สำหรับผู้เริ่มต้น

 
วิสุทธิ์
วันที่  17 ส.ค. 2553
หมายเลข  16963
อ่าน  2,869

แนะนำการศึกษาพระธรรม

พุทธศาสนิกชนที่ดี ควรมีความมั่นคงเรื่อง เหตุ ผล และความจริง เป็นผู้ที่ไม่เชื่อสิ่งใดโดยง่ายหรือไม่ได้ไตร่ตรอง คิด พิจารณา ก่อน

พุทธศาสนา คือ พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า กระทำเหตุอย่างไร ก็ได้รับผลอย่างนั้น เรียกว่า กรรม

กรรม คือ การกระทำ กระทำดี คือ กรรมดี ได้รับผลดี เป็นสุข

กระทำชั่ว คือ กรรมชั่ว ได้รับผลไม่ดี เป็นทุกข์

คนเราทุกคนทำทั้งกรรมดีบ้าง กรรมชั่วบ้าง มามากมายนับไม่ถ้วน ผลนั้นย่อมจะได้รับอย่างแน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ทั้งกรรมในปัจจุบันชาติรวมถึงกรรมในอดีตชาติด้วย ซึ่งการรับผลของกรรมเพียงชาตินี้ชาติเดียวนั้น จะรับผลไม่หมดอย่างแน่นอน

ถ้าเหตุที่ทำให้การเกิดยังมี ผลคือการเกิดก็ต้องมี พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ว่า ถ้ามนุษย์ยังมีกิเลส (โลภะ โทสะ โมหะ) เป็นเหตุอยู่ ผลก็คือเป็นทุกข์และยังต้องเกิดอีกไม่รู้จบ

คำว่า ชาติ หมายถึง การเกิด ถ้ายังไม่หมดกิเลส ชาติหน้าและชาติต่อๆ ไปย่อมมีผลของกรรมดี ทำให้เกิดในสุคติภูมิคือ พรหม สวรรค์ มนุษย์ ผลของกรรมชั่วทำให้เกิดในทุคติภูมิคือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉาน ตามกรรมของแต่ละคนที่ทำแล้วมากมาย ทั้งดีและไม่ดี ตายแล้วเกิดอีกในภพภูมิต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด (สังสารวัฏฏ์)

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ปัจจุบันชาตินี้ ทำไมบางคน เกิดมายากจน ร่ำรวย สวย หล่อ ขี้เหร่ พิการ สูง ต่ำ ดำ ขาว สุข ทุกข์ แตกต่างกันอย่างมากมาย แท้จริงแล้วเพราะมาจากเหตุ คือ กรรมของแต่ละคนในอดีตชาติ ทำมาแตกต่างกันนั่นเอง

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้หนทางที่จะนำไปสู่การดับกิเลส หนทางที่จะไม่ต้องติดอยู่ในสังสารวัฏฏ์ คือหนทางแห่งมรรคเพื่อดับกิเลสเป็นสมุจเฉท (หมดสิ้น) ไม่เกิดอีก คือ พระนิพพาน

ปัจจุบัน พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากพระพุทธศาสนา เพียงแค่ขั้น ทาน ศีล สมาธิ เท่านั้น แต่ประโยชน์สูงสุดอยู่ที่ ปัญญา

ปัญญา คือ ความรู้ ความเข้าใจธรรมะ ที่ถูกต้องตามความเป็นจริง พุทธศาสนิกชนชื่อว่าเป็นสาวก ของ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า คำว่า สาวก หมายถึง ผู้ฟัง ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาที่ได้ฟังพระธรรมจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วรู้แจ้งธรรมตาม เพราะได้สะสมปัญญามาแล้วในอดีตชาติ เพราะฉะนั้น ปัญญาย่อมมาจากการฟังพระธรรม การอ่าน การเขียน การสนทนาธรรม การบรรยายธรรม เรียกว่าขั้น ปริยัติ

พระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มี ๓ ขั้น

๑. ขั้นปริยัติ ศึกษาพระธรรมวินัย

๒. ขั้นปฏิบัติ เจริญธรรมเพื่อบรรลุธรรมที่ดับกิเลส ดับทุกข์

๓. ขั้นปฏิเวธ รู้แจ้งธรรมที่ดับกิเลส ดับทุกข์

พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับปริยัติมากเพียงพอที่จะเข้าใจพระธรรมได้อย่างถูกต้อง คิดว่า รู้แล้ว เข้าใจแล้ว หรือ เชื่อตามๆ กันมา ปฏิบัติตามๆ กันมา โดยที่ไม่คิด พิจารณาตรวจสอบกับพระธรรมวินัย และเหตุผล ทำให้เข้าใจผิด พอเข้าใจผิด ก็ปฏิบัติผิด พอปฏิบัติผิด ก็ไม่มีทางที่จะรู้แจ้งธรรมได้ มรรคมีองค์ ๘ (หนทางดับทุกข์) เริ่มต้นด้วย สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นถูก คือถูกตั้งแต่ต้นคือ ปริยัติก่อน ฉะนั้นการศึกษาพระธรรมนั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ศึกษาพระธรรมจากไหน

พระไตรปิฎกคือพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้จดจำสืบต่อกันมาโดย มุขปาฐะ คือการทรงจำ จากพระอรหันตสาวก ผู้กระทำสังคายนาพระธรรมวินัยเป็น ๓ ปิฎก การทรงจำได้กระทำสืบต่อกันมาตราบจนกระทั่งได้จารึกเป็นตัวอักษร

๑. พระวินัยปิฎก เกี่ยวกับระเบียบข้อประพฤติปฏิบัติของพระภิกษุ

๒. พระสุตตันตปิฎก เกี่ยวกับหลักธรรมที่ทรงเทศนาแก่บุคคลต่างๆ ณ สถานที่ต่างๆ

๓. พระอภิธรรมปิฎก เกี่ยวกับสภาพธรรมพร้อมทั้งเหตุและผลของธรรมทั้งปวง

พระไตรปิฎกเชื่อถือได้? เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจริง?

ธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแท้ๆ นั้น ต้องเป็นจริง ถูกต้องและพิสูจน์ได้ตั้งแต่ขั้นต้นจนถึงที่สุด ธรรมะที่ทรงแสดงต้องเป็นจริง ไม่ขัดแย้งกัน และเป็นเหตุเป็นผลกันตลอด ฉะนั้น เมื่อเราได้ศึกษาพระไตรปิฎกแล้ว เราก็สามารถพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้าเราศึกษาเข้าใจพระธรรมแล้ว เราจะสามารถแยกแยะได้ว่าในปัจจุบัน สิ่งใดเป็นคำสอนที่ถูกต้อง และคำสอนใดไม่ตรงตามพระธรรมวินัยที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

พระไตรปิฎกสำคัญ?

พระไตรปิฎกนั้น สำคัญต่อการศึกษา เพราะปัจจุบัน มีตำราธรรมะที่เขียนขึ้นมากมายแต่ส่วนใหญ่ จะนำความเห็นส่วนตัวใส่เข้าไปด้วย ทำให้ผิดเพี้ยนจากพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้

พระไตรปิฎกยาก? เริ่มต้นอย่างไร?

พระไตรปิฎกยากจริง แต่ไม่เกินความสามารถที่จะเข้าใจได้ เริ่มต้น จึงต้องมีผู้แนะนำ ข้าพเจ้าก็ได้เริ่มศึกษาพระธรรม โดยฟังการบรรยายพระธรรมทางวิทยุโดยอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ซึ่งท่านได้ศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และสามารถบรรยายพระธรรมจากพระไตรปิฎก ให้เราได้เข้าใจได้อย่างไม่ยากนัก แต่ต้องแบบค่อยเป็นค่อยไป ฟังแล้วพิจารณา ไตร่ตรอง พอเรามีความรู้พื้นฐานแล้ว จะอ่านพระไตรปิฎกได้เข้าใจและถูกต้องยิ่งขึ้น

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

แนวทางเจริญวิปัสสนาที่รับฟังได้ใน กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล บรรยายโดย

อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์


มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ออกอากาศรายการสนทนาธรรมทั่วประเทศทางสถานีวิทยุตามวัน - เวลาใน ตารางรายการวิทยุ

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอยเจริญนคร 78 ดาวคะนอง ธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โทร. 02-4680239

www.dhammahome.com


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผิน
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พร้อมเสมอ
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
hadezz
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 17 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornchai.s
วันที่ 17 ส.ค. 2553

อนุโมทนากับคุณวิสุทธิ์เป็นอย่างยิ่งครับ

ผมว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เริ่มต้นจริงๆ ตามชื่อกระทู้แน่นอน

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 18 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 18 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 19 ส.ค. 2553

ร่วมกันเผยแพร่สิ่งที่ถูก เพื่อความดำรงมั่นแห่งพระสัทธรรม

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Komsan
วันที่ 21 ส.ค. 2553

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
captpok
วันที่ 23 ส.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
วิสุทธิ์
วันที่ 3 ก.ย. 2553

ขอขอบคุณ คุณคำปั่น ที่ช่วยตรวจทานข้อความด้วยครับ

อนุโมทนาในกุศลจิต กุศลศรัทธา ทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
homenumber5
วันที่ 4 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนา ท่านเจ้าของกระทู้

การเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญ กว่าจะมาเริ่มต้น ใครเลยจะรู้ว่าได้สั่งสมการสิกขามาแต่อดีตชาติเพียงใดอจึงจะมาพบพระพุทธศาสนาและพระธรรม ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ใช่ว่าคนทุกคนที่เกิดมาหลังกึ่งพุทธกาลจะได้พบพระพุทธศาสนา มีอีกมากมายที่ยังได้ยินได้ฟังผ่านหูแต่ขาดความสนใจสิกขา การที่ได้เริ่มต้น ขอให้เริ่มด้วยการสิกขาจากแหล่งที่ถูกต้อง คือ กัลยาณมิตร คือพระพุทธเจ้าของเรา และสิ่งที่ท่านฝากไว้แทนพระองค์คือพระไตรปิฎก ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์

ขอให้เริ่มและสิกขาต่อเนื่อง

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
pamali
วันที่ 13 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
lovedhamma
วันที่ 18 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
เซจาน้อย
วันที่ 10 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
พร้อมเสมอ
วันที่ 13 ม.ค. 2555

ขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
thilda
วันที่ 1 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
chatchai.k
วันที่ 14 พ.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
Nataya
วันที่ 9 ก.ย. 2563

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
chatchai.k
วันที่ 1 ก.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ