ความจริงแห่งชีวิต [147] ปฏิสนธิจิต เป็นผลของกรรมที่ต่างกัน

 
พุทธรักษา
วันที่  14 ก.ย. 2552
หมายเลข  13536
อ่าน  1,288

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แม้ว่า​การเกิดในมนุสสภูมิเป็นกุศลวิบากก็จริง แต่บางบุคคลก็พิการแต่กำเนิด เพราะกุศลวิบากจิตที่ทำกิจปฏิสนธินั้นเป็นผลของกุศลกรรมที่ไม่มีปัญญา​เจตสิกเกิดร่วมด้วย และเป็นกุศลกรรมอย่างอ่อนมาก กุศลวิบากจิตที่ทำปฏิสนธิกิจนั้นจึงไม่ประกอบด้วยโสภณเจตสิก คือ ไม่เกิดร่วมกับอโลภเจตสิก อโทสเจตสิก เป็นต้น เมื่อเป็นผลของกุศลกรรมอย่างอ่อนมาก อกุศลกรรมซึ่งทำไว้จึงเบียดเบียนให้เป็นผู้พิการแต่กำเนิดได้

ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ที่ไม่พิการแต่กำเนิดนั้น ล้วนเกิดมา​ต่างๆ กันโดยสกุล ยศศักดิ์ บริวาร เพราะกุศลวิบากที่ทำกิจปฏิสนธินั้นต่างกันตามกำลังของกุศลกรรมซึ่งเป็นเหตุ ถ้า​ปฏิสนธิจิตเป็นผลของกุศลกรรมที่ประกอบด้วยปัญญา​เจตสิกอย่างอ่อน หรือไม่มีปัญญา​เจตสิกเกิดร่วมด้วย ปฏิสนธิจิตที่เป็นกุศลวิบากนั้นก็เกิดร่วมกับโสภณเจตสิกและเหตุ ๒ คือ อโลภเจตสิก และอโทสเจตสิก เป็นทวิเหตุกบุคคล คือเป็นบุคคลที่ปฏิสนธิจิต ไม่มีปัญญา​เจตสิกเกิดร่วมด้วย บุคคลนั้นจึงไม่สามารถบรรลุฌานหรือโลกุตตรธรรมในชาตินั้น

ผู้ที่ปฏิสนธิจิตเป็นผลของกรรมที่ประกอบด้วยปัญญา​และปฏิสนธิจิตมีปัญญา​เจตสิกเกิดร่วมด้วยนั้น เป็นติเหตุกบุคคล เพราะมีเหตุ ๓ คือ มีอโลภเจตสิก อโทสเจตสิก และปัญญา​เจตสิก (อโมหะ) เกิดร่วมด้วย บุคคลนั้นเมื่อได้ฟังพระธรรมก็สามารถพิจารณา​เข้าใจพระธรรม และสามารถอบรมเจริญปัญญา​จนบรรลุฌานจิต หรือรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ๔ บรรลุมรรคผลนิพพาน เป็นพระอริยบุคคลในชาตินี้ได้ตามควรแก่การสะสมของเหตุปัจจัย แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะบางท่านเป็นผู้ที่มีสติปัญญา ปฏิสนธิจิตเป็นติเหตุกะก็จริง แต่ถ้า​ประมาทการเจริญกุศล ประมาทการฟังพระธรรม ก็จะเป็นผู้ที่ฉลาดแต่ในทางโลก ในวิชาการต่างๆ แต่ไม่อบรมเจริญปัญญา​ในทางธรรม จึงไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ