและดับไป ดังนั้น การจะไม่มีทุกข์จริงๆ คือการไม่เกิดอีกเลย ไม่มีสภาพธรรมอะไรเลยเกิดขึ้นอีก ซึ่งก็คือ ต้องถึงความเป็นพระอรหันต์ และปรินิพพาน ครับ

ดังนั้น ไม่มีใครที่จะทำให้ไม่ทุกข์ได้ ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน เพราะมีปัญญาน้อยและเต็มไปด้วยกิเลส เพราะเหตุแห่งทุกข์ ก็ไม่ใช่อะไรนอกเสียจากกิเลส มีอวิชชาความไม่รู้และตัณหา ความติดข้อง ที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริง ครับ การจะทำให้ไม่ทุกข์ คือไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรม ด้วยการดับกิเลสที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ คือการเจริญสติปัฏฐาน รู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ ที่เป็นหน้าที่ของปัญญา ไม่มีเราที่จะทำให้ไม่ทุกข์ เพราะไม่มีใครให้ทำ ไม่มีเรา มีแต่สภาพธรรมที่เป็นไป ซึ่งสภาพธรรมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกิเลส ที่ทำให้ทุกข์หมดไป คือปัญญา แต่กิเลสมีมาก ก็ต้องค่อยๆ อบรมปัญญาไป โดยเริ่มจากปัญญาขั้นการฟัง สะสมไปทีละน้อย

หากได้อ่านประวัติพระสาวก ท่านจะต้องอบรมปัญญามานับชาติไม่ถ้วน กว่าจะถึงการดับกิเลส ครับ แต่หากเริ่มจากหนทางที่ถูกแล้ว ก็ย่อมถึงได้ เปรียบเหมือนมดที่ขึ้นภูเขา แม้ภูเขาจะสูงเท่าไหร่ แต่ค่อยๆ เดินไปในหนทางที่ถูก ก็ย่อมถึงยอดเขาได้ แต่การจะถึงยอดเขาได้ ก็ต้องเริ่มจากการเดิน ความอดทน และค่อยๆ เดินไปด้วยระยะเวลายาวนาน การอบรมปัญญา ถึงการดับกิเลสก็ฉันนั้น ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เข้าใจ
วันที่ 17 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผมไม่มีความคิดเห็นอะไรนอกจากเข้ามาศึกษาหาความรู้ จากท่านผู้รู้ทั้งหลาย และขอร่วมอนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 17 พ.ค. 2555

ก่อนอื่น จะดับทุกข์ได้ก็ต้องมีปัญญา ถ้ามีปัญญาแล้วก็ไม่ทุกข์ ปัญญามาจากการอบรม จากไม่มีปัญญา ก็ค่อยๆ มีปัญญาขึ้นไปตามลำดับ ตั้งแต่ขั้นฟังธรรม คิดหรือพิจารณาธรรม การสอบถามธรรม การจดบันทึกธรรมที่ได้ฟัง ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เซจาน้อย
วันที่ 17 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เริ่มต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม

สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ตั้งแต่ในขณะนี้ เพราะการดับกิเลส เป็นเรื่องที่ยาวไกลมาก ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ครับ.

เปรียบเหมือน มดที่ขึ้น ภูเขา

แม้ภูเขาจะสูงเท่าไหร่ แต่ค่อยๆ เดินไปในหนทางที่ถูกก็ย่อมถึงยอดเขาได้ แต่การจะถึงยอดเขาได้ ก็ต้องเริ่มจากการเดิน ความอดทนและค่อยๆ เดินไปด้วยระยะเวลายาวนาน การอบรมปัญญา ถึงการดับกิเลสก็ฉันนั้น ครับ

"ถ้าจะทำ แสดงว่ายังเป็นเรา ก็เป็นเครื่องเนิ่นช้า"

"ธรรมไม่มีทำไงเพราะไม่มีใครทำ"

"สภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่มีเรา"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.คำปั่น, อ.ผเดิมและทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
หลานตาจอน
วันที่ 18 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
kinder
วันที่ 20 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 8 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ