ศึกษาธรรมเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมในขณะนี้


    การศึกษาพระธรรมก็เพื่อที่จะให้เข้าใจสิ่งที่มีแล้ว ปรากฏในขณะนี้ ตามความเป็นจริง เพราะเหตุว่าบางคนอาจจะคิดว่า ต้องไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดขึ้นมา โดยลืมว่าขณะนี้มีสภาพธรรมปรากฏแล้ว ฟังเพื่อที่จะให้เข้าใจความเป็นจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ในคราวก่อนได้กล่าวถึงเรื่องของธรรม และธรรมประเภทใหญ่ๆ ที่ต่างกันมี ๒ อย่าง คือสภาพธรรมที่ไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลย มีจริงๆ เช่นแข็ง เช่นเสียง เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ส่วนสภาพธรรมอีกอย่าง ไม่ใช่แข็ง ไม่ใช่เสียง ไม่มีรูปร่าง ลักษณะใดๆ เลยทั้งสิ้น แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เกิดขึ้นต้องรู้ รู้ในที่นี้ไม่ใช่รู้อย่างปัญญาความเห็นถูกความเข้าใจถูก แต่เป็นการรู้แจ้งของลักษณะสิ่งที่กำลังปรากฏ เช่น ในขณะนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา เป็นธรรมแน่นอนเพราะมีจริงๆ กำลังปรากฏ และขณะที่มีสิ่งที่ปรากฏทางตา ต้องมีสภาพธรรมที่สามารถเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาด้วย เพราะฉะนั้นสภาพธรรม ๒ อย่างนี้จึงต่างกัน ฟังเช่นนี้จนกว่าจะเป็นปัญญาที่สามารถเข้าใจถูก เห็นถูก และประจักษ์แจ้งความต่างของสิ่งที่ปรากฏ และสภาพธรรมที่กำลังเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นสิ่งที่มีจริง อาศัยการฟังบ่อยๆ จะทำให้ขณะที่ฟังนั้นเองก็ค่อยๆ เข้าใจในขณะนี้ที่กำลังเห็น ค่อยๆ เข้าใจ สิ่งที่กำลังปรากฏทางตามีจริงๆ เป็นธรรมอย่างหนึ่ง และในขณะนี้ที่มีสิ่งที่ปรากฏทางตา ต้องมีสภาพนามธรรมซึ่งสามารถเห็นสิ่งที่ปรากฏ เป็นชีวิตประจำวัน และขณะนี้ที่ได้ยิน มีเสียงปรากฏ ที่เสียงปรากฏได้ต้องมีสภาพที่สามารถได้ยินเสียง ลักษณะที่ได้ยิน ลักษณะที่สามารถรู้เสียง เป็นสภาพรู้ หมายความว่าไม่มีรูปร่างใดๆ เลยทั้งสิ้น แต่มีจริง และกำลังได้ยินเสียงขณะหนึ่ง กำลังเห็นอีกขณะหนึ่ง กำลังคิดนึกเป็นอีกขณะหนึ่ง เพราะฉะนั้นก่อนฟังธรรม เราอยู่ในโลกของสิ่งที่เราเคยเข้าใจว่าเป็นคน เป็นสัตว์ที่ ไม่เคยเกิดดับเลย ในความทรงจำของเรามีญาติพี่น้อง มีมิตรสหาย มีทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งไม่เคยคิดว่าสิ่งนั้นเกิดจึงได้ปรากฏ และเมื่อเกิดปรากฏแล้วก็ดับไป

    เพราะฉะนั้น การฟังธรรมไม่พ้นจากชีวิตประจำวัน ทุกๆ ขณะที่ได้ยินได้ฟัง เหมือนในพระไตรปิฎก แสดงว่า พระผู้มีพระภาคตรัสถามผู้ที่ไปฟัง ที่ได้ไปเฝ้าพระองค์ในขณะนั้นว่า เห็นเที่ยงไหม ขณะนี้มีเห็น เมื่อกล่าวเป็นภาษาบาลี และท่านเหล่านั้นมีความเข้าใจในสภาพธรรม ท่านสามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่เห็น ตามการสะสม ถ้าคนที่ฟังน้อย ค่อยๆ พิจารณาว่าเป็นความจริง แต่ถ้าคนที่ได้ฟังมากอบรมเจริญปัญญามามาก สภาพธรรมสามารถจะปรากฏ กราบทูลว่าเห็นเกิดแล้วดับ นี่เป็นปัญญาต่างระดับ ซึ่งทุกคนต้องเป็นผู้ตรงต่อความจริง เพราะเหตุว่าพระธรรมจะทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังเกิดปัญญาของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เป็นรัตนที่สูงสุด คือถ้าไม่มีการฟัง ใครจะทำให้เราเกิดปัญญาความเข้าใจเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องอาศัยการฟัง การพิจารณา การเข้าใจ

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 12


    หมายเลข 5201
    16 ม.ค. 2567