ความจริง...ที่ควรรู้

 
พุทธรักษา
วันที่  15 ต.ค. 2551
หมายเลข  10144
อ่าน  1,083

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ข้อความบางตอน จาก การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทปโดยคุณย่าสงวน สุจริตกุล

เคยมีความรู้สึกอยากจะสั่งสอน พระภิกษุบ้างไหม คฤหัสถ์ทั้งหลายเวลาเห็นสิ่งใด ไม่เหมาะ ไม่ควร.ถ้าสติไม่เกิดในขณะนั้น จะไม่รู้เลยว่าจิต ในขณะนั้น เป็นกุศลหรืออกุศล ถ้านึกอยากจะสั่งสอน เป็นอกุศลแน่ แต่ถ้าคิดที่จะอนุเคราะห์ เกื้อกูลด้วยความเคารพนั่นเป็นกุศล เพราะฉะนั้นลักษณะของจิตใจ ต้องระวังมากถ้าสติไม่เกิดจะไม่รู้ชัดจริงๆ ว่าในขณะนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล

เพราะว่าบางท่านเข้าใจว่าอกุศลเป็นกุศลโดยคิดว่า ใครทำไม่ดีก็จะต้องว่ากล่าว สั่งสอน ตักเตือนและคิดว่าท่านหวังดีในขณะนั้น แต่ถ้า "สติ" ไม่เกิด จะไม่ทราบความต่างกันของ "สภาพของจิต" ในขณะนั้น ว่าเป็นสภาพของจิตที่เป็นอกุศล มีความหยาบกระด้าง มีปฏิฆะ มีความขุ่นใจหรือว่าป็น สภาพของ กุศลจิตซึ่งไม่มีปฏิฆะ ไม่หยาบกระด้าง เป็นจิตที่อ่อนโยนใคร่ที่จะเกื้อกูล มีความหวังดี มีความเมตตาที่จะอนุเคราะห์แล้วก็กระทำการอนุเคราะห์ด้วยความเคารพนั่นเป็นการกระทำที่เกิดจากกุศลจิต

เพราะฉะนั้น มีหลายท่าน ที่อาจจะยึดถือประโยชน์ของการอบรมเจริญสติปัฏฐานที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง เช่น บางท่าน บอกว่า พอสติเกิดแล้วก็ทำอะไรได้ดี อาจจะหมายความว่า ทำอะไรไม่ผิดพลาดหรือทำอะไรได้สวยงามเหมาะสมคือ ไม่ทราบว่าท่านหมายความว่าอะไร ที่ว่าทำอะไรได้ดีดี คือสวย ดี คือถูกต้อง หรือดี คือเหมาะควร แต่นั่นไม่ใช่ประโยชน์ หรือ ความดีที่เป็น "ผลของการเจริญสติปัฏฐาน"

เพราะ "ผลของการเจริญสติปัฏฐาน" คือการรู้ลักษณะ ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ว่า "ไม่ใช่ตัวตน" เมื่อยังไม่ได้ดับกิเลสหมดเป็นสมุจเฉทอ กุศลก็ยังมีปัจจัยให้เกิดขึ้น และการที่สภาพธรรมจะเกิดขึ้นเป็นอกุศล เพราะเหตุปัจจัยก็เป็นเรื่องของสภาพธรรมตามความเป็นจริง แต่ "สติ" เกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นอกุศลว่า "ไม่ใช่ตัวตน"

ในส่วนข้อดีอื่นๆ (เช่น ความสวยงาม ความเหมาะสม เป็นต้น) ที่จะเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีปัจจัยที่จะเกิดขึ้น เป็นเรื่องของสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแต่ "ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล" นี่คือ "ผล" ที่แท้จริงของการเจริญสติปัฏฐาน


ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 16 ต.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 16 ต.ค. 2551
ขอขอบพระคุณ ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
happyindy
วันที่ 17 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Noparat
วันที่ 17 ต.ค. 2551

เมื่อยังไม่ได้ดับกิเลสหมดเป็นสมุจเฉทอกุศล ก็ยังมีปัจจัยให้เกิดขึ้น และ การที่สภาพธรรมจะเกิดขึ้นเป็น อกุศล เพราะเหตุปัจจัย ก็เป็นเรื่องของสภาพธรรม ตามความเป็นจริง

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 17 ต.ค. 2551

ผู้ที่จะรู้ลักษณะของกุศลจิต หรืออกุศลจิต ต้องเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน และดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ จนกว่าจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 17 ต.ค. 2551

เป็นเรื่องของสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแต่ "ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล" นี่คือ "ผล" ที่แท้จริงของการเจริญสติปัฏฐาน

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
orawan.c
วันที่ 17 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เซจาน้อย
วันที่ 19 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 5 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ