พุทธานุสติ

 
opanayigo
วันที่  19 ก.ย. 2552
หมายเลข  13621
อ่าน  1,750

[เล่มที่ 43] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 171

ข้อความบางตอนจาก ...

เรื่องนายทารุสากฏิกะ

พระราชาทรงทราบความเป็นไปนั้นแล้ว ทรงพาชนทั้งสามนั้นไปสู่ สำนักพระศาสดา กราบทูลความเป็นไปทั้งปวงแล้ว ทูลถามว่า " ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ พุทธานุสสติเท่านั้น ย่อมเป็นคุณชาติเครื่องรักษาหรือ หนอแล หรือว่าอนุสสติอื่น แม้มีธัมมานุสสติเป็นต้น ก็เป็นคุณชาติเครื่องรักษา"

พระศาสดาทรงแสดงฐานะ ๖

ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสแก่พระราชานั้นว่า "มหาบพิตร พุทธานุสสติอย่างเดียวเท่านั้น เป็นคุณชาติเครื่องรักษาก็หามิได้, ก็จิตอันชนเหล่าใดอบรมดีแล้วโดยฐานะ ๖. กิจด้วยอันรักษาและป้องกันอย่างอื่น หรือด้วยมนต์และโอสถ ย่อมไม่มีแก่ชนเหล่านั้น ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรง แสดงฐานะ ๖ ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-

"สติของชนเหล่าใด ไปแล้วในพระพุทธเจ้าเป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. สติของชนเหล่าใด ไปแล้วในพระธรรมเป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. สติของชนเหล่าใดไปแล้วในพระสงฆ์เป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. สติของชนเหล่าใดไปแล้วในกายเป็นนิตย์ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. ใจของชนเหล่าใด ยินดีแล้วในอันไม่เบียดเบียนทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้น เป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ. ใจของชนเหล่าใด ยินดีแล้วในภาวนา ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน, ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของพระโคดม ตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ"


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 14 พ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 16 ธ.ค. 2568

กราบนอบน้อมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

บรรดาบทเหล่านั้น บาทพระคาถาว่า สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ ความว่าผู้หลับไป ตื่นขึ้นมา โดยมีสติยึดมั่นในพระพุทธเจ้าตลอดเวลา ชื่อว่าตื่นอยู่ด้วยดี.

บาทพระคาถาว่า สทา โคตมสาวกา ความว่า ชื่อว่าเป็นสาวกของพระโคดม เพราะความที่ตนเป็นผู้เกิดแล้วในที่สุดแห่งการฟังแห่งพระพุทธเจ้าผู้โคตมโคตร (และ) เพราะความเป็นคืออันฟังอนุสาสนีของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นนั่นแล.

สองบทว่า พุทฺธคตา สติ ความว่า สติของชนเหล่าใดปรารภ พระพุทธคุณทั้งหลายอันต่างด้วยคุณมีว่า "อิติปิ โส ภควา" เป็นต้น เกิดขึ้นอยู่ มีอยู่ตลอดกาลเป็นนิตย์, ชนเหล่านั้น ชื่อว่าตื่นอยู่ด้วยดีแม้ในกาลทุกเมื่อ. ก็ชนเหล่านั้น เมื่อไม่อาจ (เพื่อจะกระทำ) อย่างนั้นได้ ทำซึ่งพุทธานุสสติไว้ในใจ ในวันหนึ่ง ๓ เวลา ๒ เวลา (หรือ) แม้เวลาเดียว ชื่อว่าตื่นอยู่ด้วยดีเหมือนกัน.

สองบทว่า ธมฺมคตา สติ ความว่า สติที่ปรารภพระธรรมคุณทั้งหลาย อันต่างด้วยคุณมีว่า "สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม" เป็นต้น อันเกิดขึ้นอยู่.

สองบทว่า สงฺฆคตา สติ ความว่า สติที่ปรารภพระสังฆคุณทั้งหลาย อันต่างด้วยคุณมีว่า "สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ" เป็นต้น อันเกิดขึ้นอยู่.

สองบทว่า กายคตาสติ ความว่า สติอันเกิดขึ้นอยู่ด้วยการพิจารณาตามอาการ ๓๒ หรือด้วยสามารถพิจารณาซากศพในป่าช้า ๙ หรือด้วยสามารถแห่งการกำหนดธาตุ ๔ หรือด้วยการเจริญรูปฌาน มีนีลกสิณ อันเป็นไปในภายใน เป็นต้น..

สองบทว่า อหิํสาย รโต ความว่า ยินดีแล้วในกรุณาภาวนา (การเจริญกรุณา) อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้อย่างนี้ว่า "ภิกษุนั้นมีใจประกอบด้วยกรุณา แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่."

บทว่า ภาวนาย ได้แก่ เมตตาภาวนา, จริงอยู่ ภาวนาที่เหลือแม้ทั้งหมด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประสงค์เอาในบทว่า "ภาวนาย" นี้ เพราะความที่กรุณาภาวนาพระองค์ตรัสไว้แล้วในหนหลังแม้โดยแท้, ถึงดังนั้น เมตตาภาวนาเท่านั้น พระองค์ทรงประสงค์เอาในบทว่า "ภาวนาย" นี้, คำที่เหลือ ผู้ศึกษาพึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในคาถาต้นนั้นเทียว.

ในกาลจบเทศนา เด็กคนนั้น พร้อมกับบิดา มารดา ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล.ครั้นภายหลัง คนทั้ง ๓ บวชแล้วบรรลุพระอรหัต. พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่ผู้ที่อยู่ที่นั้นด้วยแล้ว ดังนี้แล.

คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมได้ที่

เรื่องนายทารุสากฏิกะ [๒๑๘]

กราบอนุโมทนากุศลธรรมทานด้วยค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ