บุญญกิริยาวัตถุ - ทาน (๓)

 
พุทธรักษา
วันที่  24 พ.ย. 2551
หมายเลข  10484
อ่าน  1,562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การสนทนาธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์และ คุณวันทนา ทิพวัลย์ จากหนังสือ บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐


คุณวันทนา เรื่องของทาน การให้นี้ คงเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เช่นบางคนชอบให้ของที่เลว บางคนชอบให้ของที่ปานกลางแต่บางคนก็ชอบให้ของที่ประณีตเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร

ท่านอาจารย์ คนที่ให้ของที่ด้อยกว่าหรือเลวกว่าที่ตนมีตนใช้นั้นเป็น "ทาสทาน"คือผู้ที่ให้ เป็นทาสของความพอใจยังไม่สามารถที่จะสละสิ่งที่เสมอกัน หรือสิ่งที่ประณีตกว่านั้นได้เพราะยังมีความพอใจ ติดข้องในสิ่งนั้นๆ อยู่ ซึ่งผลก็คือ เวลาที่ได้รับอะไรๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายอันเป็นผลของกรรมนั้นก็มักจะได้สิ่งที่ไม่ค่อยดี ตามสมควรแก่เหตุ



  ความคิดเห็นที่ 1  
 
พุทธรักษา
วันที่ 24 พ.ย. 2551

คุณวันทนา คนที่ให้ของปานกลาง คือเท่ากับที่ตนมีอยู่ใช้อยู่ไม่ประณีตกว่า ไม่ด้อยกว่าอย่างนี้ จะเป็นอย่างไร

ท่านอาจารย์ การสละวัตถุสิ่งของที่เสมอกัน หรือที่เหมือนกันกับที่ตนมีตนใช้ให้กับคนอื่น เป็น "สหายทาน" เพราะว่า การให้วัตถุสิ่งของที่เสมอกันกับที่ตนมี ตนใช้นั้นผลก็คือ เวลาที่ได้รับอารมณ์ต่างๆ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ก็มักจะได้สิ่งที่ดี ปานกลางพอสมควร ไม่ถึงกับประณีตพิเศษ

การให้สิ่งที่ดี ที่ประณีตกว่าที่ตนมีตนใช้อยู่ตามธรรมดานั้น เป็น "ทานบดี" เพราะว่าผู้ให้ เป็นใหญ่ในการให้ทานไม่เป็นทาสของความยินดีพอใจ ติดข้องในวัตถุเพราะถ้ายังเป็นทาสของตัณหา ความพอใจในสิ่งที่ดี ในสิ่งที่ประณีตนั้นอยู่ก็ย่อมจะให้ไม่ได้ผลของการให้สิ่งที่ดี ประณีตนั้น ก็คือ เวลาได้ลาภ หรือได้รับอารมณ์ต่างๆ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ก็ย่อมได้รับสิ่งที่ดี ประณีตเป็นพิเศษทั้งนี้ ก็ย่อมเป็นไป ตามสมควรแก่เหตุ



 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
พุทธรักษา
วันที่ 24 พ.ย. 2551

คุณวันทนา ถ้าเป็นผลของกรรม ก็ต้องเป็นอย่างนั้น

ท่านอาจารย์ เวลาที่เราให้ของดีๆ ที่สวยๆ งามๆ หรือว่า เป็นของที่ประณีตเป็นพิเศษคนที่ได้รับ ย่อมรู้สึกชุ่มชื่น ปลาบปลื้มดีใจเวลาเห็นเขามีความสุข เราก็พลอยมีความสุข และดีใจด้วยที่เขาได้รับ ของที่ทำให้เขามีความสุขถึงอย่างนั้นในขณะที่ให้ จิตใจของเราก็เป็นสุข ผ่องใส โสมนัส มากกว่าเวลาที่เราให้สิ่งของที่ปานกลางหรือสิ่งของที่ด้อยกว่าที่เราใช้หรือที่มีอยู่ตามปกติฉะนั้น เวลาที่กรรมนั้นให้ผล ก็ทำให้ได้รับสิ่งที่ประณีตซึ่งย่อมทำให้เกิดความปลาบปลื้ม โสมนัสเช่นเดียวกับเวลาที่ให้สิ่งที่ดี ที่ประณีตแก่คนอื่นด้วย

ในอังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต มุณฑราชวรรคที่ ๕มนาปทายีสูตร ข้อ ๔๔ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ"

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 24 พ.ย. 2551

สาธุ

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 103

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสกะอุคคเทพบุตรด้วยพระคาถาความว่า

ผู้ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ

ผู้ให้ของที่เลิศ ย่อมได้ของที่เลิศ

ผู้ให้ของที่ดีย่อมได้ของที่ดี และ

ผู้ให้ของที่ประเสริฐ ย่อมเข้าถึงสถานที่ประเสริฐ

นรชนใดให้ของที่เลิศ ให้ของที่ดี และ

ให้ของที่ประเสริฐ นรชนนั้นจะบังเกิดณ ที่ใดๆ

ย่อมมีอายุยืน มียศ ดังนี้.

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
churace
วันที่ 24 พ.ย. 2551
อนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 25 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pornpaon
วันที่ 25 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ . . .

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
phawinee
วันที่ 1 ธ.ค. 2556

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ