ทำสมาธิต้องมีความเข้าใจ ๒


    ทุกคนบอกว่า รู้จักใจของคนอื่น เหมือนกับรู้จักใจของเขาจริงๆ เพียงแต่สังเกตดูจากกิริยาอาการภายนอก ใจของตัวเองก็ยังไม่รู้ แล้วจะไปรู้ใจของคนอื่น คิดดูว่า ไกลไหม หรือว่าบางคนอาจจะชินต่อการเดา เป็นนักเดา นักวิพากวิจารณ์ บอกได้เลยว่า จิตคนนี้เป็นอย่างนี้เป็นอย่างนั้น พูดอย่างนี้ ใจเขาเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แต่ถ้าไม่เป็นผู้เจริญสติ รู้จิตของตนเองก่อน ไม่สามารถจะรู้ความละเอียดของจิตของคนอื่นได้ ว่ากายหรือวาจาที่กล่าวออกไปนั้นด้วยจิตประเภทใด แต่เพราะเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ รู้สภาพจิตของตนเอง สามารถที่จะรู้ว่า การเคลื่อนไหวทำอย่างนี้เป็นเพราะอกุศลจิต หรือว่าการเคลื่อนไหวกระทำอีกอย่างหนึ่งเป็นเพราะกุศลจิต ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ เพียงเรียนจากตำราว่า ถ้าฟังธรรมก็เป็นกุศล ถ้าสวดมนต์ก็เป็นกุศล แต่ลองคิดจริงๆ ว่า เวลาสวดมนต์บางทีก็ง่วง บางทีก็สวดเร็วๆ ให้จบ บางทีเสียงอื่นก็ดังแทรกมาแล้วก็ตกใจ ขณะที่ตกใจจะเป็นกุศลได้อย่างไร ก็ไม่เป็น

    เพราะฉะนั้นในการกระทำแต่ละอย่าง จะมีจิตหลายประเภทที่เกิดดับสลับกัน ผู้ที่อบรมเจริญกุศลขั้นความสงบของจิต ที่จะให้จิตตั้งมั่นคงเป็นสมาธิ ต้องมีสติสัมปชัญญะที่จะรู้ว่า ลักษณะของกุศลจิตต่างกับอกุศลจิต แล้วก็เจริญกุศลยิ่งขึ้น จิตสงบยิ่งขึ้น อย่างนั้นจึงจะเป็นกุศล แต่ถ้าไม่ใช่โดยลักษณะนี้ เพียงแต่จะทำสมาธิแล้ว เป็นมิจฉาสมาธิแน่นอน ไม่ใช่สัมมาสมาธิ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องศีล เพราะเหตุว่าเป็นไปด้วยความไม่รู้ทั้งหมด

    และจริงๆ แล้วขณะนี้ ถ้าย้อนไปถึงสมัย ๒,๕๐๐ กว่าปี สมมติว่าเป็นที่พระวิหารแห่งหนึ่งแห่งใด คนที่ไปฟังพระธรรมก็ยังมีโลภะ โทสะ โมหะเหมือนกับคนยุคนี้สมัยนี้ แต่ว่าในขณะที่ฟังมีการสะสมมาที่จะเข้าใจสิ่งที่พระผู้มีพระภาคตรัส และพิจารณารู้ความจริงในขณะนั้นได้ จิตในขณะนั้นสงบ ประกอบพร้อมทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ไม่จำเป็นต้องไปรักษาศีลมาก่อน ซึ่งเมื่อไรจะได้ศีลครบก็ไม่ทราบ ไม่จำเป็นต้องไปทำอย่างอื่นมาก่อน แต่ในขณะนั้นเองเพราะมีความเข้าใจ ขณะใดที่เข้าใจ ขณะนั้นมีสมาธิด้วย ไม่ต้องไปทำสมาธิต่างหาก

    เพราะฉะนั้นจะเอาสมาธิที่ไม่มีความเข้าใจ หรือว่าจะเข้าใจ เพราะเหตุว่าในขณะนั้นก็มีสมาธิด้วย โดยที่ว่าไม่ใช่เราต้องไปทำ แต่ว่าเป็นสภาพธรรมที่เกิดพร้อมกันอยู่เอง เพราะถ้าไม่มีสมาธิ ไม่เข้าใจ ไม่พิจารณา ไม่ตั้งใจฟัง ปัญญาก็เกิดไม่ได้ แต่ว่าเวลาที่มีปัญญา ก็หมายความว่า ขณะนั้นต้องมีความสงบของจิตใจแล้ว ขณะที่เข้าใจ ขณะนั้นสงบจากอกุศล


    หมายเลข 8023
    4 ม.ค. 2567