พระสูตร VS พระอภิธรรม

 
kanchana.c
วันที่  18 ก.ค. 2552
หมายเลข  12925
อ่าน  945

เมื่อมีผู้ถามถึงการศึกษาพระสูตรและพระอภิธรรม ท่านอาจารย์ตอบในการบรรยายครั้งที่ ๑๕๐๒ ไว้ดังนี้

ผู้ฟัง แต่ว่าในสมัยนี้ ถ้าอ่านพระสูตรหรือชาดกต่างๆ รู้สึกว่า ฟังแล้วก็เพลิน สนุก แต่ว่าสาระที่จะได้จากพระสูตรนั้น ในแง่ที่จะอุปการะในการปฏิบัติ รู้สึกว่าจะน้อย

สุ. ที่จริงพระสูตรมีความไพเราะมาก เพราะว่าแสดงถึงสภาพธรรมทุกอย่างพร้อมทั้งอุปมา และลักษณะของพระสูตร แสดงถึงอัธยาศัยที่ต่างๆ กัน โดยแสดงลักษณะของสภาพธรรมที่ต่างกันวิจิตรมาก แม้แต่ในเรื่องของโลภะของแต่ละบุคคล หรือว่าในเรื่องของโทสะ อย่างเรื่องของพระราชาที่โกรธท่านปิณโฑลภารทวาชะ ซึ่งไม่น่าที่จะโกรธเลย แต่ก็เป็นความจริงว่า เวลาที่มีปัจจัยสะสมมาที่จะเกิดความโกรธ ความโกรธก็เกิด แล้วภายหลังสติก็ระลึกได้ นี่ก็เป็นชีวิตจริงๆ ผู้ถาม สมัยนี้ถ้าฟังจากพระสูตรอย่างเดียว กระผมเข้าใจว่า โอกาสที่จะเข้าใจธรรม รู้สึกจะยาก ถ้าไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมด้วย สุ. และก็อาจจะเข้าใจผิดด้วย

ผู้ฟัง การศึกษาพระอภิธรรมจะเป็นหลักที่จะตัดสินว่า การเข้าใจธรรมของเราถูกหรือผิด อย่างนี้ใช่ไหม

สุ. แต่ต้องเข้าใจว่า พระอภิธรรม คือ การแสดงเรื่องละเอียดของธรรม เช่น ในพระสูตรจะกล่าวถึงเรื่องของโลภะ โทสะ โมหะ ในพระอภิธรรมก็แสดงความละเอียดของโลภะ ลักษณะของโลภะ สภาพของโลภะที่เกิดกับจิตประเภทต่างๆ อาศัยปัจจัยอย่างไร เกิดขึ้นในขณะไหน เพื่อที่จะเกื้อกูลให้ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนั้น เช่น แสดงว่า โลภะหรือความยินดี ความต้องการเกิดขึ้นเมื่อเห็น เพราะฉะนั้น ทุกคนเห็น แล้วก็ลืมว่า ตัวเองมีโลภะ กำลังชอบใจ พอใจ สนุกสนานในสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือนึกคิดเรื่องราวต่างๆ ที่น่าเพลิดเพลินทางใจ ก็ลืมว่า ในขณะนั้นมีโลภะ เพราะฉะนั้น พระอภิธรรมจึงได้แสดงความละเอียดของสภาพธรรมที่เป็นโลภะว่า เกิดขึ้นเมื่อเห็น เมื่อได้ยิน เมื่อได้กลิ่น เมื่อลิ้มรส เมื่อรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ก็เป็นเรื่องราวที่วิจิตรต่างๆ ของแต่ละบุคคล และพระสูตรก็ได้กล่าวถึงความเป็นไปของอกุศลจิตและกุศลจิตอย่างละเอียด อย่างเช่น เจ้าศากยะก็ได้นิมนต์พระผู้มีพระภาคประทับที่สัณฐา-คารที่สร้างเสร็จก่อน เพื่อให้เป็นสิริมงคลแห่งการเจริญในธรรมของเจ้าศากยะทั้งหลาย

เพราะเมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จมา พระองค์ก็ย่อมทรงแสดงพระธรรม เพื่ออนุเคราะห์เจ้าศากยะ ซึ่งประเพณีทำบุญขึ้นบ้านใหม่หรืออาคารใหม่ โดยนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาถวายภัตตาหาร เป็นการใช้อาคารสถานที่นั้นก่อน เพื่อสิริมงคลนั้นก็สืบต่อมาจากการเจริญกุศลของพุทธบริษัท เช่น เจ้าศากยะนิมนต์พระผู้มีพระภาคให้ทรงใช้สอยสัณฐาคารใหม่ก่อนนั่นเอง และได้อธิบายถึงที่มาของประเพณีการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 18 ก.ค. 2552

พระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม ทั้ง 3 ปิฏกต้องสอดคล้องกัน คือแสดงความจริงเพื่อให้เข้าถึงสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 21 ก.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
aiatien
วันที่ 25 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
อภิรดี
วันที่ 5 ต.ค. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ