เข้าใจผิดอีกแล้ว

 
kanchana.c
วันที่  11 ต.ค. 2553
หมายเลข  17338
อ่าน  1,349

ถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมพิธีใหญ่ครั้งหนึ่ง ไปถึงก่อนใครๆ จึงเลือกที่นั่งตรงกลางๆ คิดว่าคงเหมาะสมกับยศตำแหน่งของตน เจ้าหน้าที่ต้อนรับ มาบอกให้ไปนั่งข้างหลัง (น่าจะไปพาไปนั่งตั้งแต่แรก หรือเราไปถึงก่อนที่จะมาทำหน้าที่) เพราะที่เรานั่งนั้น สำหรับผู้ใหญ่กว่า เรารู้สึกหน้าชาด้วยความละอาย และความโกรธ เข้าใจความทุกข์ของเทวดาที่ต้องถอยไปข้างหลังเรื่อยๆ ถ้ามีเทวดาผู้มีศักดิ์มากกว่ามาปรากฏตน แต่เมื่อใกล้เวลาทำพิธี ที่นั่งที่กันไว้ให้ผู้ใหญ่กว่าเรานั่งนั้น ก็ว่างเปล่า เพราะไม่มีผู้ใหญ่มา เจ้าหน้าที่คนเก่าก็มาเชิญคนที่นั่งข้างหลังไปนั่งข้างหน้าให้เต็ม โดยไม่คำนึงถึงยศตำแหน่งเหมือนตอนแรก เมื่อเวลาผ่านไป มานึกดูแล้ว ก็เกิดหิริโอตตัปปะ ละอายใจที่เกิดความโกรธในเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีมานะถือตัวถือตน ทั้งๆ ที่ฟังธรรม ศึกษาธรรมมาตั้งนานแล้ว ก็น่าจะเห็นโทษของความโกรธ และความสำคัญตนบ้าง แต่เมื่อฟังเรื่องการบำเพ็ญบารมีในชีวิตประจำวัน ที่ท่านอาจารย์บรรยายไว้ใน “แนวทางเจริญวิปัสสนา” แล้ว ก็รู้ว่า เราเข้าใจผิดมากอีกแล้ว (และถ้าศึกษาธรรมต่อไป ก็คงจะรู้ว่า เข้าใจผิดอีกแล้วไปเรื่อยๆ เพราะปัญญาของเรานั้นน้อยกว่า จะงอยปากยุงที่จุ่มลงในมหาสมุทร ฟังเรื่องใหม่ ก็รู้ว่าเข้าใจผิดอีกแล้ว เห็นหรือยังว่า ถูกห่อหุ้มอยู่ในเปลือกไข่ของอวิชชาและโลภะหนาแน่นขนาดไหน) ผู้ที่ไม่โกรธเลย คือ พระอนาคามีบุคคล ผู้ที่ไม่มีมานะ ความสำคัญตนคือ พระอรหันต์ แล้วเราเป็นใคร ถึงจะหยุดโกรธ หยุดถือตัวถือตน ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาที่ยังมีกิเลสมากมาย ได้ฟังธรรมศึกษาธรรมเพียงเล็กน้อย ก็คิดว่าเราไม่น่าจะโกรธ ไม่น่าจะถือตัวอย่างนี้ได้อย่างไร ความไม่โกรธ ไม่ถือตนนั้นเป็นคุณธรรมของพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เมื่อเหตุสมควร คือ ท่านเจริญปัญญาจนได้บรรลุคุณธรรมขั้นนั้นๆ แล้ว ก็เป็นเหตุให้กิเลสเหล่านั้นหมดไปได้ ไม่ใช่ฟังธรรม แล้วรู้ว่า กิเลสเป็นสิ่งที่ควรละ ก็อยากจะหมดไปเลย ท่านอาจารย์บรรยายว่า สำหรับปุถุชนนั้นควรเดินตามรอยของพระโพธิสัตว์ คือ บำเพ็ญบารมีทั้ง ๑๐ ให้ครบถ้วนก่อน ไม่ใช่จะดำเนินตามรอยพระอนาคามีบุคคล คือ ไม่โกรธเลย หรือตามรอยพระอรหันต์ คือ ไม่มีความสำคัญตนเลย นั่นเป็นความเข้าใจผิดของเราเอง ตอนนี้ควรฟังธรรมให้เข้าใจมากขึ้นว่า ทุกอย่างเป็นธรรม เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ฟังธรรมให้เข้าใจ เพื่อเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติระลึกถึงลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏไปเรื่อยๆ เจริญกุศลทุกประการ จนกว่าบารมีทั้งหลายจะเต็มเปี่ยม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ฟังธรรมให้เข้าใจ เพื่อเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติระลึกถึงลักษณะของสภาพธรรม ที่ปรากฏไปเรื่อยๆ เจริญกุศลทุกประการ จนกว่าบารมีทั้งหลายจะเต็มเปี่ยม

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ups
วันที่ 12 ต.ค. 2553
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chaiyut
วันที่ 12 ต.ค. 2553

" ไม่น่าจะ ไม่น่าจะได้อย่างไร เพราะทุกอย่างเป็นธรรม เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย"

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
รษิพร
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ได้อ่านข้อความทั้งหมดแล้ว ต้องขอขอบพระคุณ อย่างน้อยได้เรียนรู้เพื่อพิจารณาตัวเอง ที่ต้องเท่าทันเช่นกันและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
aditap
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ขอขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ฟังธรรมเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว และไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง มีธรรมปรากฏให้สติระลึกรู้อยู่ตลอด ฟังธรรมให้เข้าใจ เพื่อเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้สติระลึกถึงลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏไปเรื่อยๆ เจริญกุศลทุกประการ จนกว่าบารมีทั้งหลายจะเต็มเปี่ยม

กราบอนุโมทนาพี่แดงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ประสาน
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 12 ต.ค. 2553

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่แดงด้วยครับ

ยอมรับว่า อ่านเรื่องของท่าน พลอากาศตรีหญิง แห่งกองทัพอากาศไทยครานี้ ยิ้มแล้วยิ้มอีก นอนหลับคืนนี้ นอนยิ้มอย่างมีปีติจริงๆ ครับ

ขอบพระคุณในความจริงใจของพี่แดงอีกครั้งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
กมลพร
วันที่ 13 ต.ค. 2553

เป็นชีวิตประจำวันจริงๆ ค่ะ ซึ่งเกิดกับทุกๆ คน ไม่เหมือนกันตรงที่บางคนรู้เท่าทันก็ ประเสริฐสุด แต่บางคนยังคงความโกรธและมีมานะ สำคัญตนอย่างมาก

ขอบคุณค่ะที่นำมาเป็นตัวอย่างที่ดี

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
hadezz
วันที่ 13 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 14 ต.ค. 2553

อนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pamali
วันที่ 14 ต.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
สมศรี
วันที่ 15 ต.ค. 2553
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
ภัสร์
วันที่ 24 พ.ย. 2553

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
peem
วันที่ 6 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ