นางยักษิณี เป็นใคร ?

 
เมตตา
วันที่  18 พ.ค. 2552
หมายเลข  12407
อ่าน  4,291

สภาพธรรมตามความเป็นจริงที่เรียกว่าเป็นคน เป็นสัตว์นั้นเป็นแต่เพียงรูปธาตุ และ

นามธาตุเท่านั้น จะขอกล่าวถึงรูปธาตุ รูปที่เกิดขึ้นแล้วเป็นใหญ่ เป็นประธานหมายถึงสภาวรูป ๔ รูป คือ ปฐวี (ดิน) , อาโป (น้ำ) , เตโช (ไฟ) , วาโย (ลม) , รูปทั้ง ๔ นี้ชื่อว่า

มหาภูตรูป เพราะเป็นสภาพที่เกิดขึ้นมีอยู่โดยความเป็นใหญ่ เป็นประธาน และเป็นที่อาศัยของอุปาทยรูป รูปที่เล็กที่สุดไม่สามารถแยกจากกันได้มี ๘ รูปคือ ดิน น้ำ ไฟ ลม

และสี กลิ่น รส โอชา ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลมที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายของคนของสัตว์นั้น

แม้เป็นเพียงรูปอุปมาเหมือนนางยักษิณีซึ่งลวง และหลอก จะเห็นได้ว่ามหาภูต-

รูปเป็นสภาพที่ลวงไม่ให้เห็นตามความเป็นจริง สิ่งที่ปรากฎทางตา (สี) เป็นรูปรูป

เดียวที่สามารถเห็นได้ จึงลวงเหมือนเห็นเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นนางยักณี แท้ที่จริง

นางยักษิณีเป็นเพียงธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ที่ประกอบขึ้นมา แม้มหาภูตรูปยัง

ลวงได้ เพราะปรากฎให้เห็นได้ทางตา สิ่งที่หลงว่าเป็นคนที่รัก เป็นสัตว์ เป็น-

นางยักษิณีก็เป็นเพียงรูปธาตุเท่านั้นเอง คือ เพียงสิ่งที่ปรากฎทางตา

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ...

มหาภูตเปรียบเหมือนนางยักษิณี

ขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 18 พ.ค. 2552

จากข้อความใน....วลาหกัสสชาดก

ดูก่อนภิกษุ ธรรมดาหญิงที่แต่งตัวงดงาม เล้าโลมชายด้วยรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสของ มารยาหญิงกระทำให้ชาย ตกอยู่ในอำนาจ ของตน เขาเรียกว่า นางยักษิณี

เชิญคลิกอ่าน...

ความสวัสดี [วลาหกกัสสชาดก]อนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
คุณย่า
วันที่ 18 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 19 พ.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
opanayigo
วันที่ 19 พ.ค. 2552

มีการสนทนากันอีกว่า

เหตุใด จึงไม่เป็น ยักษา (ผู้ชาย)

สรุปกันว่า

เพราะความเป็นหญิง มีมารยา ล่อลวง ได้มากกว่า

สนิทใจกว่า

..............................

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 19 พ.ค. 2552

กราบขออนุโมทนา


แท้ที่จริง
นางยักษิณีเป็นเพียงธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ที่ประกอบขึ้นมา

แม้มหาภูตรูปยังลวงได้ เพราะปรากฎให้เห็นได้ทางตา

สิ่งที่หลงว่าเป็นคนที่รัก เป็นสัตว์ เป็นนางยักษิณี

ก็เป็นเพียงรูปธาตุเท่านั้นเอง

คือ เพียงสิ่งที่ปรากฎทางตา


...แต่...

รู้ทั้งรู้ว่าลวง

กิเลสก็ยังชอบสิ่งล่อลวงใจ

เป็นเพียงสี (ยักษิณี) เหมือนกัน

แต่กิเลสจะหลงไหลใน สี ใด

ก็คงแล้วแต่ว่า...ได้สะสมอะไรมา



ขออนุโมทนาพี่เมตตา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 20 พ.ค. 2552

ทำไมมีแต่ นางยักษิณี ไม่มียักษา (หมายถึงชายที่ใช้มารยาล่อลวงหญิง) ข้อความในพระไตรปิฏกที่เปรียบเทียบหญิงที่ใช้ มารยา ล่อลวง ว่าเป็นยักษิณี เป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่สอนภิกษุ...แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นยักษาหรือยักษี...ไม่มีมีแต่จิต เจตสิก รูป ตราบใดที่ยังมีโลภะ ความติดข้อง ก็ไม่แตกต่างระหว่างชายและหญิงที่สามารถเป็นได้ทั้งผู้ติดข้องและทำให้ผู้อื่นติดข้อง

เชิญคลิกอ่าน...สตรีไม่บรรลุธรรมเพราะบุรุษ และข้อความจากพระไตรปิฏกกล่าวว่าความไม่มีมารยา มีไว้สำหรับหลีกเลี่ยงบุคคลผู้มีมารยาเชิญคลิกอ่าน...

หลีกเลี่ยงบุคคลผู้เบียดเบียน [สัลเลขสูตร]

อนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
paderm
วันที่ 20 พ.ค. 2552

ขณะนี้กำลังถูกนางยักษิณีลวงว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ หลงยึดถือว่าเป็นสัตว์ บุคคล

ติดในสิ่งที่ได้เห็น ทั้งที่เป็นเพียงสิ่งทีปรากฏทางตาเท่านั้น ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 20 พ.ค. 2552

ถ้าไม่มีกิเลส....ก็ถูกลวงไม่ได้หรอกค่ะ..................จริงมั้ย (+_+"

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 21 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
คุณ
วันที่ 26 พ.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 26 พ.ค. 2552

ถ้าไม่มีกิเลส....ก็ถูกลวงไม่ได้หรอกค่ะ..................จริงมั้ย (+_+"

จริงค่ะ (+_+"

มีเพียงหนทางเดียวที่จะค่อยๆ ขัดเกลากิเลสที่สะสมมานานแสนนานคือ

การอบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริงว่าเป็น

เพียงสภาพธรรม ไม่ใช่เรา (+_+" ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
พุทธรักษา
วันที่ 28 พ.ค. 2552

โดยส่วนตัว เข้าใจว่า....
หลีกเลี่ยงได้ ถ้ามี "ปัญญา"


(สมาชิกท่านหนึ่ง...เคยกล่าวไว้ในกระดานสนทนาธรรมแห่งนี้)
แต่ว่า........
ยังไม่มี "ปัญญา"....ระดับนั้น.!

ขออนุโมทนาค่ะ.


 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ