ว่าด้วยความโกรธทำให้ผิวพรรณทราม [ทุพพัณณิยสูตร]

 
Khaeota
วันที่  10 มิ.ย. 2553
หมายเลข  16426
อ่าน  947

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒[เล่มที่ 25] - หน้าที่ 518

๒. ทุพพัณณิยสูตร

ว่าด้วยความโกรธทำให้ผิวพรรณทราม

[๙๔๖] สาวัตถีนิทาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ยักษ์ตนหนึ่ง มีผิวพรรณทราม ต่ำเตี้ยพุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะแห่งท้าวสักกะจอมเทพ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ในที่นั้น พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์พากัน ยกโทษตำหนิติเตียนว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย น่าอัศจรรย์หนอ ดู ก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย ไม่เคยมีมาแล้วหนอ ยักษ์นี้มีผิวพรรณ ทราม ต่ำเตี้ย พุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะแห่งท้าวสักกะจอมเทพ ดู ก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ยกโทษตำหนิติเตียนด้วย ประการใดๆ ยักษ์นั้น ยิ่งเป็นผู้มีรูปงามทั้งน่าดูน่าชมและน่าเลื่อมใส ยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยประการนั้นๆ

[๙๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์พากันเข้า ไปเฝ้าท้าวสักกะจอมเทพถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้นิรทุกข์ ขอประทานโอกาสขอพระองค์ ยักษ์ตนหนึ่งมีผิวพรรณทราม ต่ำ เตี้ย พุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะของพระองค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญได้ทราบ ว่า ณ ที่นั้นพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์พากันยกโทษตำหนิติเตียนว่า ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย น่าอัศจรรย์หนอ ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ไม่เคยมีมาหนอ ยักษ์นี้มีผิวพรรณทราม ต่ำเตี้ย พุงพลุ้ย นั่งอยู่บนอาสนะ ของท้าวสักกะจอมเทพ ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ พวกเทวดาชั้น ดาวดึงส์ยกโทษตำหนิติเตียนด้วยประการใดๆ ยักษ์นั้นยิ่งเป็นผู้มีรูป งามทั้งน่าดูน่าชมและน่าเลื่อมใสยิ่งกว่าเดิม ด้วยประการนั้นๆ ข้าแต่ พระองค์ผู้นิรทุกข์ ยักษ์นั้นจักเป็นผู้มีความโกรธเป็นอาหารเป็นแน่ เทียว ขอเดชะ

[๙๔๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพเสด็จเข้าไปหา ยักษ์ผู้มีความโกรธเป็นอาหารนั้นจนถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ทรงห่มผ้าเฉวียงพระ- อังสาข้างหนึ่ง ทรงคุกพระชานุมณฑลเบื้องขวาลง ณ พื้นดิน ทรงประนมอัญชลีไปทางที่ยักษ์ตนนั้นอยู่ แล้วประกาศพระนาม ๓ ครั้งว่า ดูก่อนท่าน ผู้นิรทุกข์ เราคือท้าวสักกะจอมเทพ ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ เราคือท้าวสักกะจอมเทพ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพทรงประกาศพระนามด้วยประการใดๆ ยักษ์ตนนั้นยิ่งมีผิวพรรณทรามและต่ำ เตี้ย พุงพลุ้ยยิ่งกว่าเดิม ยักษ์นั้นเป็นผู้มีผิวพรรณทรามและต่ำเตี้ยพุงพลุ้ยยิ่งกว่าเดิมแล้ว ได้หายไป ณ ที่นั้นนั่นเอง

[๙๔๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพประทับนั่งบน อาสนะของพระองค์แล้ว เมื่อจะทรงยังพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ให้ยินดีจึงได้ ตรัสพระคาถาเหล่านี้ไว้ในเวลานั้นว่า

เราเป็นผู้มีจิตอันโทสะไม่กระทบ กระทั่ง เป็นผู้อันความหมุน (มาร) นำ ไปไม่ได้ง่าย เราไม่โกรธมานานแล ความ โกรธ ย่อมไม่ตั้งอยู่ในเรา ถึงเราโกรธ ก็ไม่กล่าวคำหยาบ และไม่กล่าวคำไม่ชอบ ธรรม เห็นประโยชน์ของตนจึงข่มตนไว้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 24 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ