สิ้นอายุหรือสิ้นกรรม


    ศุกล  เคยอ่านพบว่า มนุษย์เราเมื่อยังไม่ถึงวาระ คือ ตาย แต่เมื่อมีกรรมหนักมาตัดรอน อาจจะทำให้ผู้นั้นตายก่อนถึงวัยอันควร สิ่งนี้มีจริงหรือไม่ และกรรมหนักหมายถึงอะไร ขอความกรุณาจากท่านอาจารย์ช่วยยกตัวอย่างด้วย

    ท่านอาจารย์    ค่ะ มีจริง เพราะเหตุว่าไม่พ้นกรรม ไม่ว่าจะกรรมไหนทั้งสิ้น การที่จะสิ้นชีวิตเพราะหมดอายุ เช่นอายุขัยในยุคนี้ก็ไม่เกิน ๗๕ ปี ใครอยู่เกินไปก็คือกรรมทำให้ยังไม่ตาย เพราะฉะนั้นก็ไม่พ้นกรรม และการสิ้นอายุเพราะสิ้นกรรม หมายความว่ากรรมที่ทำให้เป็นบุคคลนี้สิ้นสภาพ ต่อไปจะไปเกิดเป็นเทพหรือเป็นอะไร สิ้นสุดสภาพของความเป็นบุคคลนี้ ก็ทำให้สิ้นชีวิตได้ ก็ไม่พ้นกรรม

    เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่า กรรมก็ยังคงมีอยู่ และอายุก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะสิ้นชีวิต แต่มีกรรม ไม่พ้นกรรมอีกที่จะตัดรอน กรรมนั้นก็ตัดรอนได้ด้วยกำลังของกรรมนั้น เพราะฉะนั้นให้ทราบว่า ไม่พ้นจากกรรม ไม่ว่าจะเกิดหรือจะตาย หรือจะตายเพราะสิ้นกรรม หรือจะตายเพราะสิ้นอายุ หรือยังไม่สิ้นอายุ ยังไม่สิ้นกรรม เพราะมีกรรมอื่นมาตัดรอนให้ตาย

    กรรมหนักมีทั้งฝ่ายกุศลกรรมและอกุศลกรรม ถ้ากรรมหนักฝ่ายกุศลก็เป็นพวกฌาน ที่หลังจากที่สิ้นชีวิตแล้ว และฌานไม่เสื่อม ก็จะทำให้เกิดเป็นพรหม ถ้าเป็นทางฝ่ายอกุศลกรรม ก็มีการฆ่ามารดา การฆ่าบิดา การฆ่าพระอรหันต์ การทำโลหิตพระผู้มีพระภาคให้ห้อ และการทำสงฆ์ให้แตกกัน ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ละเอียด เพราะว่าสมัยนี้ไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราจะไปทำร้ายให้ห้อพระโลหิต หรือว่าไม่มีพระอรหันต์ที่เราจะฆ่าก็ตาม แต่ให้ทราบว่า กรรมหนักที่เป็นอนันตริยกรรมที่เป็นอกุศลที่ทำให้เมื่อสิ้นชีวิตจากโลกนี้จากการเป็นมนุษย์แล้ว ต้องเกิดในอบายภูมิ เกิดในนรกทันที ไม่มีกรรมอื่นมาคั่นที่จะให้เป็นอย่างอื่นก่อน แต่ไม่ควรจะกังวลหรือคำนึงถึง เพราะเรื่องกรรมเป็นเรื่องที่เราไม่รู้เป็นอจินไตยอย่างที่กล่าวถึง เพราะเหตุว่าถึงแม้ไม่ได้ฆ่ามารดา ไม่ได้ฆ่าบิดาก็จริง แต่กรรมอื่นก็ทำให้ตกนรกได้เหมือนกัน ไม่ใช่แต่เฉพาะอนันตริยกรรมเท่านั้น  แต่ให้ทราบว่า ถ้าเป็นอนันตริยกรรมแล้วต้องตกนรก โดยไม่มีกรรมอื่นมาคั่น

    นี่คือความต่างกัน คือ  อนันตริยกรรมให้ผลแน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่อนันตริยกรรมก็แล้วแต่กรรมใดจะให้ผล

    อย่างไรก็ต้องเกิดแน่ เพราะฉะนั้นต้องทำกุศลมากๆ เพราะไม่รู้ว่า ในอดีตชาตินั้นเคยสะสมอกุศลมามากเท่าไรแล้ว เพราะฉะนั้นก็น่าจะมีคำเตือนใจว่า กุศลทำเท่าไรก็ไม่พอ


    หมายเลข 8017
    6 ก.ย. 2558