เสน่ห์อินเดีย 17

 
kanchana.c
วันที่  4 มี.ค. 2552
หมายเลข  11494
อ่าน  1,747

สู่พาราณสี

การเดินทางไปพาราณสี แบ่งเป็น ๒ คณะ คือ คณะหนึ่งเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งจะออกเวลา ๔ โมงเย็น ใช้เวลาเดินทาง ๓๐ นาที แต่ใช้เวลาเช็คอินและรอเครื่องเกือบ ๔ ชั่วโมง และอีกคณะ ๒๐ คน ต้องเสียสละเดินทางโดยรถบัส เพราะที่นั่งในเครื่องการบินไทยมีไม่พอ เราไม่รู้เรื่อง เลยไม่ได้เสียสละ (ถ้ารู้ก่อน ก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะเสียสละหรือไม่) ได้แต่อนุโมทนาท่านทั้งหลาย มีพี่ดวงเดือนเป็นต้น รถบัสเริ่มออกเดินทางประมาณบ่ายสอง และถึงโรงแรมในพาราณสี ๒ ทุ่มครึ่ง ทั้งๆ ที่ระยะทางแค่ ๒๔๐ กม. เท่านั้น พวกนั่งเครื่องบินถึงเวลาสี่โมงครึ่ง มองจากเครื่องบินเห็นแม่น้ำคงคาไหลคดเคี้ยว พื้นดินก็ดูเขียวชะอุ่ม ดูอุดมสมบูรณ์ ผิดกับเมืองคยาที่เพิ่งจากมา

พวกเรารอกระเป๋าในห้องผู้โดยสารที่แออัดมาก เมื่อมีกระเป๋าไหลมาตามสายพานสั้นๆ ก็ช่วยกันตะโกนเรียกชื่อเจ้าของกระเป๋ากันอื้ออึง ราวกับเป็นสนามบินของตัวเองสนุกดีเหมือนกัน พวกอาวุโสก็ได้เด็กๆ ช่วยบริการ ขออนุโมทนาทุกคนด้วยค่ะ กว่าจะพาตัวเองและกระเป๋ามานั่งรถบัสของบริษัททัวร์ได้ก็เกือบหกโมงเย็น เมืองพาราณสีเป็นเมืองใหญ่ เกลื่อนกล่นด้วยผู้คน ตามถนนจากสนามบินถึงโรงแรมคล้าร์ก (Clark Hotel) มีผู้ชายขายของริมถนนเต็มไปหมด แม้แต่บนสะพาน มีทั้งปลาสดๆ มากมาย มะขามป้อมผลใหญ่ สีเขียวอ่อนใส ดูน่ารับประทานมาก พริกสีแดงเม็ดใหญ่ๆ วางเต็มกระจาด ทั้งคนเดิน รถจักรยาน วัว รถยนต์ทุกขนาดบีบแตรแข่งกันอื้ออึง อยู่อินเดียหลายวัน สังเกตดูว่า เส้นแบ่งเลนถนนไม่มีเส้นทึบ มีแต่เส้นปะ แม้แต่บนสะพาน เพราะไม่มีเขตห้ามแซง (หรืออย่างไร?) เพียงแต่ว่าขณะแซงต้องบีบแตรไปจนกว่าจะพ้น ใครบีบแตรก่อน ก็ได้ไปก่อน ถ้ามาอยู่เมืองไทย คงได้ขับรถเมืองมนุษย์ไม่กี่นาที ก็ได้ไปขับที่โลกอื่นแล้ว เพราะแค่บีบแตรนิดเดียว ก็ถูกคนโมโหร้ายยิงตายมาเสียมากแล้ว และคนไทยก็ไปขับที่อินเดียไม่ได้เหมือนกัน ถึงโรงแรมคล้าร์กก็เย็นพอดี เคยพักที่โรงแรมนี้เมื่อ ๕ ปีก่อน เดี๋ยวนี้ขยายใหญ่ขึ้นมาก แต่ร้านค้าในโรงแรมก็ยังเหมือนเดิม ห้องอาหารใหญ่โต ดูหรูหราเหมือนเดิมกว่าจะได้กุญแจ รอกระเป๋า เข้าห้อง แล้วลงมาทานอาหารเย็น เขาเปิดทุ่มหนึ่ง ยังไม่ถึงเวลา เลยเดินไปดูศูนย์การค้าที่อยู่ใกล้ๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่ มีร้านขายเสื้อผ้ามียี่ห้อ ร้านอาหารแมคโดนัล มีวัยรุ่นอินเดียเดินอยู่ไม่กี่คน ดูกร่อยๆ หงอยๆ พิกล อากาศที่นี่เย็นกว่าคยามาก ได้ใส่เสื้อหนาวเสียที คืนนี้อ่อนเพลียเพราะหมดแรงกับการรอคอย นึกถึงท่านที่เสียสละเดินทางมากับรถบัสที่ยังมาไม่ถึง คงจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากว่าเราอีกหลายเท่า ขอบคุณอีกครั้งที่เสียสละค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornchai.s
วันที่ 5 มี.ค. 2552

อนุโมทนา ครับ

อ่านตอนต่อไปเชิญคลิก เสน่ห์อินเดีย 18

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 5 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
opanayigo
วันที่ 5 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาทุกท่านที่ไปโดยรสบัสค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
saifon.p
วันที่ 6 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาทุกท่านที่เสียสละนั่งรถบัสค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 6 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนากับท่านที่ไปรถบัสค่ะ

พวกเรารอกระเป๋าในห้องผู้โดยสารที่แออัดมาก เมื่อมีกระเป๋าไหลมาตามสายพานสั้นๆ ก็ช่วยกันตะโกนเรียกชื่อเจ้าของกระเป๋ากันอื้ออึง ราวกับเป็นสนามบินของตัวเอง

ขออนุโมทนาทุกๆ ท่านค่ะ ทุกคนช่วยกันเหมือนพี่เหมือนน้องเหมือนญาติกันอย่างเต็ม

ใจน่าประทับใจมาก น่ารักและสนุกมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 7 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wirat.k
วันที่ 8 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 8 มี.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
แมวทไวไลท์
วันที่ 13 พ.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ