จุดเริ่มต้นของพระธรรมวินัย - มุขปาฐะ


    บุษบง ความหมายของคำว่า “มุขปาฐะ” คือข้อความที่ได้ฟังมาจากพระพุทธองค์ แล้วก็พูด โดยที่ยังไม่มีพระไตรปิฎกเกิดขึ้น ใช่ไหมคะ

    ท่านอาจารย์    ท่องจำสืบๆกันมาด้วย

    บุษบง ก็หมายความว่า มุขปาฐะ จะไม่ได้แยกเป็นพระวินัย พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรม พูดรวมกันไปหมดเลย แต่ภายหลังเมื่อมีพระอภิธรรมแล้ว ถึงได้แยกเป็นอย่างละข้อๆ อย่างนี้หรือเปล่าคะ

    ท่านอาจารย์    ในสมัยที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรม แล้วแต่ผู้ฟัง เพราะเหตุว่าถ้าผู้ฟังสะสมปัญญามามาก เพียงฟังสามารถเข้าใจสิ่งที่พระผู้มีพระภาคตรัส อย่างคำว่า “ธรรม” คนที่ฟังสามารถเข้าใจได้เลยในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน แต่เป็นสิ่งที่มีจริง เวลานี้ทุกคนก็รู้ว่า มีสิ่งที่มีจริง เวลานี้ เห็นนี้ก็จริงแน่ๆ ได้ยินก็จริง คิดก็จริง แข็งก็จริง สุขก็จริง ทุกข์ก็จริง ความรู้สึกเฉยๆ ก็จริง แต่เราไม่เข้าใจว่า นั่นคือธรรม เราคิดว่าเป็นเรา แต่คนในสมัยโน้น ท่านอบรมมามาก คำว่า “ธรรม” ท่านไม่มีความสงสัยเลยสำหรับท่าน เมื่อได้แสดงว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นของจริง เป็นธรรม ท่านเหล่านั้นเข้าใจได้

    เพราะฉะนั้นก็แล้วแต่ผู้ฟังระดับไหน  อย่างที่ทรงแสดงพระธรรมกับพระพุทธมารดา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บนสวรรค์และมีผู้ฟังธรรมแล้วเป็นพระอริยบุคคลก็มี  เพราะฉะนั้นก็ทรงแสดงมหาสติปัฏฐานสลับกับพระอภิธรรม ซึ่งจะเห็นได้ว่า ถ้าใช้คำว่า “อภิธรรม” หมายความว่า ไม่ได้พูดถึงคนที่เป็นพระเจ้าพิมพิสาร หรือพระเจ้าปเสนทิโกศล แต่พูดถึงธรรมโดยละเอียด จึงชื่อว่า “อภิ – ธรรม”  เพราะความหมายของ “อภิ” อีกอย่างหนึ่งคือละเอียด

    เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงโลภะโดยละเอียด พูดถึงเห็นโดยละเอียด ถึงเหตุปัจจัยที่ให้เกิดการเห็น ต่างๆเหล่านี้ นั่นก็เป็นอภิธรรมทั้งหมด

    เพราะฉะนั้นไม่ต้องหมายความว่า เราต้องมานั่งจัดระเบียบ แต่ทรงแสดงธรรมตามเหตุการณ์  กับแต่ละบุคคล ตามสถานที่ต่างๆ และเมื่อมีการบัญญัติพระวินัยขึ้นสำหรับผู้ที่มาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว จะเห็นได้ว่า สำหรับการอยู่รวมกัน ถ้าจะอยู่รวมกันด้วยความผาสุก ต้องไม่มีใครที่ทำอะไรตามใจชอบ แต่ต้องทำตามส่วนรวม

    เพราะฉะนั้นสำหรับพระภิกษุท่านมาบวชกันจากทั่วสารทิศ การที่จะให้ท่านอยู่ร่วมกันด้วยความสุขสบาย ก็จะต้องมีการตกลงกันว่า จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด นี่แสดงให้เห็นถึงระเบียบที่พระผู้มีพระภาคทรงเห็นความจริงของสัตว์โลกว่า ต่างอัธยาศัย เพราะฉะนั้นจึงได้ทรงบัญญัติพระวินัยขึ้น เพราะว่าจะได้เห็นความสำคัญของพระวินัยเพิ่มขึ้น มิฉะนั้นแล้วเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า ทำไมพระผู้มีพระภาคจึงทรงบัญญัติพระวินัย แต่เริ่มจากเห็นพระปัญญาที่ว่า การที่คนจะอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน นอกบ้าน รวมกันเป็นหมู่คณะ หรือเป็นประเทศ หรือเป็นสถานที่สักแห่งหนึ่ง อย่างที่โรงพยาบาลนี้ก็ตาม ถ้าจะให้มีความสุขสำราญร่วมกันจริงๆ ก็ต้องมีการบอกเล่ากัน มีการตกลงกันในทุกสิ่งที่จะกระทำ นี่เป็นการเริ่มต้นของพระวินัย ซึ่งก็จะละเอียดขึ้นๆ

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ในครั้งที่ยังไม่ปรินิพพาน มีการทรงแสดงพระธรรมและพระวินัย เพราะฉะนั้นเมื่อมีการสังคายนาครั้งแรก ก็มีการสังคายนาพระธรรมวินัย ยังไม่แบ่งเป็น ๓ ปิฎก จนถึงครั้งที่พระเจ้าอโศกจัดสังคายนา และภายหลังก็จารึกเป็นตัวอักษร ก็มีการแบ่งพระไตรปิฎกเป็น ๓ ปิฎก


    หมายเลข 8174
    7 ก.ย. 2558