ความน่าอัศจรรย์ของอาจารย์และศิษย์

 
kanchana.c
วันที่  27 ก.พ. 2554
หมายเลข  17952
อ่าน  1,549

วันนี้ (๒๖ ก.พ. ๕๔) ได้ดูดีวีดี บันทึกการสนทนาธรรมที่อยุธยาเมื่อวันที่ ๑๕ – ๑๖

ก.พ. ๕๔ ดูภาพเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว ก็อดรู้สึกทึ่งในความน่าอัศจรรย์ของอาจารย์

และศิษย์ไม่ได้

อาจารย์ คือ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์นั้น ท่านน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งจริงๆ ใน

วัยย่างปีที่ ๘๕ ท่านยังแข็งแรง แจ่มใส ดูจากอากัปกิริยายืน เดิน นั่งแล้วราวกับอายุ ๖๐

กว่าๆ ยิ่งฟังเสียงที่บรรยายธรรมแล้ว ไพเราะสดใสราวกับสาวๆ ท่านนั่งตัวตรง

บรรยายธรรมติดต่อกันทีละ ๒ – ๓ ชั่วโมง และบรรยายทั้งเช้าและบ่าย การบรรยาย

ธรรมของท่านที่กลั่นกรองมาจากการศึกษาจาก พระไตรปิฎกและอรรถกถา พิจารณา

เข้าใจ ประจักษ์แจ้งแล้วนั้นเหมือนน้ำใสเย็นที่ไหลรินออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย

ท่านถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติของผู้แสดงธรรมที่ดี คือ แสดงธรรมไปโดยลำดับ ไม่ตัดลัด

ให้ขาดความ อ้างเหตุผลแนะนำให้ผู้ฟังเข้าใจ ตั้งจิตเมตตาปรารถนาให้เป็นประโยชน์

แก่ผู้ฟัง ไม่แสดงธรรมเพราะเห็นแก่ลาภ ไม่แสดงธรรมกระทบตนและผู้อื่น คือว่า ไม่ยก

ตนเสียดสีผู้อื่น

เราฟังท่านบรรยายธรรมมาหลายสิบปี เมื่อได้ถอดเทปคำบรรยาย จึงพบว่า คำพูด

ของท่านนั้นเป็นภาษาเขียนได้ทั้งสิ้น นึกว่าการพูดด้วยสำนวนไพเราะสละสลวยนั้น ทำ

ได้ง่ายๆ มารู้ว่ายากมาก ต้องใช้ความสามารถส่วนบุคคลจริงๆ เมื่อตัวเองพูดนำการ

สนทนาไม่กี่ประโยค ก็เอ้ออ้าเสียหลายสิบหน ทั้งๆ ที่คิดและเขียนไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า ท่านสะสมมานานแล้ว ท่านเคยเล่าให้ฟังในโต๊ะอาหารครั้งหนึ่งว่า

คุณพ่อท่านคิดว่าจะเลือกให้ลูกเรียนโรงเรียนของอังกฤษหรือของฝรั่งเศส และในที่สุด

ก็ให้เข้าเรียนโรงเรียนของอังกฤษ คือ เซ็นต์แมรี เอส. พี. จี. ซึ่งเป็นโรงเรียนดังในยุค

นั้น แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ปิดทำการไปอย่างถาวร ภายหลังท่านสอนภาษา

ไทยให้พวกมิชชันนารี ซึ่งมีหลายชาติ มีทั้งชาติตะวันตก ญี่ปุ่น เวียตนาม จีน ภาษา

อังกฤษ ที่ใช้มีสำเนียงต่างๆ กัน ท่านสอนที่นี่ถึง ๒๓ ปี จึงคุ้นเคยกับสำเนียงเหล่านี้ ดัง

นั้น ท่านจึงสามารถบรรยายธรรมกับชาวต่างชาติได้คล่องแคล่วราวกับพูดภาษาไทย

และท่านก็สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษและภาษาไทยของชาวต่างชาติที่คนอื่นๆ ฟังไม่

เข้าใจได้อย่างดี

ท่านอาจารย์จึงเป็นสัปบุรุษโดยแท้ นึกถึงตอนนี้ก็รู้สึกตนเองโชคดีอย่างยิ่ง ที่มีโอกาส

ได้อยู่ในประเทศที่สมควร ได้พบสัปบุรุษ ได้ฟังธรรมจากท่าน ทำให้ตั้งตนไว้ชอบ และคง

เป็นผู้ได้ทำความดีไว้ในปางก่อน จึงได้มีโอกาสดีเช่นนี้

ส่วนศิษย์ คือ สหายธรรมทั้งหลายที่ร่วมฟังการบรรยายด้วยกันนั้น ก็น่าอัศจรรย์ เมื่อ

เห็นสีหน้าขณะที่ฟังธรรม ท่านอาจารย์บอกว่าในอรรถกถาใช้คำว่า “ตาบาน” คงเหมือน

ดอกไม้บาน คือ ดวงตาเบิกโต เป็นประกายแจ่มใสเจิดจ้าด้วยความเข้าใจ มองไปรอบๆ

ทุกคนมีสีหน้าแสดงความปีติที่ได้เข้าใจพระธรรม ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวด้วยกันทั้งหมด น่า

อัศจรรย์จริงๆ ที่ท่านเหล่านี้มีความสนใจมานั่งหลังขดหลังแข็งฟังธรรมได้เป็นวันๆ แทน

ที่จะไปดูคอนเสิร์ต ดูหนัง ดูกีฬา อยู่กับครอบครัว เล่นกับลูกหลาน เหมือนคนอื่นๆ อีก

เป็นจำนวนมากในโลกนี้

ก็รู้สึกโชคดีอีกครั้ง ที่ได้มีสหายธรรมเป็นกัลยาณมิตรที่เกื้อกูลกันในทางธรรม เพื่อให้

การเดินทางกันดารอันแสนไกลในสังสารวัฏฏ์นั้นไม่ยากลำบากเกินไป

ขอกราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด ที่ทำให้ได้เจริญกุศลทุกประการ

มากขึ้นเรื่อยๆ ท่านเคยบรรยายไว้ว่า ทำความดีเท่าไรก็ไม่พอ จนกว่าจะมีปัญญา ความ

เข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง ประจักษ์แจ้งจริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม

ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ว่าจะเป็นกุศล หรืออกุศล ก็ล้วนแต่เป็นสภาพธรรม

ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย คือ อวิชชา ทั้งกุศลและอกุศลเป็นเหตุให้ต้องเกิดมาได้รับ

ผล คือ กุศลวิบากและอกุศลวิบากต่อไปไม่สิ้นสุด เมื่อหมดอวิชชา เป็นพระอรหันต์ คง

เหลือแต่กิริยาจิตและวิบากจิตเท่านั้น จึงไม่ต้องเกิดอีก เป็นการสิ้นสุดสังสารวัฏฏ์นั่น

เอง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 27 ก.พ. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา และทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 27 ก.พ. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

..............

"...ก็รู้สึกโชคดีอีกครั้ง ที่ได้มีสหายธรรมเป็นกัลยาณมิตรที่เกื้อกูลกันในทางธรรม เพื่อให้

การเดินทางกันดารอันแสนไกลในสังสารวัฏฏ์นั้นไม่ยากลำบากเกินไป..."

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงด้วยครับ มีความรู้สึกเช่นว่านี้บ่อยๆ ด้วยเช่นกันครับ


 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 28 ก.พ. 2554

รู้สึกเป็นช่วงเวลาที่มีค่ายิ่ง...ขณะที่ฟังธรรมะจากท่านอาจารย์ขอกราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดและขออนุโมทนาพี่แดงในกุศลทุกประการที่กระทำและยังเปิดโอกาสผู้อื่นร่วมกระทำด้วยคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 28 ก.พ. 2554

ขอกราบอนุโมทนาในพระคุณของท่านอาจารย์อย่างยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านที่มีศรัทธาอันมั่นคงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
intira2501
วันที่ 28 ก.พ. 2554

ขอกราบอนุโมทนาในพระคุณของท่านอาจารย์อย่างยิ่งและขออนุโมทนาในกุศลจิตของ ทุกท่าน แม้ว่าไม่มีโอกาสได้มาฟังด้วยแต่ก็รู้สึกว่าตนเองโชคดีที่มีโอกาสได้เห็นภาพที่ ประทับใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jans
วันที่ 28 ก.พ. 2554

ขอกราบบูชาพระคุณของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงและสหายธรรมทุกๆ ท่านคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่ 28 ก.พ. 2554

ทุกถิ่น ทุกที่ ทุกเวลา เช้า สาย บ่าย ค่ำ เสียงสนทนาธรรม ดังกังวาล เบา กระซิบ ทุกที่ประชุม กลุ่มคน แม้บุคคล เพื่อให้แสงธรรมสว่างไป

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
prakaimuk.k
วันที่ 1 มี.ค. 2554

"หนทางสว่างด้วยแสงไฟ จิตใจสว่างด้วยแสงธรรม"

ท่านอาจารย์เป็นผู้นำความสว่างมาสู่จิตใจเรา กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ

ขอตอบแทนพระคุณของท่านด้วยการเพียรฟังธรรม ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรมค่ะ

ขออนุโมทนากับสหายธรรมทุกๆ ท่าน ที่เมตตากรุณาโพสต์สิ่งดีๆ มาให้อยู่เสมอๆ ....

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 1 มี.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพอย่างสูงยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลต่าง ๆ ของพี่แดงและทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 1 มี.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ท่านเคยบรรยายไว้ว่า ทำความดีเท่าไรก็ไม่พอ จนกว่าจะมีปัญญา ความเข้าใจ

สภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง ประจักษ์แจ้งจริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรม

ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ว่าจะเป็นกุศล หรืออกุศล ก็ล้วนแต่เป็น

สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

กราบบูชาและขออนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านพรำสอน และชี้แนวทางสายเอก ซึ่งก็คือ การอบรมเจริญสติปัฏฐานตามที่

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้อย่างดีแล้วโดยไม่ได้คิดเอาเอง หรือ

หา "ทางลัดอื่น" ซึ่งไม่ใช่ทางสายเอกที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ นั่นคือ

การแสดงหนทางการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ซึ่งต้องเริ่มจากขณะนี้ เดี๋ยวนี้มีสภาพ-

ธรรมกำลังปรากฏ สิ่งที่มีอยู่จริงที่กำลังปรากฏ เป็นธรรมะเป็นพระอภิธรรมซึ่งเป็น

ของจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่ควรเข้าใจถูกต้อง เห็นถูกต้องค่ะ

กราบขอบพระคุณพี่แดงและพี่สงบที่เพียรอบรมเจริญกุศลทุกประการ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
pamali
วันที่ 2 มี.ค. 2554

ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ขอบพระคุณอาจารย์สงบ และอาจารย์กาญจนา เชื้อทองและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ....

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
icenakub
วันที่ 2 มี.ค. 2554

สาธุ สาธุ สาธุ

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
พงศ์ศิริ
วันที่ 3 มี.ค. 2554

เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ได้ไปฟังธรรมที่มูลนิธิ ประโยคสำคัญของท่านอาจารย์คือ

"การเจริญสติปัฎฐานไม่มีทางลัด"

ท่านอาจารย์เป็นบุคคลที่น่าทึ่ง และน่าติดตามจริงๆ รักท่านมาก (ก็รู้ว่ากิเลสแต่ห้ามใจไม่ได้นี่คะ!) แม้ไม่ได้ใกล้ชิด

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
กมลพร
วันที่ 3 มี.ค. 2554

บทความนี้เขียนได้ตรงใจมากค่ะ ขอบพระคุณอย่างที่สุดสำหรับ คุณ Kanchana.c จริงๆ ที่ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 3 มี.ค. 2554
อนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
ผิน
วันที่ 3 มี.ค. 2554
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
SOAMUSA
วันที่ 11 มี.ค. 2554

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ค่ะ ที่ท่านได้เมตตาบรรยายธรรมะมาหลายสิบปีค่ะ

และขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
peem
วันที่ 13 พ.ค. 2556

ขอกราบอนุโมทนาคะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ