พรหมวิหาร...อยู่ที่ไหนในวันนี้?

 
pannipa.v
วันที่  10 ต.ค. 2551
หมายเลข  10098
อ่าน  1,983

ชาวพุทธทุกท่าน ไม่มีใครไม่รู้จัก " พรหมวิหาร ๔ " หรือรู้แต่พยัญชนะ อ่านได้ ท่องได้คล่องปาก จำได้ขึ้นใจ แต่สภาพธรรมที่เป็นกุศลเจตสิก ทั้ง ๔ ไม่เคยปรากฏกับคนไทยวันนี้เลย จะป่วยกล่าวไปใยถึงขั้นของ " พรหมวิหาร " ซึ่งเป็น ธรรมเครื่องอยู่ของพรหม ธรรมประจำใจ อันประเสริฐ ธรรมประจำใจของท่านผู้มีคุณความดีอันยิ่งใหญ่ คือ " พรหม "

เมตตา วันนี้ "เมตตา" กันหรือยัง?

กรุณา วันนี้ "กรุณา" ใครบ้าง?

มุทิตา วันนี้ "ยินดี" กับใคร หรือ อะไรบ้าง?

อุเบกขา วันนี้ "วางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงด้วยชอบ หรือชัง" กับ เหตุการณ์ใดๆ หรือไม่

วัดใจ...ตัวเอง (อีกครั้ง!!!)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 10 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ในการสนทนา เมื่อมีเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มีคนที่ทำผิดเป็นที่ติเตียนของสังคม ลองฟังแล้วลองคิดว่าใจของท่านคิดอย่างไร ถ้าคิดซ้ำเติม ช่วยกันกระหน่ำซ้ำเติมบุคคลนั้น จะเห็นได้ไหมว่า ขณะนั้น เข้าใจว่า อธรรมดีกว่าธัมมะหรือเปล่า เพราะว่าขณะที่ช่วยกัน กระหน่ำซ้ำเติมคนนั้นนะคะ ขณะนั้นเป็น อธรรม (อกุศล) ไม่ใช่เป็นธัมมะ (กุศล) แต่ถ้าเป็นธัมมะ (กุศล) แล้วก็จะทำให้เกิดสติสัมปชัญญะที่จะระลึกได้ แล้วก็มีความเมตตา อดกลั้น มีความอดทน แทนที่จะช่วยกันให้เกิดอกุศลหรือโทสะเพิ่มขึ้น

คำบรรยายจากท่าน อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เรื่อง บารมีในชีวิตประจำวัน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 10 ต.ค. 2551


๐๐๒๗๕ มีเมตตาจิตอนุเคราะห์สัตว์ทั้งมวล

ได้ยินว่า พระวารณเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า บรรดามนุษย์ในโลกนี้ นรชนใดเบียดเบียนสัตว์เหล่าอื่น

นรชนนั้นจะกำจัดหิตสุขในโลกทั้ง ๒ คือทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

ส่วนนรชนใด มีเมตตาจิตอนุเคราะห์สัตว์ทั้งมวล นรชนนั้นผู้เช่นนั้น จะประสบบุญตั้งมากมาย

ธรรมเตือนใจวันที่ : ๒๗-1๐๑-๒๕๔๓

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 10 ต.ค. 2551


๐๐๐๐๒ ละความโกรธด้วยเมตตา

ละความโกรธด้วยการเจริญเมตตา

ลืมความโกรธนั้นเสียแล้วระลึกถึงกัมมสกตาของตนและของผู้อื่น

อย่างนี้ว่า “ท่านโกรธแล้วจะทำอะไรเขาได้ จักอาจเพื่อยังคุณ อันมีศีล เป็นต้น ของเขาให้พินาศไปได้หรือ

เขามาด้วยกรรมของเขา เขาก็จักไปด้วยกรรมของเขานั้นแหละ มิใช่หรือ”

ธรรมเตือนใจวันที่ : ๒๒-๐๙-๒๕๔๗

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 10 ต.ค. 2551

นี่คือแบบทดสอบ ที่ได้ศึกษาธรรมมา กุศลไม่ได้มีแค่ทาน ศีล การอ่อนน้อมถ่อมตน สติปัฏฐาน แต่การอบรมเมตตาและพรหมวิหารในชีวิตประจำวัน ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นคุณธรรมที่ดีที่ควรมีกับคนรอบข้าง แต่ไม่ใช่เป็นตัวตนที่จะพยายามมีพรหมวิหาร แต่อาศัยการฟังพระธรรมเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้จิตมีเมตตามากขึ้นต่อผู้อื่นทั้งทางกาย วาจาและใจต่อหน้าและลับหลังครับ

เชิญคลิกฟังที่นี่ครับ

การเจริญเมตตา

ความเป็นมิตร เป็นเพื่อน คือ เมตตา

ป็นดั่งผ้าเช็ดธุลี ไม่เดือดร้อน

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

ยังไม่สาย...สำหรับผู้ที่ตั้งใจ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 10 ต.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chantra52
วันที่ 11 ต.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 11 ต.ค. 2551

ปัญญาเกิดสลับกับอกุศล เช่น อกุศลเกิดก็รู้ว่าเป็นอกุศล เป็นธาตุเลว ควรละ เป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
petcharath
วันที่ 12 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Khaeota
วันที่ 12 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คัดลอกจาก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอนที่ ๒

"เหรัญญกานิเถรคาถา"

"วันและคืนย่อมล่วงไปๆ ชีวิตย่อมดับไป อายุของสัตว์ทั้งหลายย่อมสิ้นไปเหมือนน้ำในแม่น้ำน้อย ฉะนั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น คนพาลทำบาปกรรมอยู่ย่อมไม่รู้สึกตัว ต่อภายหลังเขาจึงได้รับทุกข์อันเผ็ดร้อน เพราะบาปกรรมนั้นมีวิบากเลวทราม"

เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

"ธรรมประจำใจของท่านผู้มีคุณความดีอันยิ่งใหญ่" คนพาลย่อมไม่มีคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ ท่าน อ. สุจินต์ ได้เคยแสดงไว้ ทำไมสงสารเมื่อบุคคลนั้นกำลังได้รับผลของกรรม ทำไมไม่สงสารเมื่อบุคคลนั้นกำลังทำกรรมเลว "เพราะบาปกรรมนั้นมีวิบากเลวทราม" ไม่คู่ควรยิ่งที่จะให้อกุศลของคนพาลเป็นเหตุปัจจัยให้อกุศลของตนเกิดเหมือนถูกยิงด้วยลูกศรซ้ำแล้วซ้ำเล่า "วันและคืนย่อมล่วงไปๆ ชีวิตย่อมดับไป อายุของสัตว์ทั้งหลายย่อมสิ้นไป"

อบรมเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เริ่มที่ตนเองดีกว่า มั่นคงในกัมมสกตา แต่ทุกอย่างไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน และ อนัตตา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 12 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
opanayigo
วันที่ 13 ต.ค. 2551

เหตุใกล้ให้เกิดเมตตา คือ เห็นโทษของโทสะ

จากหนังสือ เมตตา / ท่านอาจารย์สุจินต์

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 13 ต.ค. 2551

ทุกคนท่องได้คล่องปาก จำได้ขึ้นใจ "พรหมวิหาร ๔" เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แต่ในชีวิตปัจจุบันแม้กุศลจิตเล็กๆ น้อยๆ ยังเกิดได้ยาก วัดใจตัวเอง (อีกครั้ง) ยังไม่ต้องไปอบรมเจริญ "พรหมวิหาร ๔" ซึ่งเป็นธรรมประจำใจที่ทำให้เป็นพรหม หรือให้เสมอด้วยพรหม จึงควรอบรมเจริญกุศลทุกประการเพื่อค่อยๆ ขัดเกลากิเลสในชีวิตประจุบัน มีความเป็นมิตรกับคนรอบข้างหรือยัง มีความปราถนาดีแก่ทุกๆ คนหรือยัง ถ้ากุศลเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตปัจจุบันยังไม่เกิด จะอบรมอย่างไรเพื่อให้ถึงธรรมเครื่องอยู่ของพรหม ก็ไม่อาจเป็นไปได้

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 14 ต.ค. 2551

อ้างอิงจาก : หัวข้อ โดย chaiyut

พรหมวิหาร ๔ เป็นคุณธรรมที่เกื้อหนุนกรรมดีทั้งหลายให้บริบูรณ์ แม้ในการให้ทานก็ย่อมจะไม่แบ่งแยกให้เฉพาะบางพวก ซึ่งถ้าไม่ใช่ผู้ที่ประกอบด้วยพรหมวิหารก็อาจจะแบ่งให้เฉพาะบางพวกเท่านั้น นอกจากนั้นยังเป็นธรรมที่ยังศีลให้บริบูรณ์ สามารถที่จะอภัยให้ทุกอย่างและทำกุศลโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เมตตาย่อมเป็นปัจจัยให้เกิดพรหมวิหารอื่นคือ กรุณามุทิตาและอุเบกขา เมื่อมีปัจจัยและปทัฏฐานที่จะทำให้เกิดสภาพธรรมนั้นๆ

ข้อความในอังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต จตุตถณณาสก์ อาฆาตวรรคที่ ๒ อาฆาตวินยสูตรที่ ๑ (๑๖๑) พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่าควรอบรมเจริญพรหมวิหารทั้ง ๔ ไม่จำเป็นต้องเจริญแต่เฉพาะเมตตาอย่างเดียวไปมากๆ เสียก่อน แล้วจึงจะเจริญกรุณา มุทิตาและอุเบกขาในภายหลัง พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่ระงับความอาฆาตซึ่งเกิดขึ้นแก่ภิกษุทั้งหลายโดยประการทั้งปวง ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญเมตตาในบุคคลนั้น ๑ ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญกรุณาในบุคคลนั้น ๑ ความอาฆาตพึงบังเกิดในบุคคลใด พึงเจริญอุเบกขาในบุคคลนั้น ๑ ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใดพึงถึงการไม่นึกใฝ่ใจในบุคคลนั้น ๑ ความอาฆาตพึงบังเกิดในบุคคลใด พึงนึกถึงความเป็นผู้มีกรรมเป็นของของตนให้มั่นในบุคคลนั้นว่า ท่านผู้นี้มีกรรมเป็นของของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใดดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นทายาท (ผู้รับผล) ของกรรมนั้นดังนี้ ๑

ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นด้วยประการฉะนี้ ฯ

คนที่มีพรหมวิหาร 4 สมบููรณ์ ศีลย่อมบริสุทธิ์ คนที่มีพรหมวิหาร 4 สมบูรณ์ ย่อมมีฌานสมาบัติ คนที่มีพรหมวิหาร 4 สมบูรณ์ เพราะอาศัยใจเยือกเย็น ปัญญาก็เกิด อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
pornpaon
วันที่ 14 ต.ค. 2551

"เมตตา" "กรุณา" "มุทิตา" "อุเบกขา" วัดใจ...ตัวเอง พรหมวิหารธรรมทั้ง 4 หากว่าจะมีบ้าง ก็ยังทำไปด้วยความเอนเอียง ด้วยชอบหรือชัง ฉะนั้น น่าจะเรียกได้ว่า ยังไม่มี (เป็นธาตุเลว...อีกแล้วเหรอเนี่ย !!!)

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ปริศนา
วันที่ 14 ต.ค. 2551
JANYAPINPARD ความคิดเห็นที่ 13 อ้างอิงจาก : หัวข้อ โดย chaiyut ความอาฆาต พึงบังเกิดขึ้น ในบุคคลใด พึง เจริญเมตตา ในบุคคลนั้น ๑.

ความอาฆาต พึงบังเกิดขึ้น ในบุคคลใด พึง เจริญกรุณา ในบุคคลนั้น ๑.

ความอาฆาต พึงบังเกิดขึ้น ในบุคคลใด พึง เจริญอุเบกขา ในบุคคลนั้น ๑.

ความอาฆาต พึงบังเกิดขึ้น ในบุคคลใด พึง ถึงการไม่นึกใฝ่ใจ ในบุคคลนั้น ๑.

ความอาฆาต พึงบังเกิดในบุคคลใด พึงนึกถึงความเป็นผู้มีกรรมเป็นของของตนให้มั่น ในบุคคลนั้นว่าท่านผู้นี้มีกรรมเป็นของของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นทายาท (ผู้รับผล) ของกรรมนั้นดังนี้ ๑.

ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นด้วยประการฉะนี้ฯ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Sam
วันที่ 14 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
chantra52
วันที่ 29 พ.ย. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ