ขันธ์ ๕ - ปรมัตถธรรม เหมือนกันแต่รู้ไม่ง่ายทั้งสอง


    ผู้ฟัง    เรื่องให้รู้ขันธ์ ๕ บางคนก็คิดว่า พอจะรู้ได้ แต่ทีนี้ถ้าให้รู้ปรมัตถธรรมทั้ง ๔ บางคนก็คิดว่าปรมัตถธรรมนี้รู้ยาก แต่แท้ที่จริงแล้ว ขันธ์ ๕ กับปรมัตถธรรมก็อันเดียวกัน ปรมัตถธรรมมี ๔ พระผู้มีพระภาคก็เลยจัดใหม่ เรียกขึ้นมาอีกชื่อหนึ่งว่า ขันธ์ ๕ จัดรูปทั้งหมดเป็น รูปขันธ์ เวทนาทั้งหมด เป็นเวทนาขันธ์ สัญญาทั้งหมด เป็นสัญญาขันธ์ เจตสิกที่เหลืออีก ๕๐ เป็นสังขารขันธ์ จิตทั้งหมดจัดเป็นวิญญาณขันธ์ นิพพานจัดเป็นขันธวิมุติ

    เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ผู้ปฏิบัติธรรมให้รู้ปรมัตถธรรม ๔ ผู้ปฏิบัติก็จะรู้ยาก ถ้าให้รู้ขันธ์ ๕ ก็คิดว่า พอที่จะรู้ได้ เพราะฉะนั้นให้รู้ขันธ์ ๕ หรือให้รู้ปรมัตถธรรม ๔ นี้ เหมือนกันไหมครับ

    ส.   เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ง่ายทั้ง ๒ เพราะเหตุว่าขณะที่กำลังเห็นนะคะ เป็นปรมัตถธรรมหรือยัง ที่กำลังปรากฏ ถ้าเห็นไม่ใช่ปรมัตถธรรม เพราะในขณะที่กำลังเห็นเป็นปรมัตถธรรมหรือยัง  ที่กำลังปรากฏ ถ้าเห็นไม่ใช่ปรมัตถธรรม เพราะเห็นเป็นสัตว์ บุคคล เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ ไม่ใช่เพียงเป็นสิ่งที่เพียงปรากฏทางตา ขณะนั้นไม่ใช่รู้ปรมัตถธรรม

    หรือในขณะที่กำลังเห็น ซึ่งทุกท่านกำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ ถ้าสติไม่ระลึกได้ และปัญญาไม่เริ่มน้อมที่จะพิจารณารู้ว่า ขณะที่เห็นเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งในชีวิต ชั่วขณะได้ยินก็เป็นอีกขณะหนึ่งในชีวิต เป็นเพียงแต่ละขณะในสังสารวัฏฏ์ ถ้าไม่รู้ว่าในขณะที่กำลังเห็น เป็นเพียงสภาพรู้ หรือธาตุรู้ ซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

    ในขณะที่เสียงปรากฏ ก็มีธาตุรู้เสียง เป็นสภาพรู้เสียง เป็นปรมัตถธรรม คือ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน  ถ้านามธรรมที่ได้ยินเสียงยังไม่ปรากฏ ก็เป็นแต่เพียงธาตุรู้ อาการรู้ หรือสภาพรู้ ก็ไม่ใช่ว่าปรมัตถธรรม ๔ จะรู้ได้ง่าย

    ไม่ว่าจะทรงแสดงโดยนัยของปรมัตถธรรม ๔ หรือขันธ์ ๕ หรืออริยสัจธรรม ๔ ก็ตาม หรือว่าโดยนัยอื่นๆ ก็ไม่ใช่เป็นสภาพธรรมที่รู้ง่าย เพราะเหตุว่าต้องเป็นการอบรมเจริญปัญญา ที่จะประจักษ์ลักษณะที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ของสภาพธรรมที่ปรากฏ เป็นประจำวันทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

    ไม่ใช่ว่าพอเปลี่ยนชื่อ แล้วจะรู้ได้ง่ายขึ้นนะคะ ไม่ใช่ว่าพอพูดว่า ปรมัตถธรรม ๔ จะรู้ง่ายกว่าขันธ์ ๕ หรือว่ารู้ง่ายกว่าอริยสัจ ๔


    หมายเลข 7276
    20 ส.ค. 2558