คนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง [พาลวรรคที่ ๕]

 
Khaeota
วันที่  20 ส.ค. 2553
หมายเลข  16997
อ่าน  1,670

[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 150

พาลวรรคที่ ๕

ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง

๑. ราตรีของคนผู้ตื่นอยู่นาน โยชน์ของคนล้า แล้วไกล สงสารของคนพาลทั้งหลาย ผู้ไม่รู้อยู่ซึ่ง สัทธรรมย่อมยาว

๒. ถ้าบุคคลเมื่อเที่ยวไป ไม่พึงประสบสหาย ผู้ประเสริฐกว่า ผู้เช่นกับ (ด้วยคุณ) ของคนไซร้ พึงทำความเที่ยวไปคนเดียวให้มั่น เพราะว่า คุณ เครื่องเป็นสหายย่อมไม่มีในเพราะคนพาล. ๓. คนพาลย่อมเดือดร้อนว่า บุตรทั้งหลาย ของเรามีอยู่ ทรัพย์ (ของเรา) มีอยู่ ตนแลย่อม ไม่มีแก่ตน บุตรทั้งหลายจักมีแต่ที่ไหน ทรัพย์จักมี แต่ที่ไหน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Khaeota
วันที่ 25 ก.ย. 2553

[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 150

พาลวรรคที่ ๕ ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง_ 2

๔. บุคคลใดโง่ ย่อมสำคัญความที่ตนเป็น คนโง่ บุคคลนั้นจะเป็นบัณฑิต เพราะเหตุนั้นได้บ้าง สวนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญว่าตนเป็น บัณฑิต บุคคลนั้นแล เราเรียกว่าคนโง่.

๕. ถ้าคนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่แม้จน ตลอดชีวิต เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้ รสแกงฉะนั้น

๖. ถ้าวิญญูชนเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตแม้ครู่เดียว เขาย่อมรู้แจ้งธรรมได้ฉับพลัน เหมือนลิ้นรู้รสแกง ฉะนั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Khaeota
วันที่ 25 ก.ย. 2553

[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 151

พาลวรรคที่ ๕

ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง_3

๗. ชนพาลทั้งหลาย มีปัญญาทราม มีตน เป็นดังข้าศึก เที่ยวทำกรรมลามกซึ่งมีผลเผ็ดร้อนอยู่.

๘. บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนใน ภายหลัง เป็นผู้มีหน้าชุ่มด้วยน้ำตา ร้องไห้เสวยผล ของกรรมใดอยู่ กรรมนั้นอันบุคคลกระทำแล้วไม่ดีเลย

๙. บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมไม่เดือดร้อน ในภายหลังเป็นผู้เอิบอิ่ม มีใจดี ย่อมเสวยผลของ กรรมใด กรรมนั้นแล อันบุคคลทำแล้วเป็นกรรมดี

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Khaeota
วันที่ 17 ต.ค. 2553

[เล่มที่ 70] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 151

พาลวรรคที่ ๕

ว่าด้วยคนพาลร้ายกว่าทุกอย่าง_ 4

๑๐. คนพาลย่อมสำคัญบาปประดุจน้ำผึ้ง ตราบ เท่าที่บาปยังไม่ให้ผล ก็เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้น คนพาลย่อมประสบทุกข์.

๑๑. คนพาล พึงบริโภคโภชนะด้วยปลายหญ้า คาทุกๆ เดือน เขาย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งท่าน ผู้มีธรรมอันนับได้แล้ว.

๑๒. ก็กรรมชั่วอันบุคคลทำแล้ว ยังไม่ให้ผล เหมือนน้ำนมที่รีดในขณะนั้น ยังไม่แปรไปฉะนั้น บาปกรรมย่อมตามเผาคนพาล เหมือนไฟอันเถ้า กลบไว้ฉะนั้น.

๑๓. ความรู้ย่อมเกิดแก่คนพาล เพียงเพื่อ ความฉิบหายเท่านั้น ความรู้นั้นยังหัวคิดของเขาให้

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Khaeota
วันที่ 9 มี.ค. 2554

[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒-หน้าที่ 237

แก้อรรถ

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สชฺชุขีร ความว่า น้ำนมซึ่งไหล ออกจากนมของแม่โคนมในขณะนั้นนั่นแล ยังอุ่น ย่อมไม่เปลี่ยน คือ ย่อมไม่แปรไป. พระศาสดา ตรัสคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า " น้ำนมที่เขารีด ในขณะนั้น ย่อมไม่เปลี่ยน คือไม่แปร ได้แก่ไม่ละปกติในขณะนั้น นั่นแล. แต่ที่เขารีดใส่ไว้ในภาชนะใด. ก็ย่อมไม่ละปกติตราบเท่าที่ยัง ไม่ได้ใส่ของเปรี้ยวมีเปรียงเป็นต้น ลงในภาชนะนั้น คือตราบเท่าที่ยัง ไม่ถึงภาชนะของเปรี้ยว มีภาชนะนมส้มเป็นต้น ย่อมละในภายหลัง ฉันใด; แม้บาปกรรมที่บุคคลกำลังทำ ก็ย่อมไม่ให้ผลฉันนั้นเหมือนกัน. ถ้าบาปกรรมพึงให้ผล (ในขณะทำ) ใครๆ ไม่พึงอาจเพื่อทำบาปกรรม ได้.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 10 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ