ตัวอย่างของนานักขณิกกัมมปัจจัย -พฐ.109


    อ.ธิดารัตน์ ในชีวิตประจำวันก็จะมีกัมมปัจจัยอยู่ด้วยกันแค่ ๒ ประเภท คือ สหชาตกัมมปัจจัยหนึ่ง และขณะที่จิตชาติวิบากเกิดขึ้นเป็นผลของกรรมในอดีตที่ได้กระทำแล้วก็คือผลของนานักขณิกกัมมปัจจัย

    ผู้ฟัง ขอให้ยกตัวอย่างนานักขณิกกัมมปัจจัยขณะปัจจุบัน

    อ.ธิดารัตน์ เช่น ปฏิสนธิจิตขณะแรก เป็นผลของนานักขณิกกัมมปัจจัย คือ กรรมที่ได้กระทำแล้วในอดีตให้ผล ทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ฉะนั้นปฏิสนธิจิตเป็นปัจจยุบบันก็คือเป็นผลของเจตนากรรมในอดีต ซึ่งเราเกิดเป็นมนุษย์ก็เพราะเป็นผลของกุศลกรรมให้ผล เพราะฉะนั้นขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดเป็นผลของนานักขณิกกัมมปัจจัย และในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดก็จะต้องมีเจตนาเกิดด้วย เพราะฉะนั้นก็มีสหชาตกัมมปัจจัยด้วย

    ผู้ฟัง ก็มี ๒ ปัจจัย

    อ.ธิดารัตน์ คือ เป็นผลของนานักขณิกกัมมปัจจัยหนึ่ง แล้วก็มีเจตนาซึ่งเกิดพร้อมกันเป็นสหชาตกัมมปัจจัย

    ผู้ฟัง ในขณะเดียวกันนั้นมี ๒ ปัจจัย

    อ.ธิดารัตน์ เป็นผลของปัจจัยหนึ่งแล้วก็เป็นผลของปัจจัยที่ ๒ ก็ได้ เป็นผลของเจตนาเจตสิกที่เกิดร่วมกัน ปฏิสนธิจิตนั้นก็เรียกว่าอาศัย ๒ ปัจจัยโดยกัมมปัจจัย ๒ อย่าง

    ท่านอาจารย์ วิบากคือผลของกรรมที่เกิดในชาตินี้ทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าจะเห็น จะได้ยิน จะได้ประสพกับอะไรก็ตาม ลาภ ยศ สรรเสริญทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ผลของกรรมในชาตินี้มาจากไหนหรือมีอะไรเป็นปัจจัยจะตอบว่าอย่างไร วิบากทั้งหลายที่เกิดขึ้นในชาตินี้ทั้งหมดเป็นปัจจยุบบันคือเป็นผลของอะไร

    ผู้ฟัง ผลของกรรม

    ท่านอาจารย์ ผลของกรรมประเภทไหน นานักขณิกกัมมปัจจัย แม้เจตนาเจตสิกที่เกิดร่วมกับวิบากนั้นก็เป็นผลของกรรมเดียวกัน

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 109


    หมายเลข 7777
    22 ม.ค. 2567