เสียชาติเกิด

 
เมตตา
วันที่  30 ม.ค. 2553
หมายเลข  15327
อ่าน  1,805

ภพภูมิมนุษย์เป็นภูมิที่เทวดาก็อยากมาเกิด มนุษย์มีโอกาสได้ฟังพระธรรม มีโอกาส ได้เจริญกุศล การเกิดเป็นมนุษย์นั้น ได้เห็นความทุกข์ ความไม่เที่ยงของความเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่การอยู่ในเทวโลกนั้น มีแต่ความสุขไม่มีความทุกข์ใดๆ เพราะเป็นผลของบุญ ได้เห็น ได้ยิน...แต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่สวยงาม จึงมีแต่ความเพลิดเพลินติดข้อง แม้เทวโลกก็ไม่เที่ยง แม้เทพที่เกิดเพราะผลบุญก็ไม่เที่ยง มีวันสิ้นสุด เพราะฉะนั้น การได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ฟังพระธรรม และเจริญกุศลทุกประการ ผู้ทำสุจริตทั้งหลายเปรียบเหมือนอวยพรให้กับตน แต่ผู้ที่ไม่มีศรัทธาเจริญกุศล ไม่มีศรัทธาฟังพระธรรม ผู้ทำทุจริตทางกาย ทางวาจา ทางใจ เปรียบเหมือนกับการสาปแช่งตัวเอง การกระทำกรรมชั่วย่อมไปอบาย ไม่มีใครทำให้ เขาทำของเขาเอง เสียชาติเกิด...

ขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 31 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ตะวัน
วันที่ 31 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

จริงครับ เกิดเป็นมนุษย์โชคดีมากที่ได้ฟังธรรม มีโอกาสที่จะเรียนรู้ ผมดีใจที่ได้เกิดเป็นชาวพุทธ ได้เรียนรู้ ได้ลองปฎิบัติ ได้เห็นผลจากการปฎิบัติ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 31 ม.ค. 2553

การปฏิบัติธรรม หมายความถึงการมีความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏได้ถูกต้อง โดยเริ่มจากการฟังเรื่องของสภาพธรรมบ่อยๆ เนืองๆ จึงจะเป็นปัจจัยให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเป็นปกติ ที่สำคัญคือขาดความเข้าใจไม่ได้ ไม่ใช่เราที่ไปปฏิบัติ แต่ธรรมะปฏิบัติธรรมะ ไม่มีการลองปฏิบัติค่ะ

....ขออนุโมทนาค่ะ....

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พุทธรักษา
วันที่ 31 ม.ค. 2553

"....การได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ฟังพระธรรม และเจริญกุศลทุกประการ ผู้ทำสุจริตทั้งหลายเปรียบเหมือนอวยพรให้กับตน...."

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขออนุญาตลงข้อความบางตอน จากหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปฯ...........

ฉะนั้น ก็น่าเสียดาย ชาติที่เกิดมาด้วยปฏิสนธิจิต-ที่เป็นติเหตุกะ (คือ เกิดมาด้วยเหตุ ๓ มี ปัญญาเจตสิก-เกิดร่วมด้วย) แต่ ไม่ได้อบรมปัญญาให้เจริญขึ้น และ ชาติต่อไปนั้น กรรมใด จะเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิด ก็ยังไม่แน่ อาจจะเป็นอกุศลวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิ หรือ อเหตุกกุศลวิบากจิต ทำกิจปฏิสนธิ เป็นบุคคลผู้พิการตั้งแต่กำเนิด หรือ ทวิเหตุกกุศลวิบาก-ทำกิจปฏิสนธิเป็น ทวิเหตุกบุคคลใน "สุคติภูมิ" แต่ เป็นบุคคลซึ่งไม่สามารถอบรมเจริญปัญญา จนสามารถที่จะรู้แจ้ง อริยสัจธรรม ในชาตินั้นได้ ฉะนั้น จึงน่าเสียดายแต่ละภพ แต่ละชาติที่ไม่ได้อบรมเจริญปัญญาให้เจริญยิ่งขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ups
วันที่ 31 ม.ค. 2553

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 31 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
narong.p
วันที่ 31 ม.ค. 2553

เทวดาอยากเกิดเป็นมนุษย์เพราะนอกจากสวรรค์แล้วโลกมนุษย์ก็เป็นสุขคติภูมิเช่นเดียวกัน และคงไม่มีใครอยากไปเกิดภูมิอื่นที่เหลือแน่ แต่การเกิดเป็นมนุษย์แล้วไม่ศึกษาธรรม ไม่รู้ความจริงที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ ชีวิตในชาตินี้ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นโมฆะ เสียโอกาสเสียชาติเกิดจริงๆ ครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 31 ม.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 31 ม.ค. 2553

วันนี้เพิ่งปรารภกับตัวเองอยู่เลยค่ะว่า.....

โชคดีนะที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา เพราะถ้าได้ไปเกิดในบางประเทศ นอกจากจะไม่เคยเห็นพระบิณฑบาตรแล้ว แม้แต่เสียงของคำว่า "พุทโธ" ก็จะไม่มีโอกาสได้กระทบกับโสตปสาท และถ้าได้เกิดในภพภูมิอื่น เราคงไม่มีโอกาสได้เจริญกุศลมากมายอย่างนี้

... กุศลที่เป็นไปกับบุญญกิริยาวัตถุ ๑๐ ...

โลกมนุษย์นี้แหละค่ะ......เป็นที่ที่เราสามารถเจริญกุศลได้อย่างครบถ้วน พอใจแล้วค่ะที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ถึงแม้จะเป็นชีวิตที่แสนสั้น......แต่มีก็ความหมาย

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
dhammanath
วันที่ 1 ก.พ. 2553

อย่าว่าแต่ในเทวโลกที่เทวดามัวแต่เพลิดเพลินติดข้องเลยครับ แม้แต่ในโลกมนุษย์เรานี่เอง ในดินแดนที่ประทีปแห่งพระธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังแจ้มจรัสอยู่ ก็ยังมีคนเป็นอันมากที่เพลิดเพลินหลงระเริงติดข้อง จมปลักอยู่กับความเพลิดเพลินหรือตัวผมเองก็ยังเผลอหลงเพลิดเพลินติดข้องอยู่เสมอ.......

เอถ ปสฺสถิมํ โลกํ จิตฺตํ ราชรถูปมํ ยตฺถ พาลา วิสีทนฺติ นตฺถิ สงฺโค วิชานตํ ฯ สูทั้งหลายจงมาดูโลกนี้ อันวิจิตรตระการดุจราชรถ ที่เหล่าคนเขลามัวพากันหลงจมอยู่ แต่ผู้รู้หาติดข้องอยู่ไม่ ฯ

ขอขอบคุณ และอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 1 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Yongyod
วันที่ 1 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
saifon.p
วันที่ 1 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
paderm
วันที่ 1 ก.พ. 2553

ทำไมจึงไม่แสวงหาประทีป

เมื่อโลกสันนิวาส อันไฟ (ราคะ โทสะ โมหะ เป็นต้น) ลุกโพลงอยู่เป็นนิตย์พวกเธอทั้งหลาย อันความมืดคือ "อวิชชา" ปกคลุมแล้วทำไมจึงไม่แสวงหา "ประทีป" (คือ ญาณ ปัญญา) เพื่อขจัดความมืด คือ "อวิชชา" นั้นเสียเล่า

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Komsan
วันที่ 4 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ