ศีลกับการเจริญวิปัสสนา

 
WS202398
วันที่  12 ก.ค. 2554
หมายเลข  18729
อ่าน  3,217

ข้อความจาก อภิธัมมัตถสังคห ไม่สามารถระบุฉบับรุ่นใดได้ มีข้อความว่า

* * * * * * * * * * * * *

ฯลฯ

การเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน

ได้กล่าวความที่ควรทราบเป็นเบื้องต้น สำหรับการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน หรือการ

เจริญวิปัสสนาภาวนามาพอควรแล้ว บัดนี้จะได้กล่าวถึงหลักการในการเจริญวิปัสสนา

อย่างกว้างๆ แต่โดยย่อ ตามนัยแห่งปริยัติไม่ใช่เป็นการกล่าวโดยละเอียด เหมือนกับ

การ กล่าวถึงวิธีการ อย่างถ้วนถี่ตามนัยแห่งการปฏิบัต ิโดยตรง ผู้ประสงค์จะทราบวิธี

การปฏิบัติอย่างพิสดารจะต้องหาความรู้เป็นพิเศษอีกต่างหาก จากคู่มือเล่มนี้ เพราะ

หนังสือคู่มือเล่มนี้จะกล่าวถึงหลักการแต่โดยย่อเท่านั้น

การเจริญวิปัสสนาภาวนา ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ สีลวิสุทธิ อันเป็นวิสุทธิมัคคลำดับที่ ๑ เป็นต้นไป

สีลวิสุทธิ และ จิตตวิสุทธิ

๒๐. ปริสุทฺธิมฺหิ สีลสฺมิ ฐิโต การกปุคฺคโล สมถ วิปสฺสนํ วา ภาวยนฺโต ยถารหํ อุปจารํ อปฺปนํ วา อุปฺปา เทตฺวา สมาหิโต ฯการกะบุคคล ผู้ตั้งอยู่ในสีลอันบริสุทธิแล้ว เจริญอยู่ซึ่ง สมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตามสมควรยังอุปจารสมาธิ หรืออัปปนาสมาธิให้บังเกิดขึ้นแล้ว เป็นผู้มีจิตมั่นคง (จิตตวิสุทธิ) มีความหมายว่า การกะ แปลว่า ผู้กระทำ บุคคลผู้กระทำความเพียรเพื่อบริสุทธิหมดจดจากกิเลส คือ พระโยคี หรือ พระโยคาวจร ไปสู่สปายสถาน ที่ปฏิบัติอันเป็นที่สบาย มีอุตุดินฟ้าอากาศเหมาะสม เป็นอารามที่รื่นรมย์ บริบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหาร ไม่ฝืดเคือง มีกัลยาณมิตร และผู้อุปถัมภ์ ตลอดธรรมอันเป็น สปายะ เหมาะแก่การปฏิบัติอันเป็นไปด้วย กถาวัตถุ สิ่งที่ควรพูด

ฯลฯ

* * * * *

ข้อความที่ว่า

การเจริญวิปัสสนาภาวนา ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ สีลวิสุทธิ อันเป็นวิสุทธิมัคคลำดับที่ ๑

เป็นต้นไป นี้อนุโลมตามข้อความถัดมาใช่หรือไม่ครับเพราะข้อความถัดมาการกะบุคคล

เจริญทั้งสมถะ และวิปัสสนา จึงต้องมีศีลสมบูรณ์แ่ต่การเจริญวิปััสนา คือ สติปัฏฐานนั้น

ไม่ต้องมีศีลสมบูรณ์ก็เจริญได้ใช่หรือไม่ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 12 ก.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จากคำถามที่ว่าการเจริญวิปัสสนาภาวนา ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ สีลวิสุทธิ อันเป็นวิสุทธิมัคคลำดับที่ ๑ เป็นต้นไป นี้อนุโลมตามข้อความถัดมาใช่หรือไม่ครับเพราะข้อความถัดมาการกะบุคคล เจริญทั้งสมถะ และวิปัสสนา จึงต้องมีศีลสมบูรณ์แ่ต่การเจริญวิปััสนา คือ สติปัฏฐานนั้นไม่ต้องมีศีลสมบูรณ์ก็เจริญได้ใช่หรือไม่ครับ---------------------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นต้องเข้าใจคำว่าวิสุทธิก่อนนะครับ การดับกิเลส ก็คือ ความบริสุทธิ์จากกิเลส ดังนั้นต้องมีหนทางที่จะทำให้บริสุทธิ์จาก

กิเลส นั่นคือ วิสุทธิ 7 นั่นเองครับ วิสุทธิคือความบริสุทธิ์ วิเศษอย่างยิ่ง บริสุทธิ์เพราะ

อะไร เพราะไม่มีกิเลสจึงชื่อว่าบริสุทธิ์ เป็นวิสุทธิครับ

ขณะนี้ทุกคนมีกิเลส เป็นผู้ไม่บริสุทธิ์เพราะจิตไม่บริสุทธิ์แต่การจะถึงความบริสุทธิ์

จากกิเลสได้ก็ต้องมีหนทางที่ทำให้ถึงความบริสุทธิ์จากกิเลส พระพุทธเจ้าทรงแสดง

หนทางอีกนัยหนึ่งก็คือ วิสุทธิ 7 คือหนทางให้ถึงความบริสุทธิ์ วิเศษยิ่ง ด้วยวิสุทธิ 7

ประการ ซึ่งก็ต้องเป็นเรื่องของธรรมฝ่ายดีที่จะสามารถขัดเกลากิเลสอันถึงความไม่มี

กิเลสคือบริสุทธิ์ที่วิสุทธิได้ครับ ที่สำคัญที่สุด วิสุทธิ 7 ต้อง ขาดไม่ไ่ด้คือเรื่อง

ของปัญญา หากไม่มีปัญญาแล้วก็ไม่สามารถึงความเป็นวิสุทธิ์คือดับกิเลสหมดสิ้นครับ

หนทางให้ถึงความบริสุทธิ์ วิสุทธิ มี 7 ประการดังนี้ครับ

1. ศีลวิสุทธิ2. จิตตวิสุทธิ3. ทิฏฐิวิสุทธิ

4. กังขาวิตรณวิสุทธิ

5. มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ

6. ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ

7. ญาณทัสสนวิสุทธิ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 12 ก.ค. 2554

1.ศีลวิสุทธิ คือ ศีลใดอันเป็นไปในการขัดเกลากิเลสและทำให้ถึงการบรรลุธรรม

ศีลนั้นเป็นศีลวิสุทธิเพราะเป็นศีลที่ทำให้ถึงความบริสุทธิ์ (วิสุทธิ) เพราะฉะนั้นหาก

เป็นศีลที่ไม่ได้มีความเข้าใจ ไม่มีปัญญาและไม่เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส ไม่ใช่ศีลวิสุทธิครับ ดังนั้นศีลที่บุคคลรักษาและประกอบด้วยปัญญา อันจะนำไปสู่การบรรลุ

มรรคผล ย่อมเป็นศีลวิสุทธิครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรักษาได้ให้ครบ เพราะเมื่อมี

เหตุปัจจัย ก็มีการล่วงศีลเกิดขึ้นได้ครับ ไม่ใช่ว่าจะต้องรักษาศีลให้ได้ก่อนไม่ล่วงอีก

เลย จึงจะค่อยมาอบรมปัญญาครับ ศีลที่มีปัญญา มีความเข้าใจ มีปัญญาที่รู้หนทาง

ดับกิเลสด้วย ศีลนั้นจึงเป็นศีลวิสุทธิ คือ ศีลที่จะนำไปสู่การดับกิเลสได้นั่นเองครับ

แต่ขาดปัญญาไม่ได้ครับ หากรักษาศีล 5 ศีล 8 แต่ไม่เข้าใจหนทางดับกิเลสเลย หรือ

เข้าใจหนทางผิด ศีลนั้นจะถึงความเป็นศีลวิสุทธิไม่ได้ครับ เพราะไม่นำไปสู่ความ

บริสุทธิ์จากกิเลส คือ ถึงความวิสุทธิได้ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่...วิสุทธิ ๗ -- ๑. ศีลวิสุทธิ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 12 ก.ค. 2554

ศีลจะวิสุทธิ ก็ต่อเมื่อมีปัญญารู้ตามความเป็นจริง เพราะจะนำไปสู่ ทิฎฐิวิสุทธิ คือ

มีความเห็นถูกต้องว่าแม้ขณะนั้นก็เป็นธรรมซึ่งไม่ใช่สัตว์บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งหมายถึง

นามรูปปริจเฉทญาณ ศีลในศาสนา จะถึงวิสุทธิศีลได้ คือ ต้องเป็นไปเพื่อการรู้

แจ้งอริยสัจธรรม ถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่ถึง เพราะได้อย่างมากก็เป็นเพียงศีลที่บริสุทธิ์เป็น

เพียงปาริสุทธิศีล แต่ไม่ใช่วิสุทธิศีล เพราะยังมีความเป็นเราที่รักษาอยู่ครับ

สำหรับการเจริญสติปัฏฐาน ขณะที่สติปัฏฐานเกิด ขณะนั้นมีทั้งศีล สมาธิและปัญญา

เกิดพร้อมกันเลยครับ ไม่ต้องไปเจริญแยกศีลก่อน สมาธิต่อและค่อยปัญญาครับ การ

เจริญสติปัฏฐาน จึงเป็นการเจริญไตรสิกขาคือศีล สมาธิและปัญญาในขณะนั้นพร้อมกัน

เพราะขณะที่เจริญสติปัฏฐาน เป็นการสำรวมตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ อันเรียกว่า

อินทรียสังวรศีล ก็เป็นศีลแล้วในขณะนั้น และขณะที่สติปัฏฐานเกิด ก็มีสมาธิด้วยครับ

และก็มีปัญญาด้วยครับ จึงไม่ใช่จะต้องทำศีล แล้ว สมาธิและปัญญาครับ และไม่ใช่ว่า

จะต้องให้ศีลสมบูรณ์ก่อนจึงจะอบรมปัญญาได้ครับ สำหรับในเพศคฤหัสถ์ในสมัย

พุทธกาลมีตัวอย่างมากมาย ที่ล่วงศีล เช่น ข้อกาเม ข้อ ดื่มสุราในชาตินั้น แต่พอได้ฟัง

ธรรมก็บรรลุเป็นพระโสดาบันครับ นั่นแสดงว่า ท่านเจริญสติปัฏฐาน มรรคมีองค์ 8 ใน

ขณะนั้นซึ่งก็มี ศีล สมาธิและปัญญาพร้อมกันจนบรรลุครับ แม้ท่านเคยล่วงศีลมาก่อน

แต่ก็บรรลุได้ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...ศีลวิสุทธิ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 12 ก.ค. 2554

2.จิตตวิสุทธิ ความสงบแห่งจิตใดที่ทำให้ถึงการดับกิเลสได้หรือเป็นไปในการ

ขัดเกลากิเลสนั่นชื่อว่าจิตวิสุทธิ เพราะเป็นจิตที่สงบและทำให้ถึงการดับกิเลสครับ

เพราะฉะนั้นความสงบแห่งจิตที่เป็นไปในการขัดเกลากิเลสจึงมีตั้งแต่ต้น ที่สงบเพียง

เล็กน้อยและถึงขั้นฌาน แต่ต้องมีปัญญาเข้าใจหนทางใกนรดับกิเลสจึงเป็นจิตวิสุทธิ

ครับ ซึ่งขณะที่สติปัฏฐานเกิด ขณะนั้นก็เป็นจิตวิสุทธิเพราะจิตขณะนั้นสงบและทำให้

ถึงความบริสุทธิ์คือดับกิเลสด้วยสติปัฏฐานครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่... วิสุทธิ ๗ -- ๒. จิตตวิสุทธิ

3.ทิฏฐิวิสุทธิ คือ ความบริสุทธิ์ด้วยความเห็น ที่มีความเห็นว่ามีสัตว์ บุคคลนั่นเป็น

ความเห็นผิด ดังนั้นทิฏฐิวิสุทธิจึงเป็นปัญญาระดับสูงขั้นวิปัสสนาญาณที่เป็นการแทง

ตลอดสภาพธรรมทีเป็นนามธรรมและรูปธรรม เข้าใจความจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา แยก

ขาดจากกันว่านี่เป็นนามธรรม นี่เป็นรูปธรรมครับอันเป็นนามรูปปริจเฉทญาณ ซึ่งเป็น

วิสุทธิคือบริสุทธิ์จากความเห็นผิดว่ามีสัตว์ บุคคล บรสุทธิ์ดวยปัญญาว่ามีแต่นามธรรม

และรูปธรรมครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่... วิสุทธิ ๗ -- ๓. ทิฏฐิวิสุทธิ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 12 ก.ค. 2554

4.กังขาวิตรณวิสุทธิ ปัญญาที่ข้ามจากความสงสัยว่าทุกอย่างเกิดตามเหตุปัจจัย

ครับ จึงบริสุทธิ์ วิสุทธิจากความไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย อันเป็นป็นปัญญา

ระดับวิปัสสนาญานที่เรียกว่า ปัจจยปริคคหญาณ

เชิญคลิกอ่านที่นี่...วิสุทธิ ๗ -- ๔. กังขาวิตรณวิสุทธิ

5.มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ
คือปัญญาที่ข้ามพ้นจากกิเลสที่หลอกให้หลงที

เป็นวิปัสสนูกิเลส ซึ่งเป้นปัญญาระดับสูงทีเป็นวิปัสสนาญาณขั้นอุททยัพพยญาณ

เชิญคลิกอ่านที่นี่..วิสุทธิ ๗ -- ๕. มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ

6.ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ คือ ปัญญาที่ข้ามระดับอุททยัพพยญาณ จนถึงระดับ

มรรคจิตครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่... วิสุทธิ ๗ -- ๖. ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ

7.ญาณทัสสนวิสุทธิ คือปัญญาระดับมรรคจิต คือสามารถดับกิเลสได้ในขณะนั้น

อันถึงความบริสุทธิ์คือการดับกิเลสครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่... วิสุทธิ ๗ -- ๗. ญาณทัสสนวิสุทธิ

จะเห็นได้ว่าจะขาดความเข้าใจคือปัญญาไม่ได้เลยในเรื่องของวิสุทธิเพราะหากขาด

ปัญญาแล้วจะถึงความสิ้นกิเลส เป็นวิสุทธิไม่ได้ครับ แต่ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม

ให้เข้าใจทีละเล็กละน้อย เมื่อปัญญาเจริญขึ้นก็จะค่อยๆ นำไปสู่ความเป็นวิสุทธิโดย

ไม่มีตัวตนไปทำวิสุทธิ 7 ครับ หนทางเดียวคือฟังพระธรรมในหนทางที่ถูกเท่านั้น

ปัญญาจะทำหน้าที่เองครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 12 ก.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงนั้น มีความละเอียดลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกของผู้ได้ฟังได้ศึกษาเป็นสำคัญ ไม่มีวิธีลัด ไม่มีการให้ไปทำอะไรด้วยความเป็นตัวตน หรือ ด้วยความไม่เข้าใจ และประการที่สำคัญ หนทางแห่งความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลายนั้น พระองค์ทรงแสดงไว้ว่าเป็นการอบรมมรรคมีองค์ ๘ หรือ สติปัฏฐาน ซึ่งเป็นทางสายกลาง อันเริ่มต้นด้วยความเข้าใจถูก เห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ หรือ ปัญญา) ไม่เข้าใกล้กิเลสโดยประการทั้งปวง จะเห็นได้ว่า วิสุทธิ นั้น เป็นความหมดจด หรือ เป็นความบริสุทธิ์ จะหมดจดหรือจะบริสุทธิในทันทีทันใดไม่ได้ ไม่ใช่จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว [ฟังพระธรรมในวันนี้แล้วจะให้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล เป็นไปไม่ได้] ต้องอาศัยการอบรม ตั้งต้นด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตามลำดับ เพราะถ้าหากว่าไม่เริ่มต้นที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจแล้วก็ไม่สามารถถึงความเป็นผู้บริสุทธิ์ได้เลย ความบริสุทธิ์เป็นเรื่องของปัญญา สัตว์ทั้งหลายจะบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา ซึ่งความบริสุทธิ์อย่างนี้ไม่มีในคำสอนอื่น มีเฉพาะในคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
WS202398
วันที่ 12 ก.ค. 2554

ขอขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ

ผมเข้าใจผิดไปว่า ศีลวิสุทธิ หมายถึง ศีลห้าแบบพระโสดาบัน คือไม่ล่วงเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nong
วันที่ 13 ก.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ