ลักษณะจริงๆ ของธรรมไม่มีชื่อ

 
เมตตา
วันที่  27 พ.ค. 2554
หมายเลข  18431
อ่าน  1,579

ลักษณะจริงๆ ของธรรมไม่มีชื่อ เกิดแล้ว หมดแล้ว ไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไรก็ตาม

ลักษณะนั้นก็ไม่เปลี่ยน มีลักษณะเฉพาะของตนของตน ผู้ศึกษาน้อมเข้าใจลักษณะ

ของสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่ต้องเรียกชื่อว่าอะไรเลย ขณะนี้มีเห็น มีได้ยิน มีโกรธ

มีความพอใจ มีความถือตน มีอิจฉา มีความตระหนี่ ต้องเรียกชื่อไหม? ไม่ว่าจะ

เรียกชื่อว่าอะไร ลักษณะนั้นๆ ก็ไม่เปลี่ยน และก็เพราะสภาพธรรมมีหลากหลายแตก

ต่างกัน จึงต้องใช้ชื่อเพื่อให้รู้ว่าหมายถึงสภาพธรรมใด

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...

การฟังพระธรรม ต้องอาศัย ชื่อ ชื่อเป็นสี่งที่สำคัญมาก

ไม่ต้องตั้งชื่ออะไรเลย

....ขออนุโมทนาค่ะ..


Tag  ชื่อ  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ZetaJones
วันที่ 27 พ.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 27 พ.ค. 2554

"เพราะสภาพธรรมมีหลากหลายแตกต่างกัน จึงต้องใช้ชื่อเพื่อให้รู้ว่าหมายถึงสภาพธรรมใด"...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา ครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
raynu.p
วันที่ 28 พ.ค. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
อิสระ
วันที่ 28 พ.ค. 2554
ขออนุโมทนาอย่างยิ่งครับผม (ยิ้มให้ๆ ) (ดอกไม้)
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 28 พ.ค. 2554

...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา ครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
bsomsuda
วันที่ 30 พ.ค. 2554

".. ผู้ศึกษาน้อมเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงๆ

ไม่ต้องเรียกชื่อว่าอะไรเลย.."

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะพี่เมตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วินิจ
วันที่ 31 พ.ค. 2554

ฟังหัวข้อของ"พีเมตตา"ทุกหัวข้อ...คิดว่ากำลังฟังอ.สุจินต์...ขออนุโมทนาครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 31 พ.ค. 2554

เรียน คุณวินิจ

ส่วนใหญ่หัวข้อ และเนื้อหาสาระของกระทู้ พี่นำมาจากที่ท่านอาจารย์บรรยายค่ะ

แต่ท่านอธิบายได้ไพเราะลึกซึ้งมาก พี่นำมาแค่บางส่วนบางตอนเท่านั้น และความ

ไพเราะลึกซึ้งก็ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ก็ได้เกื้อกูลแก่ผู้ที่ไม่มี

โอกาสมาฟังพระธรรมที่มูลนิธิ อย่างน้อยๆ ก็ได้รับประโยชน์บ้างจากกระทู้ และต้อง

ขอขอบพระคุณ อ. คำปั่น ที่ให้ข้อแนะนำอย่างมาก ทั้งหัวข้อและเนื้อหาสาระที่สำคัญ

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาน้องวินิจ

และ ขออนุโมทนา ในกุศลจิตของ อ.คำปั่น และทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
วินิจ
วันที่ 2 มิ.ย. 2554

เรียน"พี่เมตตา"ที่เป็นที่รักของญาติธรรมทุกท่าน (ผมสัมผัสเอาจากที่มีคนโพสต์ถึงครับ)

ผมก็ตามอ่านของ"พี่เมตตา"อยู่หลายหัวข้อ,คือเวลาผมอ่านมันจะเหมือนฟัง,ดังนั้น

ที่ผมโพสต์ว่า"ฟัง..."ก็คือเป็นไปตามความรู้สึก,คล้ายๆ เรา"อิน"ในเนื้อหาและสำนวน,

มันก็รู้สึกเหมือนกำลังฟัง อ.สุจินต์ ซึ่งก็ฟังอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว,มันเหมือนได้ยินเสียง

ของท่านกังวาลอยู่ในโสตประสาท,เพราะเมื่อเราต้องการรู้เนื้อหาเราก็ต้อง"อ่าน" (ในใจ)

ให้ตัวเราเองฟัง,แต่เสียงที่เราได้ยินในใจมันไม่ใช่เสียงเรา,มันแปลงเป็นเสียงคล้าย อ.

สุจินต์โดยอัตโนมัติ,คือสำเนียงสำนวนของท่าน อ.สุจินต์ จะเป็นลักษณะที่ไพเราะ

สุภาพไม่มีคำลวกๆ ใดๆ เลย,ตั้งแต่ฟังธรรมมา,ก็รู้สึกว่าท่านพูดธรรมะได้ไพเราะนุ่มนวลที่

สุดในความรู้สึกของผม (ไม่ได้แกล้งเยินยอเลย) ,ถึงอย่างไรก็ขอขอบคุณ"พี่เมตตา"ด้วย

ที่มีจิตใจ"เอื้อเฟื้อ"และปรารถนาดีต่อ"สรรพชีวิต"ของผู้แสวงหา"โมกขธรรม"โดยไม่รู้

เหน็ดเหนื่อย ขออนุโมทนาด้วยครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
วิริยะ
วันที่ 2 มิ.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 2 มิ.ย. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธา และวิริยะของน้องวินิจ ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
natre
วันที่ 9 มิ.ย. 2554

ทุกวันนี้ผมก็กำลังอินกับคำสอนของท่านอาจารย์เช่นกันครับ กราบอนุโมทนากับ

จืตเมตตากับท่านผู้รู้ ทุกๆ ท่านครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ