ไม่ใช่เรา เข้าใจยาก ขนาดฟังอ่านบ่อยๆ

 
khundong
วันที่  16 ก.พ. 2555
หมายเลข  20567
อ่าน  1,444

ช่วยอธิบาย คำว่า ไม่ใช่เรา ไม่มีเรา

อ๋อ ทุกอย่างมันดับหมด ก็เลยไม่มีอะไรเหลือเลย เราจึงไม่ควรยึดถือ เพราะไม่มีเราด้วยใช้ตัวเจตสิก (ปัญญา) เจตสิก (สติ) อบรม ฟังธรรมะต่อไปอีกครับเพื่อให้เจตสิกที่เป็นกุศลให้มีพลังขึ้นมา เหมือนรถยนต์ถ้าจอดไว้เฉยๆ โดยไม่สตาร์ทมันก็เสีย ถ้าใช้งานบ่อยๆ มันจะใช้งานได้ราบรื่นรวดเร็ว มันก็เหมือนกับความถนัดต่างๆ ของมนุษย์ถ้าฝึกซ้อมบ่อยๆ มันก็จะมีความชำนาญ ยิ่งถ้ามีผู้บอกทางแล้ว เราก็ฝึกตามโดยไม่ต้องสงสัย สนุกกับการฝึกอบรมในการฟัง แม้ขณะนี้ผมเองสติจะหลุดอยู่ประจำ สัปดาห์ก่อนขณะขับรถเผลอชนท้ายรถคันหน้าแต่ไม่รุนแรงครับเพราะมัวคิดไปเรื่องอื่นๆ จิตไม่อยู่กับปัจจุบันขณะนั่นเอง

รู้สึกว่าเมื่อใดก็ตามที่ได้ฟัง ท่านอ.สุจินต์มันจะมีไฟ มีพลังอย่างบอกไม่ถูกครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่ใช่เรา เข้าใจยาก เพราะ ฝืนกับกิเลสที่สะสมมา ที่เป็นความเห็นผิดว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล เมื่อสะสมความเป็นเรามามาก แสนโกฏิกัปนับชาติไม่ถ้วน แม้ได้ฟังพระธรรม ปัญญาขั้นการฟัง เพียงแค่ค่อยๆ เข้าใจความจริง แต่ไม่ได้สามารถ ละ ไถ่ถอน ความเป็นเราได้จริงๆ ครับ จึงยากที่จะเข้าใจแม้ฟังบ่อยๆ เพราะปัญญาเกิดน้อย และ สะสมความเป็นเรามามากนั่นเองครับ

ดังนั้น คำว่า ไม่ใช่เรา ไม่มีเรา ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีอะไรเลย ว่าง แต่ การไม่ใช่ เรา หรือ ไม่มีเรา คือ มีแต่ธรรม แต่ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล ในธรรมนั้น คือ มีแต่ธรรม ไม่มีเราเป็นแต่เพียงธรรมครับ เช่น เห็นเกิดขึ้น เป็นจิตที่เห็น ไม่มีเราที่เห็น ขณะที่ได้ยิน เป็นเพียงจิต ไม่ใช่เราได้ยิน เป็นต้น และที่ไม่มีเรา เพราะสภาพธรรมที่เกิดขึ้น ดับไปไม่เหลือเลย ไม่กลับมาอีกเลย จะมีเราอยู่ที่ไหน ในเมื่อดับไปไม่เหลือความเป็นเราให้มีอยู่เลย ครับ

ดังนั้น แม้จะยังไม่เข้าถึงความไม่ใช่เรา แต่ก็สามารถถึงได้ ด้วยการอบรมเหตุ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมไปเรื่อยๆ เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้นทีละน้อยๆ ก็สะสมปัญญาไปจนวันหนึ่งในอนาคตกาล ก็สามารถถึงความไม่มีเราได้ ซึ่งการถึงความไม่มีเราก็ด้วยปัญญา ที่เป็นปัญญาระดับสูง ซึ่งมีผู้ที่ถึงความไม่มีเรามามากแล้ว ด้วยปัญญา ที่ค่อยๆ อบรม ด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 17 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรม ธรรมคือสิ่งที่มีจริงๆ เมื่อเป็นสิ่งที่มีจริง ก็เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละอย่างๆ เป็นแต่ละหนึ่งๆ จึงไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน แทรกอยู่ในสิ่งเหล่านั้นเลย มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับบัญชาให้สภาพธรรมเกิดได้ หรือ เมื่อสภาพธรรมเกิดแล้ว ก็บังคับไม่ให้ดับ ก็ไม่ได้ นี้คือ ความเป็นจริงของสภาพธรรม เช่น เห็นเป็นธรรม เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเห็น ไม่ใช่เราที่เห็น ไม่ใช่ใครที่เห็น แต่เป็นธรรม เป็นต้น ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด ยากที่จะเข้าใจ แต่ก็สามารถที่จะเข้าใจได้ ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษาไปตามลำดับ ไตร่ตรองพิจารณาในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง โดยที่ไม่ขาดการฟัง เมื่อสะสมศรัทธาที่จะฟัง เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น ไม่ใช่ว่าจะเจริญขึ้นมากๆ ในทันทีทันใด ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ความเข้าใจจะมีมากได้ ก็มาจากการสะสมไปทีละเล็กทีละน้อยนั่นเอง และที่สำคัญ เข้าใจธรรม ตามกำลังปัญญาของตนเอง แค่ไหนก็แค่นั้น และสะสมการฟัง ต่อไปอีก ซึ่งจะเป็นอุปนิสัยที่ดีทำให้ได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจต่อไปอีกในภายหน้า ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
jaturong
วันที่ 17 ก.พ. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mari
วันที่ 17 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เราก็เหมือนรถยนต์ที่ถูกประกอบขึ้นเป็นรูปร่าง แต่ถ้ารื้อทุกอย่างออกกองไว้จะเรียกว่า

รถได้มั้ยคะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 17 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 17 ก.พ. 2555
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pat_jesty
วันที่ 17 ก.พ. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
homenumber5
วันที่ 18 ก.พ. 2555

เรียท่านวิทยากร

บางครั้งโมหะครอบงำหนัก คิดว่า ถ้าไม่มีตัวตน เรา เขา แล้วเราจะมาฟังธรรมไปเพื่ออะไร คำตอบ ที่ได้จากที่ มศพ. คือ เพื่อปัญญา เพื่อสะสมไป สะสมปัญญาเพื่อการหลุดพ้นจากทุกข์ คนที่ ชอบสนุกสนาน กลับมองว่า งั้น ก็ใช้เวลาหาความสุข สิ ไปฟังธรรมทำไม ถ้าพ้นทุกข์ คือ ไม่มาเกิดอีก ก็อดเป็นเทวดา หรืออดแสวงหา กามสุข คือ เขาหมายถึงว่า เขาไม่คิดว่า เขาจะตกไปอบายภูมิ ขอใช้ชีวิตให้คุ้ม ถ้าพบคำถามแบบนี้ จะชี้แนะอย่างไรดีคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
paderm
วันที่ 18 ก.พ. 2555

เรียนความเห็นที่ 8 ครับ

คงเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย สำหรับผู้ที่ไม่มีศรัทธา ไม่สนใจพระธรรม ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
peeraphon
วันที่ 19 ก.พ. 2555

เรียนความเห็นที่ 8

ผมก็เจอบ่อยครับ แต่พอได้อ่าน และได้ฟัง ธรรม มากขึ้น ก็จะเข้าใจไปเองว่า แต่ละคนมีปัญญาต่างกัน และมีความเข้าใจต่างกันครับ. ต่อให้อธิบายอย่างละเอียด เท่าไหร่ หรือคนฟังที่เราอธิบายให้ฟังจะตั้งใจฟังเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้สะสมมา ก็ยากครับที่จะให้เค้าเข้าใจได้

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
หลานตาจอน
วันที่ 21 ก.พ. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ