เห็นตนมีรูป

 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่  23 ม.ค. 2553
หมายเลข  15246
อ่าน  1,040

ชีวิตคนเราวันๆ หนึ่่ง ทำแต่เรื่องของคนอื่น บางทีตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยมีเวลานึกถึงตัวเอง ไม่มีเวลานึกถึงพ่อแม่ บางครั้งก้ท้อแท้รำพึงว่าไม่รู้ว่าเิกิดมาทำไม พอได้สัมผัสทัสนานุตริยะ สวนานุตริย สงบกาย สงบใจ้ ก็น้ำตาไหล รำพึงถึงตน รำพึงถึงพ่อแม่ที่ถนอมกล่อมขวัญ ให้กำเนิดตนมา
ถ้าคนเราเกิดปัญญาเห็นว่าชีวิตคือขณะจิตที่เกิดดับสืบต่อกัน กายคือรูปที่เกิดดับสืบต่อกัน คนเราจะเป็นอย่างไรครับ?


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 24 ม.ค. 2553
ถ้าคนเราได้ฟังพระสัทธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดปัญญาเข้าใจถูกตามความเป็นจริง เขาย่อมเห็นคุณของกุศลธรรม เห็นโทษของอกุศลธรรม ย่อมเป็นผู้เว้นกรรมชั่ว กระทำแต่กรรมดี เป็นผู้ขวนขวายในคุณความดีอยู่เนื่องๆ จะเป็นคนดียิ่งๆ ขึ้นไป ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา..
 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
รากไม้
วันที่ 24 ม.ค. 2553

เมื่อ เกิดปัญญาที่ทำให้รู้แจ้งใน อริยะสัจจธรรมแล้ว

จิตใจจะละคลายจากสิ่งที่เคยยึดเกาะไว้ทั้งหมดในทันที

แล้วจะเสมือนมี กำแพงใหญ่ๆ มากั้นกระแสกิเลสไว้ ไม่ให้มาประทะจิตเราโดยตรง กำแพงนี้จะเป็นสติ คือรู้ทันกิเลสในทันที่ ...แต่เพราะว่า ยังมีกิเลสภายในอยู่อีกพอสมควร จึงอาจเผลอปล่อยกิเลสบางส่วน ให้ข้ามกำแพงเข้ามาได้อีก หากไม่ได้เจริญสติปัฏฐานอยู่เป็นนิจ

แล้วเมื่อพิจารณาด้วยปัญญาต่อเนื่องเรื่อยๆ ไป ก็จะเกิดความปล่อยวางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับขั้น ...จะเกิดสภาพ โปร่ง โล่ง สบาย ...โดยไร้ซึ่งสิ่งใดจะมาเปรียบ หรืออธิบายความรู้สึกนี้ได้เลย

ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น กับจิต เป็นนามธรรม จึงไม่อาจล่วงรู้ด้วยการมองจากภายนอกได้เลย

แล้วก็ไม่ใช่ว่า ร่างกายจะต้องผ่องใสขึ้น ผิวพรรณสวยงาม โรคร้ายหายไป มีแสงออร่า หรือเกิดพลังอะไรพวกนั้นเลยครับ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด อาจจะมีเหล่านี้ได้ ก็ต้องเป็นพระอรหันต์แล้วเท่านั้น) ...ภายนอก จะเป็นอย่างไร ก็เป็นแบบเดิมอยู่อย่างนั้น

ขออนุโมทนา จิตผู้ใฝ่ธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 24 ม.ค. 2553

ถ้าชีวิตคือขณะจิต.....ชีวิตจะมีแก่นสารอะไรให้ยึดถือ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วิริยะ
วันที่ 25 ม.ค. 2553

เรียนถามเจ้าของกระทู้ค่ะ

คำว่า ทัสนานุตริยะ และสวนานุตริย หมายความว่าอย่างไรคะ

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prachern.s
วันที่ 25 ม.ค. 2553

เรียนความเห็นที่ ๔ ครับ

ขอเชิญคลิกอ่านรายละเอียดที่ อนุตริยสูตร .. สิ่งยอดเยี่ยม ๖

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 25 ม.ค. 2553

ขอบคุณอาจารย์ประเชิญค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 25 ม.ค. 2553

ขณะที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตคือ ขณะที่ได้ฟังธรรมะแล้วเข้าใจ มีความเห็นถูกค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ตะวัน
วันที่ 26 ม.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าขณะที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตคือ การได้ฟังข้อธรรม-คำสอนต่างๆ แล้วเข้าใจ และนำสิ่งที่เข้าใจนั้นไปพิจารณาขณะทำสมาธิ จนจิตเกิดความสงบนิ่งในที่สุด

ผมเรียกว่าเป็นความประเสริฐและมีความสุขที่สุดแล้วครับ หากเทียบกับสมัยที่ยังไม่เคยได้ศึกษาข้อธรรม-คำสอน จิตจะดิ้นรนเร่าร้อน เพ้อเจ้อมีแต่ความอยากโดยไม่รู้จักจบสิ้นจนทุกวันนี้เข้าใจแล้วว่า

การไม่อยู่อย่างอยาก

มันเป็นสุขอย่างไร ผมไม่ทราบถึงศัพท์ที่ใช้เท่าไหร่นะ แต่ว่าเป็นความรู้สึกที่ได้รับจากศึกษาและปฎิบัติครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่ 26 ม.ค. 2553
การเห็นที่ยอดเยี่ยม การฟังที่ยอดเยียม ที่ทำให้เกิดสติปัญญา
ขอบอนุโมทนาทีท่านเผชิญกรุณาตอบ และช่วยแก้คำบาลีให้ถูกต้องครับ
ท่านกัลยาณมิตรธรรมแต่ละท่านช่างสนทนาได้ไพเราะจริงๆ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่ 27 ม.ค. 2553
ขณะจิตที่รัก ยังเปลี่ยนเป็นขณะจิตที่โกรธ เป็นทุกข์ ไม่พึงยึดขณะจิตว่าเป็นแก่นสาร
รูปที่หนุ่มสาว ย่อมเปลี่ยนเป็นรูปที่ชรา เป็นทุกข์ ไม่พึงยึดว่ารูปเป็นแก่นสาร
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ