อจินไตยและธรรมนิยาม
บุษบงรำไพ คำว่า “อจินไตย” กับ “ธรรมนิยาม” มีความหมายเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรคะ
ท่านอาจารย์
เพราะฉะนั้นเรื่องกรรมก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรคิด เรื่องวิบาก คือ ผลของกรรมซึ่งทุกคนทำมาแล้ว กรรมเป็นสิ่งที่ได้กระทำแล้ว และทุกวันนี้เราก็รับผลของกรรมทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เห็นขณะนี้ให้ทราบว่า เป็นผลของกรรม ได้ยินขณะนี้ก็เป็นผลของกรรม จะได้กลิ่น ลิ้มรส จะได้ลาภก็เป็นผลของกรรม จะสุขก็เป็นผลของกรรม จะทุกข์ก็เป็นผลของกรรม จะเสื่อมลาภก็เป็นผลของกรรม จะได้คำสรรเสริญหรือนินทาก็เป็นผลของกรรม แต่ไม่รู้ว่า วันไหน กรรมไหนจะให้ผล ขณะนี้เรานั่งอยู่ที่นี่ กำลังได้รับผลของกรรมนี้ แต่พรุ่งนี้หรือต่อไป จะได้รับผลของกรรมอะไรก็ไม่ทราบ
เพราะฉะนั้นเมื่อไม่รู้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะต้องคิด ไม่อย่างนั้นวันนี้เราก็ต้องมานั่งคิดเดี๋ยวนี้ว่า พรุ่งนี้เราจะได้รับผลของกรรมอะไร จะมาทางตา หรือทางหู เย็นนี้เราจะได้รับผลของกรรมอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้ไม่ได้ เมื่อรู้ไม่ได้ ก็ “อจินไตย” คือ ไม่ควรคิด
บุษบง แล้วทำ “ธรรมนิยาม” ละคะ
ท่านอาจารย์