อายุบวร...ศรีลังกา [14]

 
kanchana.c
วันที่  11 เม.ย. 2553
หมายเลข  15873
อ่าน  1,631

ดัมบูลลา

จากโบโลนนารูวา เราย้อนเส้นทางกลับมากลางเกาะ ที่เมืองดัมบูลลา ซึ่งเป็น

เมืองมรดกโลกเช่นกัน คุณขยันชี้ตำแหน่งบนแผนที่และบอกระยะทาง พร้อมทั้งเวลา

เป็นชั่วโมง นาทีอย่างละเอียดเช่นเดิม แต่เราจำไม่ได้ รู้แต่ว่า คนขับรถที่ชื่อว่า ญาณะ

(หรือยานัด) นั้นขับรถดีมาก ถนนลาดยางอย่างดี แต่ก็วิ่งได้ไม่เกิน ๓๕ ก.ม. ต่อชั่วโมง

(ตามกฎหมาย) ทำให้ระยะทาง ๑๐๐ กว่ากิโลนั้นใช้เวลาถึง ๓ ชั่วโมงกว่า แต่ทิวทัศน์

ข้างทางก็สวยงามดี เพราะเป็นป่า และทะเลสาบที่ขุดขึ้นในสมัยกษัตริย์ชื่อต่างๆ มาก

มายหลายแห่ง (คุณขยันก็บอกอย่างละเอียดเช่นเคย)

เห็นช้างป่าที่ออกมากินกิ่งไม้ริมถนน มีรถของชาวศรีลังกาจอดดูหลายคัน บางทีก็เห็น

กวางมากินหญ้าด้วย

ได้ชมวัดในถ้ำหิน ที่มีห้องสลับซับซ้อนถึง ๕ ห้อง บนภูเขาสูง ๕๐๐ ฟุต กษัตริย์วาลา

กัมบาได้ทรงสร้างวิหารศิลาที่ทรงคุณค่าภายในถ้ำแห่งนี้มากมาย ในช่วงที่เสด็จมา

ประทับพลัดถิ่นจากอนุราธปุระ ได้นมัสการพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ยาว ๔๗ ฟุต และ

พระพุทธรูปปางต่างๆ มากมายๆ นับร้อยๆ องค์ ชมภาพวาดพระพุทธเจ้า กษัตริย์ เทพ

และเทพีต่างๆ ที่สวยงามบนผนังถ้ำ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นภาพวาดที่ใหญ่ที่สุดใน

โลกด้วย

ระหว่างทางคุณขยันก็ชักชวนพวกเราให้มาทำวิปัสสนาที่สำนักแห่งหนึ่ง ลืมชื่อไปแล้ว

เพื่อนร่วมทางบอกว่ามีสาขาในเมืองไทยด้วย คุณขยันบอกว่า ทำวิปัสสนาที่นี่๑๐ วัน

ไม่มีค่าใช้จ่าย อยู่ในป่า ไม่กินเนื้อสัตว์ สุขสงบมาก เลยชวนให้พวกเรามาทำวิปัสสนา

บ้าง พวกเราทุกคนก็นิ่งเงียบ ไม่อยากต่อความให้ยืดยาว ได้นึกในใจว่า ถ้าอยู่ในป่า ไม่

กินเนื้อสัตว์แล้วมีความสุขสงบมาก พวกช้าง พวกกวางก็จะเป็นพวกแรกที่สุขสงบที่สุด

ถ้าเลือกเกิดได้ จะมีใครอยากเป็นช้างหรือกวางบ้าง ตัวคุณขยันเองก็โฆษณาตัวเองว่า

ไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วไม่โกรธใครเลย ใจเย็นมาก ดังนั้นในทริปนี้จึงไม่เห็นคุณขยันไม่

พอใจเลย อาจจะเป็นเพราะพวกเราดีมาก จนไม่รู้จะไม่พอใจเรื่องอะไร หรือโกรธก็ไม่

กล้าแสดงออก เพราะได้ประกาศคุณอันไม่มีในตนไว้ก่อนแล้ว แต่เราก็ไม่เชื่อ เพราะ

เหตุไม่ตรงกับผล เหตุ คือ ไม่เกินเนื้อสัตว์ ผล คือ ไม่โกรธ ไม่เป็นตรรกะแต่อย่างใด

แต่ถ้าได้อบรมเจริญปัญญาจนสามารถรู้ลักษณะของความโกรธ ว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่

สัตว์ ไม่ใช่บุคคลแล้วความโกรธน้อยลง ก็พอน่าจะเชื่อได้บ้าง เหมือนกับผู้ที่เริ่มฟัง

ธรรมใหม่ๆ บางคนบอกว่า ตั้งแต่มาฟังธรรมแล้วไม่อยากได้อะไรเลย เหตุก็ไม่ตรงกับผล

อีกเหมือนกัน เพราะความอยากจะหมดไปได้ต้องเป็นพระอรหันต์แล้วเท่านั้น หรือท่าน

จะเป็นบัวพ้นน้ำ คือ ฟังแล้วบรรลุเป็นพระอรหันต์ทันที ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขออภัยด้วยค่ะ

พอมีเวลาว่างเราก็เปิดธรรมของท่านอาจารย์ฟัง เมื่อคุณขยันได้ฟังธรรมด้วย ก็เลิก

ชักชวนพวกเราไปเลย และยังเรียกพวกเราว่า เป็นทัวร์ธัมมะธัมโม แล้วก็ยกย่องให้

เกียรติมากขึ้นด้วย

จากถนนลาดยาง ก็มาถึงถนนลูกรังขรุขระเมื่อพลบค่ำ ข้างทางก็ยังคงเป็นป่าโปร่ง

แต่มีบ้านอยู่ห่างๆ มีบ้านหนึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีแต่กรอบประตูหน้าต่าง คุณขยันเล่า

ว่า บ้านของคนที่นี่สร้างนานกว่าจะเสร็จ เพราะไม่มีเงิน แต่ก็อยู่ได้ ไม่ต้องกลัวอะไร

หาย เพราะไม่มีขโมย เราคิดว่า อาจจะเป็นเพราะเห็นชัดเจนว่าไม่มีอะไรให้ขโมย ก็

เลยไม่ต้องกลัวก็ได้

รถขับขึ้นเขา และลงห้วย (คือลำธารสายเล็กๆ ) ที่อยู่ต่ำกว่าเนินเขามาก ขับข้าม
สะพานเพื่อขึ้นเนินเขาเตี้ยๆ อีกลูกหนึ่ง เมื่อผ่านสะพานนั้น คุณขยันก็เล่าว่า ชาวบ้าน

เรียกว่าสะพานโง่ เพราะฝนตกหนัก สะพานนี้ก็ใช้ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมสะพานก่อน ก็

เลยเห็นจริงด้วยว่า คนสร้างสะพานไม่ได้โง่ เพราะถ้าสร้างข้ามเนินเขา ๒ ลูก ก็จะเป็น

งานใหญ่มาก สู้สร้างสะพานเตี้ยๆ ข้ามลำธาร ให้คนประณามว่า สะพานโง่ ดีกว่า

เส้นทางมืดมิดข้างทางและถนนที่ขรุขระทำให้นึกภาพโรงแรมข้างหน้าว่า คงจะเป็น

เหมือนวัดหนองป่าพง ที่คุณขยันบอกไว้ก็ได้ แต่ได้ทราบว่า เส้นทางที่ผ่านมานั้นเป็น

เส้นทางลัด และเมื่อมาถึง ก็เป็นโรงแรมใหญ่ลักษณะเป็นรีสอร์ทสวยงาม มีสระว่ายน้ำ

กว้างใหญ่ และตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่มีวิวภูเขางดงามซึ่งได้เห็นในตอนเช้าในวันรุ่งขึ้น

ถึงแล้วค่ะ โรงแรม Amaya Lake เมืองดัมบูลลา ที่คุณขยันบอกว่า เป็นโรงแรมที่

สวยที่สุดในทริปนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
napachant
วันที่ 12 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 12 เม.ย. 2553

ขอขอบพระคุณขออนุโมทนาครับ

เรื่องราวที่พี่เขียน ยังคงเรียบง่ายมีแง่คิดทางธรรม ตรงและจริงใจ เช่นเคยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 12 เม.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
aditap
วันที่ 12 เม.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ผิน
วันที่ 12 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 13 เม.ย. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
raynu.p
วันที่ 15 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 15 เม.ย. 2553

อ่านแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน...เหมือนได้อยู่ที่ศรีลังกาด้วย

แถมได้ธรรมะเตือนใจ และได้รับประโยชน์จากการพิจารณาเหตุผลของพระธรรม

ภาพสวยงามมาก...โดยเฉพาะวัดในถ้ำหิน...ช่างน่ามหัศจรรย์ จริงๆ

...กราบอนุโมทนาค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 20 เม.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ING
วันที่ 20 เม.ย. 2553

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Komsan
วันที่ 7 พ.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ