ระลึกรู้ทั่วทั้ง 6 ทวาร

 
pirmsombat
วันที่  24 ก.ค. 2553
หมายเลข  16806
อ่าน  1,681

ข้อความบางตอนจาการสนทนาธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์..

....เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวัน ของยุคไหน สมัยไหนๆ คือในสมัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังไม่ปรินิพพาน หรือว่าปรินิพพานไปแล้ว 2500 กว่าปี หรือว่าจะถึง 3000 ปี ในอนาคตถึง 4000 ปี 50000 ปี ก็ตาม สติของผู้อบรมเจริญปัญญาที่จะดับกิเลส ต้องระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามปกติทั่วทั้ง 6 ทวาร แล้วก็พิจารณา สังเกต ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม คลายความไม่รู้ ละคลายความยึดถือสภาพธรรมว่า เป็นตัวตน ซึ่งเหตุผลทั้งหมดจะสอดคล้องกันขณะที่สติปัฏฐานเกิด ระลึกศึกษาจึงรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่มีเหตุปัจจัยเกิดขึ้นปรากฏ ตามความเป็นจริงว่า บังคับบัญชาไม่ได้ ถ้ารู้อย่างนี้ จะคลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน โดยไม่เลือกรู้บางนามบางรูป นี่เป็นความรู้ เมื่อรู้ก็ไม่เลือก เพราะว่า ไม่ว่าสภาพธรรมอย่างใดที่ปรากฏ สภาพธรรมนั้นก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยทั้งสี้น แต่ถ้าไม่รู้อย่างนี้ ก็จะมีการเจาะจง เลือกด้วยความไม่รู้ หรือว่าพยายามหาทางหนึ่งทางใด ที่จะรู้นามหนึ่งนามใด โดยที่ว่าไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็น สภาพธรรมที่ปัญญาจะต้องรู้ทั่ว จึงจะละคลายได้

มีข้อสงสัยไหมคะในเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องซ้ำ เป็นชีวืตประจำวัน และเป็นขณะนี้ที่สติอาจจะเกิด และ ระลึกและศึกษา เพื่อที่จะรู้ลักษณะของ นามธรรม และ รูปธรรมที่กำลังปรากฏ เมื่อเป็นสี่งที่ยากอย่างนี้ ความไม่รู้และความหลงผิด ก็ย่อมมีมากด้วยเพราะว่ารู้ยาก เพราะฉะนั้นทำให้มีความเข้าใจผิดได้ หรือหลงผิดไปได้ ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมโดยละเอียดจริงๆ เพราะว่าท่านที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรมโดยละเอียด บางท่านก็คิดว่าได้ประจักษ์ การเกิด ดับ ของนามธรรม และ รูปธรรม แล้ว ถ้าไม่ได้ศึกษาโดยละเอียด อาจจะเข้าใจอย่างนั้น เพราะฉะนั้นข้อความในพระไตรปิฏกจึงมีวิปัสสนาญาณ เป็นเครื่องเตือนให้พิจารณารู้ความจริง ว่าใครจะคิดอย่างไรก็ตาม ว่าได้ประจักษ์ลักษณะ ของ นามธรรม และ รูปธรรม แล้ววิปัสสนาญาณต้องเป็นความรู้ชัดทางมโนทวาร ที่ประจักษ์แจ้งลักษณะที่ขาดจากกันของนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งต้องอาศัยเหตุที่ถูกต้อง คือสัมมามรรคที่มีองค์ ๘ คือ สัมมาสติเกิด ระลึก และ สัมมาทิฏฐิก็เริ่มพิจารณา ศึกษาลักษณะของสภาพธรรมทีละเล็กทีละน้อย ไปเรื่อยๆ จนกว่าความรู้ จะค่อยๆ เพี่มขึ้น ไม่ใช่หลงผิดไปทำอย่างอื่นที่ต้องการผลเร็วๆ เพราะว่าผลเร็วเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นการอบรมเจริญความรู้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 26 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pirmsombat
วันที่ 26 ก.ค. 2553

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
สมศรี
วันที่ 27 ก.ค. 2553
ขอขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prakaimuk.k
วันที่ 27 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pamali
วันที่ 28 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Sottipa
วันที่ 21 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Sottipa
วันที่ 21 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ