ฉัฏฐายตนะ

 
คนรักธรรมะ
วันที่  11 พ.ย. 2553
หมายเลข  17508
อ่าน  2,108

ขอเรียนถามท่านผู้รู้ค่ะ ฉัฏฐายตนะ คือ อะไรคะ

ขอบคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 11 พ.ย. 2553

คำว่า ฉัฏฺฐายตนะ หมายถึง อายตนะที่ ๖ คือ มนายตนะ ได้แก่ จิตทั้งหมด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 11 พ.ย. 2553

ทั้ง ฉัฏฺฐายตนะ และมนายตนะ คือ จิต (อายตนะที่ ๖)

รบกวนขอคำอธิบายเพิ่มเติมค่ะว่า เหตุใดจึงใช้่ชื่อต่างกัน มีความแตกต่างกันหรือไม่คะ อย่างไรคะ

ขอขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prachern.s
วันที่ 12 พ.ย. 2553

การแสดงอายตนะมีหลายนัย คือ บางแห่งแสดงอายตนะ ๑๒ บางแห่ง แสดง ๖ บางแห่งแสดงเพียง ๑ คือ อายตนะที่ ๖ เท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ว่ากำลังกล่าวถึงอะไร ภพภูมิไหน จริงอยู่อายตนะมีทั้งหมด ๑๒ แต่ในบางแห่งหมายเอาเฉพาะ อายตนะภายใน ๖ เท่านั้น เช่นในปฏิจจสมุปบาท แต่บางภพภูมิ คืออรูปพรหมภูมิอายตนะ ที่จะเป็นปัจจัยให้เกิด ผัสสะ มีเพียงอายตนะที่ ๖ คือ มนายตนะเท่านั้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 12 พ.ย. 2553

แต่บางภพภูมิ คืออรูปพรหมภูมิอายตนะที่จะเป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ มีเพียงอายตนะที่ ๖ คือ มนายตนะ เท่านั้นครับ ขอเรียนถามอีกสักนิดค่ะ จิต อาศัยรูปและผัสสะ ในการเกิดขึ้นทุกครั้งหรือไม่คะ และ อรูปพรหม ไม่มีรูป จิตเกิดขึ้นได้อย่างไร จิตเห็น จิตได้ยิน...จิตรู้สัมผัสทางกาย เป็นต้น ย่อมไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่ว่า จิตที่อาศัย ใจ + ธรรมารมณ์ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ในขันธ์ 5 จิตเกิดขึ้นโดยอาศัย หทยวัตถุ ในขันธ์ 1 จิตไม่เกิดขึ้นเลย (มีรูป แต่จะมีหทยวัตถุด้วยหรือไม่..ไม่แน่ใจ) แต่ขันธ์ 4 .. (ยังรอคำตอบค่ะ)

ขอขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chaiyut
วันที่ 13 พ.ย. 2553

เรียน ความเห็นที่ 4

จิตและเจตสิกที่เกิดกับจิตนั้น อาศัยกันและกันจึงเกิดได้ อรูปพรหม ไม่มีรูปแต่เมื่อยังไม่ใช่ปรินิพพานของพระอรหันต์ จิตจึงต้องเกิดขึ้นโดยอาศัยเจตสิกที่เกิดร่วมกับตนเป็นปัจจัย การเกิดเป็นอรูปพรหมบุคคลเป็นผลของการได้อรูปฌาน ซึ่งเป็นฌานที่ประกอบด้วยปัญญาระดับสูง บุคคลผู้อบรมฌานประเภทนี้ ไม่ปรารถนาที่จะมีรูปใดๆ เพราะเห็นโทษของการมีรูป ว่าเป็นที่ตั้งให้ใจไม่สงบ เป็นที่ตั้งของโรคภัยความเจ็บป่วยต่างๆ เมื่อบุคคลนั้นอบรมฌานจิตอยู่เสมอ จนฌานจิตไม่เสื่อมก่อนตาย หลังจากตายฌานจิตนั้นจึงให้ผลปฏิสนธิในอรูปพรหมภูมิ เมื่อเกิดในภูมิที่ไม่มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่ยังไม่ใช่ การดับขันธปรินิพพานของพระอรหันต์ สังสารวัฏฏ์จึงต้องเป็นไป อาศัยมโนทวารที่มี จิตจึงเกิดขึ้นรู้อารมณ์ที่สามารถจะรู้ได้ อาศัยเจตสิกที่เกิดร่วมกัน อาศัยกรรมที่ได้กระทำไว้ จิตจึงเกิดขึ้นได้ในภูมินั้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
คนรักธรรมะ
วันที่ 26 พ.ย. 2553

ขออภัยที่ตอบล่าช้าค่ะ

กรณีนี้...เข้าใจว่า ถ้าขันธ์ 5 จิตที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากอาศัยทางทวารทั้ง 5 ในการเกิดแล้ว จิตที่เหลือทั้งหมดต้องอาศัยหทยวัตถุด้วยเสมอ แต่ขัันธ์ 4 จิตที่เกิดขึ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องอาศัยหทยวัตถุ แน่นอน (เพราะไม่มีรูป) แต่อาศัยเจตสิกและกรรมที่กระทำไว้เท่านั้น จิตก็เกิดขึ้นได้ การเกิดขึ้นของจิตนี่มีหลากหลายเลยนะคะ

ขอขอบคุณคำตอบของ คุณ prachern.s และ คุณ chaiyut ค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chaiyut
วันที่ 12 ธ.ค. 2553

ไม่ใช่เฉพาะเจตสิกที่เกิดร่วมกับจิต และกรรม ที่ทำให้จิตเกิดขึ้นในอรูปพรหมภูมิเท่านั้น แต่จิตก็ยังต้องอาศัยปัจจัยจากจิตดวงก่อนที่เกิดแล้วดับไป จึงจะเกิดขึ้นได้ด้วย เพราะเหตุว่าจะมีจิต ๒ ดวงเกิดพร้อมกันในขณะเดียวกันในบุคคลเดียวกันไม่ได้ จิตต้องเกิดขึ้นทีละ ๑ ขณะ และเกิดดับสืบต่อกันด้วยอำนาจของปัจจัย ที่ทำให้จิตมีการเกิดดับสืบต่อกันโดยไม่มีระหว่างคั่น และเกิดขึ้นเป็นไปตามลำดับของจิตประเภทต่างๆ ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 6 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ