จะระงับโทสะไม่ให้เกิด จะทำอย่างไร

 
petcharath
วันที่  27 เม.ย. 2549
หมายเลข  1141
อ่าน  4,976

ตัวเองเกิดโทสะอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นความขุ่นเคืองใจ ความหงุดหงิด หรือพูดล่วง

ทางวาจาบ้าง ก็ระลึกรู้แต่ไม่สามรถจะระงับได้ จะทำอย่างไรดีคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 28 เม.ย. 2549

ธรรมะที่เป็นข้าศึกโดยตรงกับโทสะคือ เมตตา การอบรมเจริญเมตตาพรหมวิหาร

คือ การมีความปรารถนาดี ความหวังดี ความมีไมตรี ความเป็นมิตรกับผู้อื่น ทั้งต่อหน้า

และลับหลัง ชื่อว่าการเจริญเมตตา ผู้ที่มีปกติอยู่ด้วยเมตตาย่อมไม่โกรธง่าย มีความ

อดทนต่อการกระทำและคำพูดของผู้อื่น แต่ไม่สามารถละโทสะได้เป็นสมุจเฉท การจะ

ละโทสะไม่ให้เกิดขึ้นอีกเลย ต้องอบรมเจริญปัญญาจนบรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
shumporn.t
วันที่ 28 เม.ย. 2549

เคยสนทนากับเพื่อนธรรมะท่านหนึ่ง ท่านเล่าว่า สมัยก่อนที่ยังไม่ได้ศึกษาธรรมะ

ต้องซื้อแก้วน้ำเป็นประจำ เดือนหนึ่งบางทีก็ 2 - 3 โหล เพราะคนรอบข้างทำให้โมโห

โกรธขึ้นมาครั้งใดแก้วแตกบ่อยๆ (ปาใส่คนอื่น) พอมาฟังธรรม ศึกษาธรรม เกิดความ

เข้าใจมากขึ้น ท่านบอกว่าทำให้ท่านโมโหน้อยลง จนเดี๋ยวนี้ไม่เคยปาแก้วใส่ใครแล้ว

ตอนนี้ท่านบอกว่า เห็นคุณของพระธรรม ฟังธรรมทุกวัน

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 29 เม.ย. 2549

เป็นธรรมดาในเมื่อยังมีกิเลสอยู่ เมื่อมีเหตุปัจจัยความโกรธก็เกิดขึ้นได้ แต่การจะ

ดับความโกรธให้หมดสิ้นไปไม่เหลือ ต้องอบรมสติปัฎฐานเท่านั้น จนกว่าจะบรรลุเป็น

พระอนาคามี

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
petcharath
วันที่ 3 พ.ค. 2549

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เด็กน้อยฟังธรรม
วันที่ 16 พ.ค. 2549

ผมเองก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ใจร้อน หงุดหงิด และโกรธง่ายเหมือนกัน แต่พอเมื่อ

มีอายุมากขึ้น ผมเองรู้สึกได้ว่า สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้มากขึ้น เมื่อไม่นาน

มานี้ ผมได้นัดเจอกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเข้ามาทำธุระที่กรุงเทพฯ ผมผิดนัดกับเพื่อน

(ผมรอเขาอยู่ประมาณ 6 ชั่วโมงได้) ก็ยอมรับตรงๆ ว่า วันนั้นกลับไปบ้านแทบนอน

ไม่หลับ เพราะความโกรธ เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น เพื่อนผมก็โทรมาขอโทษตามมารยาท ใน

ขณะที่โทรศัพท์อยู่นั้น ผมเองก็โกรธอยู่มากๆ แต่อีกใจหนึ่ง ก็พยายามสกัดกั้นความ

โกรธไม่ให้ออกมาทางคำพูดและน้ำเสียง และบอกกับเพื่อนผมไปอย่างสุภาพที่สุด

เท่าที่จะทำได้ว่า " ไม่เป็นไร คุณทำธุระเสร็จเรียบร้อยมั้ย " ความคิดที่มีในขณะนั้นคือ

พยายามคิดถึงความที่เขาต้องมีธุระให้มากที่สุด เขาอาจมีเหตุที่ทำให้มาหาเราไม่ได้

จริงๆ แต่ก็ขอบอกตามตรงว่า เหนื่อยมากๆ ในการห้ามใจ แต่ผมเองก็ดีใจที่เริ่มทำได้

บ้างแล้ว และก็บอกกับตัวเองว่า ขอให้ทำได้แบบนี้บ่อยๆ อดทนได้บ่อยๆ ให้มากขึ้น

ทุกวันนี้ผมเองก็รู้สึกว่า สามารถระงับความโกรธได้มากขึ้น และพยายามทำตามสิ่งที่

ผู้อื่นต้องการได้มากขึ้นด้วยครับ ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นอาจจะขัดใจเรา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
อนัตตา
วันที่ 22 พ.ค. 2549

เวลาโกรธให้นึกว่า การโกรธ มีประโยชน์สักนิดบ้างไหม ตรงข้าม กลับทำร้ายใจ

เราเอง มีแต่ผลเสียสถานเดียว หน้าก็เหมือนยักษ์ หงุดหงิด กระวนกระวาย

กระสับกระส่าย เสียเพื่อน ญาติ พวกพ้อง ทำลายทรัพย์ เสียชื่อเสียง ถูกชาวบ้าน

นินทา เข้าสังคมไม่ได้ และอื่นๆ อีกมากมาย ผลก็คือ ต้องไปอบายอย่างเดียว

ทางแก้ไม่ให้โกรธ หรือโกรธน้อยลง คือ เจริญเมตตา คิดส่วนดีเขาอย่างเดียว

ส่วนไม่ดีอย่าไปคิด ส่วนเสียของเขา ให้มีขันติ หรือใช้กรรมฐาน ให้สติระลึกรู้ตลอด

เวลา คือ กำหนดปัจจุปันอารมณ์ตลอดเวลาที่จะเริ่มโกรธ เมื่อจิตมาอยู่กับปัจจุบัน

อารมณ์ จิตก็จะทิ้งความโกรธชั่วขณะหนึ่ง เมื่อละกรรมฐานกลับมา จะรู้สึกว่า ความ

โกรธน้อยลง หรือหมดไปเลย เป็นไปได้นะครับ เพราะผมลองและได้ผลมาหลายครั้ง

แล้ว ปัจจุบันนี้ยังใช้วิธีนี้อยู่เสมอๆ

ขอให้กัลยาณธธรรมทุกท่าน ลองใช้วิธีกำหนดปัจจุบันอารมณ์ดู ได้ผลอย่างดี

เยี่ยม.........ถ้าได้ผล อย่าลืมแผ่เมตตามาให้อนัตตาบ้างนะครับ.

อนุโมทนาสาธุ.........จ้า

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ก.ย. 2550

ค่อยๆ อบรมเจริญเมตตา โดยฟังพระธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องความโกรธและเมตตาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ