ความจริงแห่งชีวิต [42] จิตทุกดวง เป็น อนันตรปัจจัย

 
พุทธรักษา
วันที่  3 ก.ค. 2552
หมายเลข  12816
อ่าน  1,132

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประการต่อไป

อีกอย่างหนึ่งเพราะเหตุที่ศัพท์ว่า “จิตฺตํ” นี้ทั่วไปแก่จิตทุกดวง ฉะนั้น ในคำ ว่า “จิตฺตํ” นี้โลกิยกุศลจิต อกุศลจิต และมหากิริยาจิต ชื่อว่า “จิต” เพราะ​สั่งสม​สันดาน​ของ​ตน​ด้วย​สามารถ​แห่ง​ชวน​วิถี

การที่จะเข้าใจอรรถที่ว่า ชื่อว่าจิต เพราะสั่งสมสันดานของตนด้วยสามารถแห่งชวนวิถีนั้น จะต้องเข้าใจเรื่องของจิตซึ่งเกิดดับๆ ​สืบต่อกันอย่างรวดเร็วว่า นามธรรมที่เกิดกับจิตแล้วดับไปแต่ละขณะนั้นสะสมสืบต่อในจิตขณะหลังๆ ที่เกิดดับสืบต่อมานั่นเอง

เมื่อจิตเกิดขึ้นเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา หรือได้ยินเสียงที่ปรากฏทางหู เป็นต้น ตามปกติจะไม่รู้ว่าขณะที่เห็นหรือได้ยินนั้นเป็นลักษณะของจิต แต่มักจะรู้ว่าขณะใดจิตใจเป็นทุกข์ เศร้าหมองขุ่นมัว ขณะใดจิตใจสบาย แจ่มใส ขณะใดโกรธ ขณะใดเมตตาสงเคราะห์ช่วยเหลือบุคคลอื่น ขณะใดเป็นมิตรไมตรีกับบุคคลอื่น จิตแต่ละขณะที่เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็วนั้น ก็สั่งสมสันดานของตน คือ ไม่ว่าจะเป็นโลกิยกุศล อกุศล แต่ละขณะที่เกิดขึ้นแล้วดับไปนั้น ​เป็นปัจจัยสะสมสืบต่อในจิตดวง (ขณะ) ต่อๆ ไป เพราะเมื่อจิตดวงหนึ่งเกิดขึ้นแล้วดับไป การดับไปของจิตดวงก่อนเป็นปัจจัยให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้นสืบต่อทันที ฉะนั้น จิตดวงที่เกิดต่อจึงมีสภาพธรรมซึ่งจิตดวงก่อนสะสมไว้แล้วสืบต่อไปในจิตดวงหลังๆ ​ที่เกิดต่อๆ ไปอีกเรื่อยๆ

แต่ละท่านจะสังเกตได้ว่า แต่ละบุคคลมีอัธยาศัยต่างๆ ​กัน มีอุปนิสัยต่างๆ กันตามการสะสมของจิตแต่ละขณะซึ่งเกิดดับสืบต่อกัน บางท่านก็เป็นผู้ใจบุญใจกุศล​ เพราะจิตที่เป็นบุญกุศลได้เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป แล้วจิตที่เกิดสืบต่อก็สะสมบุญกุศลนั้นๆ ​เป็นปัจจัยสืบต่อๆ ​ไปข้างหน้า อกุศลก็เช่นเดียวกัน ​ไม่ว่าจะเป็นจิตประกอบด้วยโลภะ โทสะ หรือโมหะ เมื่ออกุศลจิตประเภทนั้นๆ ดับไปแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้นสืบต่อสภาพธรรมที่สะสมอยู่ในจิตดวงก่อนต่อไปอีก การที่จิตดวงหลังเกิดต่อจากจิตดวงก่อนอยู่เรื่อยๆ ​นั้น เพราะจิตทุกดวงเป็นอนันตรปัจจัย คือเป็นปัจจัยทำให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้นสืบต่อทันทีที่จิตดวงก่อนดับ จิตทุกดวงเป็นอนันตรปัจจัย ทำให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้น เว้นจุติจิตของพระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่เป็นอนันตรปัจจัย เมื่อจุติจิตของพระอรหันต์ดับจึงเป็นปรินิพพาน ไม่มีปฏิสนธิจิตหรือจิตใดๆ ​เกิดสืบต่ออีกเลย ฉะนั้น ปัจจัยที่กล่าวถึงแล้วจึงมี ๓ ปัจจัย คือ สหชาตปัจจัย อารัมมณปัจจัย และอนันตรปัจจัย


โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ จัดพิมพ์เผยแพร่ โดย คณะกรรมการ ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา ครบ ๗๕ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

ขอเชิญอ่านหรือดาวน์โหลดหนังสือ ...

ปรมัตถธรรมสังเขป

ขอเชิญอ่านตอนต่อไป ...

ความจริงแห่งชีวิต

... ขออนุโมทนา ...

ขอขอบพระคุณ ท่าน เอื้อเฟื้อรูปภาพ ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Jans
วันที่ 4 ก.ค. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 5 ก.ค. 2552

จิตทุกดวงเป็นอนันตรปัจจัย ทำให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้น

ขออนุญาตเรียนถามว่า

หากจิตดวงก่อนเป็นกุศล เป็น อนันตรปัจจัย ให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้น แต่ทำไมจิตดวงต่อไปอาจกลายเป็นอกุศลก็ได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prachern.s
วันที่ 6 ก.ค. 2552

ในขณะะที่ชวนจิตเป็นกุศลขณะต่อไปในวาระเดียวกัน ต้องเป็นกุศลเหมือนกัน ในวาระหลังๆ จึงเป็นอกุศลได้ ครับ เพราะส่วนใหญ่จิตคุ้นเคยกับอกุศล และยังไม่ได้ดับอกุศล

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 6 ก.ค. 2552

ขอบคุณอาจารย์ประเชิญ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
คุณ
วันที่ 8 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สุภาพร
วันที่ 21 ก.ค. 2552

กราบเรียนอาจารย์ประเชิญ

ขอความกรุณาอธิบายให้ละเอียดอีกครั้งค่ะ เพราะยังไม่เข้าใจ หมายความว่า ถึงชวนจิตที่แล่นไป ๗ ขณะ จะเป็นกุศล แล้ว แต่ ยังสามารถเป็นอกุศล ได้อีก หมายถึงว่า ชวนจิต เกิดมากกว่า ๗ ขณะได้หรือไม่คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
prachern.s
วันที่ 21 ก.ค. 2552

กุศลและอกุศลเกิดคนละวาระกันครับ

ชวนจิตที่เป็นกามชวนะเกิดไม่เกิน ๗ ขณะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
สุภาพร
วันที่ 22 ก.ค. 2552

กราบเรียนท่านอาจารย์ประเชิญ

แล้วเพราะเหตุใด เหตุการณ์เดียวกัน แต่ขณะจิตที่ตัดสินใจครั้งแรกเป็นอกุศล แล้วจึงคิดกลับเป็นกุศลได้คะ จากความคิดเห็นที่ 3 ก็พอจะเข้าใจ แต่ก็ยังสงสัยว่าในเมื่อ เป็นวาระที่เป็นอกุศลแล้ว น่าจะเป็นอกุศลต่อไป แต่ทำไมการเสพคุ้นกับกุศลจึงเกิดขึ้นได้ในเหตุการณ์เดียวกันคะ

ขอขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
prachern.s
วันที่ 22 ก.ค. 2552

โดยทั่วๆ ไปเราก็ทราบแล้วว่ามีปกติหลงลืมสติ แต่บางครั้งสติก็ระลึกได้บ้าง ดังนั้น บางครั้งช่วงแรกอกุศล ภายหลังสติเกิดขึ้น จิตคิดแยบคายย่อมเกิดขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน อกุศลก็เกิดต่อเนื่องกันอยู่แล้วครับ แต่มิได้หมายความว่ากุศลจะเกิด สลับในวาระหลังๆ ไม่ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
สุภาพร
วันที่ 23 ก.ค. 2552

กราบเรียนท่านอาจารย์ประเชิญ

พอเข้าใจแล้วค่ะ

ขอกราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pornpaon
วันที่ 24 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Jarunee.A
วันที่ 20 เม.ย. 2567

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ