เลี้ยงปีใหม่

 
oom
วันที่  4 ม.ค. 2552
หมายเลข  10843
อ่าน  978

ปีใหม่ กลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด พี่ชายก็จัดงานเลี้ยงในหมู่ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านสิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ เหล้า ซึ่งดิฉันไม่อยากให้พี่ชายเลี้ยงเหล้าคนอื่นเลย เพราะมันไม่ดี ส่งเสริมให้คนอื่นขาดสติ เป็นบาป แต่ก็ไม่ได้ผล ดูเหมือนสังคมปัจจุบันมองเรื่องการกินเหล้าเป็นเรื่องปกติ มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนมีความเห็นถูก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ท่านคิดว่าจะมีวิธีแนะนำอย่างไรบ้าง ที่จะช่วยไม่ให้เขาทำผิด ส่วนดิฉันเองก็ได้แต่ทำใจ คิดว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 5 ม.ค. 2552

การจะพูดเรื่องศีลธรรมกับผู้ที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่เห็นโทษของการล่วงศีล หรือไม่เห็นคุณของศีล คุณของกุศลธรรม จึงเป็นเรื่องยาก และไม่ใช่กาลเทศะที่จะพูดด้วย ทางที่ดีควรแนะนำให้เขาฟังธรรมศึกษาธรรมก่อนจะดีกว่า เพราะตราบใดที่ความเข้าใจธรรมะหรือปัญญายังไม่เกิดการที่จะเห็นโทษของอกุศลธรรมจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
bauloy
วันที่ 5 ม.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บุคคลแต่ละบุคคลย่อมมีกรรมเป็นของตนเอง แต่ละบุคคลย่อมมีที่มาแตกต่างกันตามกำลังของกุศลและอกุศลที่สั่งสมมา การเจริญสติให้เกิดปัญญาเห็นโทษของการล่วงศีล (เว้นจากการดื่มและเสพเครื่องดองของเมา) นั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หากบุคคลนั้น มิได้เจริญสติพิจารณาสภาพธรรมะตามความเป็นจริงแล้ว เห็นในโทษของอกุศลดังกล่าว จากประสบการณ์ของกระผม การศึกษาที่ดีควรเริ่มจากการฟังก่อน จะสนใจหรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง หากมีเวลาว่างเปิดวิทยุ หรือเทป ฟังไปเรื่อยๆ ปฏิบัติเช่นนี้บ่อยๆ จากวันเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นหลายเดือน ทำทุกวัน บ่อยๆ จนเป็นกิจวัตร หลังจากนั้นลองหยุดสัก ๒-๓ วัน ท่านจะมีความรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง นั่นแหละ จิตของท่านกำลังมีความสนใจ ก็ให้ท่านเร่งศึกษาโดยทันที กระผมเริ่มจากการศึกษาโดยเขียน จม.ไปขอหนังสือแนวทางการเจริญวิปัสสนาของมูลนิธิฯ เมื่อได้ศึกษาอยู่สักระยะ กระผมก็เริ่มที่จะละอกุศลอย่างหยาบๆ ก่อน เช่น การงดเว้นซึ่งเครื่องดองของเมา เป็นของขวัญให้กับตนเองในปีใหม่ที่ผ่านมานี้

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านในการเจริญกุศลครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เกมส์
วันที่ 5 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 5 ม.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา และมีความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริง แต่ธรรมเป็นเรื่องยาก และที่สำคัญ การที่จะเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการสั่งสมมา ของแต่ละบุคคลด้วย แต่ละบุคคลสั่งสมมาไม่เหมือนกัน ชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละวันจึงแตกต่างกัน จากเหตุการณ์ที่เล่ามาทำให้เห็นถึงความต่างกันระหว่างผู้ศึกษาธรรมกับ ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาธรรมอย่างชัดเจน การเกื้อกูลด้วยธรรมกับบุคคลอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี ควรกระทำ แต่ต้องดูกาลเทศะด้วย และที่สำคัญต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน คือเริ่มฟัง เริ่มศึกษา ค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว หากมีโอกาส ก็ควรที่จะให้ความเข้าใจแก่บุคคลอื่น ตามกำลังปัญญาของตนเองเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แต่ถ้าเขาไม่รับฟัง ไม่สนใจก็ควรที่จะมีจิตใจที่เป็นกลางด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่หวั่นไหวไปด้วยอกุศล ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 5 ม.ค. 2552

เราไม่สามารถแก้ไขคนอื่นได้ เพราะแต่ละคนก็สะสมอุปนิสัยมาแตกต่างกัน บางคนก็มีอุปนิสัยในการช่วยเหลือคนอื่น หรือแม้แต่การให้ก็ไม่เหมือนกัน เช่น บางคนมีฉันทะในการใส่บาตร แต่บางคนก็มีฉันทะในการทำบุญกับเด็กกำพร้า และบางคนก็มีฉันทะในการให้อาหารสุนัข บางคนก็มีฉันทะในการให้ความรู้ เช่น ให้ธรรมทาน ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
oom
วันที่ 5 ม.ค. 2552

ชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละวัน ของแต่ละชีวิต ช่างมีความแตกต่างกันจริงๆ จากเหตุการณ์ที่ประสบพบในชีวิตประจำวัน บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า วันเวลาที่ล่วงเลยไป ช่างน่าเสียดายเหลือเกินโดยเฉพาะคนใกล้ตัวเรา คือ พี่น้อง ที่กำลังเดินหลงทาง โดยที่เราไม่สามารถจะช่วยอะไรเขาได้ ปกติพี่ชายเป็นคนใจดีชอบช่วยคนอื่นแต่เสียต้องที่ชอบเลี้ยงเหล้าเขา และกินด้วย คงเป็นด้วยเหตุปัจจัยที่เขาสะสมมา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ajarnkruo
วันที่ 6 ม.ค. 2552

สิ่งที่ไม่ดี แม้จะรู้ว่าควรเตือนด้วยความปรารถนาดี แต่ถ้าไม่ถูกเวลา ก็ต้องคอยกาลครับที่สำคัญ คือ ควรจะระลึกได้ว่า ไม่ควรให้ใจของเราเองตกไปเป็นอกุศลอยู่บ่อยๆ เพราะมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องความไม่ดีของบุคคลอื่น ความไม่ดีของเขาจะบรรเทาลงได้ ก็ต้องด้วยปัญญาของเขา และปัญญาที่ว่านั้น ก็จะต้องมาจากการศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องถ้าหากว่าเขาไม่ได้เจริญปัญญา ใครก็ไปเปลี่ยนความไม่ดีในตัวเขาไม่ได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็เปลี่ยนอะไรในตัวเองไม่ได้เช่นกัน เพราะทั้งหมดเป็นหน้าที่ของปัญญาและโสภณธรรมเท่านั้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
oom
วันที่ 6 ม.ค. 2552

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ ที่ให้คำแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ที่จริงก็พอทราบอยู่ค่ะ ว่าอกุศลของคนอื่น เราไม่สามารถที่จะไปช่วยเขาได้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะยังมีสัตว์บุคคล ตัวตนเรา เขา อันความคิดนึกก็เป็นสภาพธรรมที่ไม่สามารถบังคับบัญชาได้เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อมก็เกิด และดับไปเป็นธรรมดา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 24 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ