การดับอกุศลเจตสิกของพระอริยบุคคล

 
Sam
วันที่  29 มิ.ย. 2552
หมายเลข  12781
อ่าน  2,284

ขออนุญาติเรียนถามเกี่ยวกับการดับอกุศลเจตสิกของพระอริยบุคคลครับ

๑. ในจำนวนอกุศลเจตสิก ๑๔ ดวง พระโสดาบันดับอกุศลเจตสิก ๔ ดวงเป็นสมุจเฉท

ได้แก่ ทิฏฐิเจตสิก อิสสาเจตสิก มัจฉริยเจตสิก และ วิจิกิจฉาเจตสิกถูกต้องหรือ

ไม่ครับ

๒. พระสกทาคามีดับอกุศลเจตสิกอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ครับ ถ้าไม่มี โดยปรมัตถ์แล้ว

พระสกทาคามีบุคคลต่างจากพระโสดาบันบุคคลอย่างไร

๓. พระอนาคามีดับอกุศลเจตสิกอะไรเพิ่มขึ้นอีกบ้างครับ

ขออภัยที่ต้องรบกวนถามเรื่องไกลตัวครับ ที่ต้องการทราบเรื่องราวเกี่ยวกับ

พระอริยบุคคลเพราะผมคิดว่า ความเข้าใจความแตกต่างกันระหว่างปุถุชนผู้มีกิเลส

อยู่ครบ กับพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ จะเป็นปัจจัยช่วยให้เข้าใจถูกในแนวทางการปฏิบัติ

มากขึ้นครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 29 มิ.ย. 2552
๑.ถูกต้องครับ แต่โดยนัยของนิวรณ์ พระโสดาบันละกุกกุจจะด้วย๒.พระสกทาคามี ไม่ได้ดับอกุศลเจตสิกใดๆ เพิ่มขึ้น แต่ทำอกุศลที่เหลือให้เบาบางลง และท่านมีกิเลสเบาบางกว่าพระโสดาบัน๓.พระอนาคามี ดับโทสเจตสิกเพิ่มอีกหนึ่ง บางนัยท่านละกุกกุจจะด้วยครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปริศนา
วันที่ 29 มิ.ย. 2552

ขออนุญาติเรียนถามเพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ
๑. โดยนัยของนิวรณ์ พระโสดาบันละกุกกุจจะด้วย

....กรุณายกตัวอย่าง ในชีวิตประจำวันประกอบด้วย ได้ไหมคะ? (เพื่อจะได้ไม่เข้าใจเอาเอง...ซึ่งมักจะเข้าใจผิดน่ะค่ะ) ๒. พระอนาคามี ดับโทสเจตสิกเพิ่มอีกหนึ่ง บางนัยท่านละกุกกุจจะด้วย

.....บางนัย ในที่นี้...ต่างกับที่ท่านกล่าวถึงพระโสดาบันอย่างไร คะ. (ที่ว่า โดยนัยของนิวรณ์..พระโสดาบัน ละ กกุกจจะ ด้วย)
ขอความกรุณาแนะนำด้วยค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ.


 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 29 มิ.ย. 2552

นอกจากนี้พระโสดาบันยังสามารถละ..........

อคติ ๔ ได้แก่ ฉันทาคติ, โทสาคติ, โมหาคติและภยาคติ

วิปลาส ๓ ในวัตถุ ๘ คือ

๑.ทิฏฐิวิปลาสในวัตถุ ๔ (ว่าเที่ยง ว่างาม ว่าสุข ว่าเป็นตัวตน)

๒. จิตตวิปลาสในวัตถุ ๒ (ว่าเที่ยง ว่าเป็นตัวตน)

๓. สัญญาวิปลาสในวัตถุ ๒ (ว่าเที่ยง ว่าเป็นตัวตน)

และอกุศลธรรมอื่นๆ อันเป็นเหตุที่ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 29 มิ.ย. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
prachern.s
วันที่ 30 มิ.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ ๒ ครับ

๑.กุกกุจจะ คือ ความเดือดร้อนรำคราญใจ ไม่สบายใจ ในอกุศลกรรมที่ทำไปแล้ว หรือกุศลที่ยังไม่ได้ทำ เช่น เคยฆ่ามด พอนึกถึงก็ไม่สบายใจ หรือนึกถึงกุศลต่างๆ เราก็ยังไม่ได้ทำ ๒.บางนัย หมายถึง ไม่ใช่นัยของนิวรณ์ กุกกุจจะ ต้องละด้วยอนาคามิมรรค

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 30 มิ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ปริศนา
วันที่ 30 มิ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Sam
วันที่ 30 มิ.ย. 2552

ขอขอบคุณสำหรับคำตอบ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 30 มิ.ย. 2552

ปุถุชนฟุ้งซ่านในกุศลที่ยังไม่ได้ทำ และเดือดร้อนกับอกุศลที่ทำแล้ว พระพุทธเจ้า

ตรัสว่าสังขารทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่

ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี้เป็นพระวาจาสุดท้ายก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพานค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
paderm
วันที่ 1 ก.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระโสดาบัน พระสกทาคามีและพระอนาคามี มีปัญญาต่างระดับกัน

พระโสดาบันและพระสกทาคามี มีอินทรีย์ (ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา)

ที่แตกต่างกัน พระโสดาบันมีอินทรีย์อ่อนกว่าพระสกทาคามีครับพระโสดาบันและพระสกทาคามี เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยศีล

แต่ยังไม่บริบูรณ์ด้วยสมาธิและปัญญา

พระอนาคามี บริบูรณ์ด้วย ศีลและสมาธิแต่ยังปัญญายังไม่บริบูรณ์

ส่วนพระอรหันต์บริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิและปัญญาครับ

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 17

๒. ปฐมสังขิตตสูตร

ความเป็นพระอริยบุคคลระดับต่างๆ

[๘๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นพระอรหันต์เพราะอินทรีย์

๕ ประการนี้เต็มบริบูรณ์ เป็นพระอนาคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่า

อินทรีย์ของพระอรหันต์ เป็นพระสกทาคามี เพราะอินทรีย์ ๕ ยังอ่อนกว่า

อินทรีย์ของพระอนาคามี เป็นพระโสดาบัน เพราะอินทรี ๕ ยังอ่อนกว่า

อินทรีย์ของพระสกทาคามี

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 458

ลักษณะพระสกทาคามี

บทว่า ตนุตฺตา แปลว่า เพราะ (กิเลสทั้งหลาย) เบาบาง. อธิบายว่ากิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้น ของพระสกทาคามีเบาบางไม่แน่นหนา เปรียบ-

เหมือนชั้นแผ่นเมฆและเปรียบเหมือนปีกแมลงวัน. อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Sam
วันที่ 2 ก.ค. 2552

ขอขอบคุณ และอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
พุทธรักษา
วันที่ 2 ก.ค. 2552

ขอขอบพระคุณอย่างสูงขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เมตตา
วันที่ 4 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ