อุเบกขาเวทนา - โลภะ หรือ โมหะ


    ผู้ฟัง    เพราะฉะนั้น การเห็นในวันหนึ่งๆ นั้น ทุกคนก็มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส เวทนาก็เป็นอุเบกขาเป็นส่วนใหญ่ เห็นแล้วก็เฉยๆ ไม่รู้สึกมีสุข หรือมีทุกข์ เฉยๆ ขณะที่เฉยๆนี้ เวทนาเกิดกับโลภมูลจิตก็ได้ เกิดกับโมหมูลจิตก็ได้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ขณะนั้นเป็นโลภมูลจิต หรือโมหมูลจิต มีลักษณะต่างกันโดยการปฏิบัติ สังเกตได้อย่างไร

    ส.   โมหมูลจิตปราศจากโลภเจตสิกและโทสเจตสิก ไม่มีความชอบ ไม่มีความสนใจในสิ่งที่กำลังปรากฏ

    ผู้ฟัง    วันหนึ่งๆ ที่เราเห็นเก้าอี้ ในบริเวณนี้ เราก็เห็นกันทุกวันๆ เป็นเก้าอี้ธรรมดา ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร เราก็ไม่ได้ชอบ แล้วก็ไม่ได้เกลียด ขณะที่เห็น แล้วก็รู้ว่าเป็นเก้าอี้ อยากถามอาจารย์ว่า ขณะนั้นเป็นโลภะหรือโมหะ

    ส.   ควรจะเป็นอะไรคะ ในเมื่อสนใจ เห็นเป็นเก้าอี้ เพราะเหตุว่าไม่ได้หมายความว่า ทุกท่านเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ธรรมเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ในขณะนี้เอง ในห้องนี้ ที่นี่ เห็นทุกอย่างหรือเปล่า

    ทุกท่านจะตอบไม่เหมือนกัน ใช่ไหมคะ บางท่านอาจจะเห็นสิ่งนี้ บางท่านอาจจะเห็นสิ่งนั้น บางท่านอาจจะเห็นสิ่งอื่น เพราะเหตุว่าในห้องนี้ ถ้านับดูแล้วก็มากมายเหลือเกิน แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกท่านนี้จะเห็นทั่วไปหมด ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ปรากฏทางตา ในโลกสว่าง ในขณะใดที่ไม่รู้ในสิ่งที่ปรากฏ ในขณะนั้นเป็นโมหมูลจิต แต่ในขณะใดที่รู้ จะบอกไม่ได้เลยว่า มีความพอใจแล้วค่ะ เพราะเหตุว่าเป็นความพอใจที่เล็กน้อยมาก ถ้าขณะนั้นไม่ใช่ความไม่แช่มชื่น สนใจในเก้าอี้ที่ปรากฏ บางท่านอาจจะเช็ด จะถู จะปัดฝุ่นละออง ในขณะนั้นไม่มีโลภมูลจิตหรือคะ ถ้าเห็นว่าสกปรก ก็อาจจะไม่แช่มชื่น เป็นโทสมูลจิต แต่ในที่นั้นไม่ได้มีแต่เฉพาะเก้าอี้ตัวเดียว สิ่งอื่นๆก็มี ที่พื้นก็มีลาย มีอะไรหลายๆอย่าง มีเศษกระดาษ มีอะไรก็ได้ เห็นหรือเปล่า ทั้งๆที่ปรากฏ ถ้าปรากฏแล้วไม่รู้ ขณะนั้นเป็นโมหมูลจิต แต่เมื่อรู้ก็จะไม่พ้นจากโลภมูลจิต หรือโทสมูลจิต

    ในห้องนอนมีอะไรบ้าง เห็นทุกสิ่งทุกอย่างหรือเปล่า อาจจะมีรูปภาพเล็กๆ ซึ่งติดอยู่เป็นประจำ แต่เห็นหวี หรือว่าเห็นอย่างอื่นก็ได้ในขณะนั้น สิ่งใดก็ตามที่ปรากฏทางตา หรือทางหู ทางจมูก ทางกาย แล้วไม่รู้ ขณะนั้นเป็นโมหมูลจิต แต่ถ้าเกิดรู้ในขณะนั้น คือ มีความสนใจ ขณะนั้นจะเป็นโลภมูลจิตหรือโทสมูลจิต

    ผู้ฟัง    เมื่อพูดอย่างนี้แล้ว บางทีก็น่าคิด ส่วนใหญ่คนเรานี้กระทำไปแล้ว บางครั้งก็ไม่ได้ใส่ใจ เช่นเราเดินขึ้นมาบนศาลานี้ ใครจะไปรู้บ้างว่า เวลาเราเดินขึ้นมานี้ ก้าวขึ้นบันไดมากี่ขั้น เชื่อเหลือเกิน ไม่มีใครนับหรอกว่า บันไดที่เราเดินขึ้นมามีกี่ขั้น เพราะฉะนั้นอยากจะถามว่า ขณะที่เดินขึ้นบันไดมา แล้วไม่รู้ว่ากี่ขั้น ขณะนั้นเป็นโลภะหรือโมหะ

    ส.   รู้บันไดไหมคะ เวลาก้าวขึ้น

    ผู้ฟัง    รู้ซิครับ

    ส.   ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แต่ไม่ต้องนับ ไม่จำเป็นต้องนับค่ะ เวลานี้มีเก้าอี้แล้ว กี่ตัว ต้องนับไหมคะ หรือว่ารู้แล้วว่าเป็นเก้าอี้

    ผู้ฟัง    ไม่ได้นับ แต่รู้ว่าเป็นเก้าอี้

    ส.   ไม่จำเป็นต้องนับ  แต่หมายความว่า มีความสนใจ มีความรู้ในขณะนั้น แต่ถ้าไม่รู้ และสิ่งนั้นก็ปรากฏ ในขณะที่กำลังเดินไป เวลาที่ไม่รู้นั้นเป็นโมหมูลจิต เคยเผลอไหมคะ

    ผู้ฟัง    บ่อย

    ส.   ถ้าถามว่า เคยเผลอไหม ตอบได้ว่า บ่อย เท่ากับรู้ลักษณะที่เผลอ ใช่ไหมคะ ขณะนั้นจะเป็นจิตดวงไหน ไม่ใช่กุศลจิตแน่ที่เผลอ เพราะเหตุว่าไม่ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ จึงเผลอ เพราะฉะนั้นก็เป็นอกุศลจิต ขณะที่เผลอนั้น รู้หรือไม่รู้ ไม่รู้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่โลภมูลจิต ขณะที่เป็นโมหมูลจิต คือ เผลอ แล้วก็ไม่รู้ ขณะนั้นก็ไม่ใช่โลภมูลจิต


    หมายเลข 7789
    22 ส.ค. 2558