กายอยู่ไหน


    ท่านอาจารย์ การศึกษาธรรมก็คือการศึกษาให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ทุกชื่อ หมายความถึงสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ เพราะฉะนั้นเราก็เริ่มจากการที่ว่าถ้ามีคำถามว่ากายอยู่ไหน กายก็คือสิ่งที่มีอยู่ ถูกต้องไหม ที่ทุกคนยึดถือว่าเป็นร่างกายของเรา แต่ยังไม่ได้รู้จริงเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไร จะเข้าใจความหมายของคำว่า “กาย” ที่จะรู้ได้ว่ามีกาย ก็เมื่อกระทบสัมผัส เพราะเหตุว่าไม่ใช่ไปคิดเฉยๆ แต่หาดูกายตั้งแต่ศรีษะตลอดเท้า จรดเท้า กระทบตรงไหนก็คือแข็งหรืออ่อน เย็นหรือร้อน ตึงหรือไหว ถูกต้องไหม แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วสภาพธรรมที่มีที่กายจริงๆ มีแข็งหรืออ่อน แต่ต้องกระทบกายปสาทจึงปรากฏ นี่ก็เป็นทางที่จะให้เข้าใจความหมายของ “อายตนะ” ได้ว่าจริงๆ แล้วเราไปยึดถือว่าเรามีกายตั้งแต่ศรีษะตลอดเท้า แต่ขณะที่เป็นภวังค์มีไหม กายตั้งแต่ศรีษะตลอดเท้าอยู่ที่ไหน ไม่อยู่เลยใช่ไหม และเมื่อไม่มีการกระทบส่วนหนึ่งส่วนใด เราก็จะไม่รู้ว่ากายกำลังมีอยู่ตรงนั้น ถูกต้องไหม แต่เราจำไว้ก่อนเท่านั้นเองว่าเรามีกายตั้งแต่ศรีษะตลอดเท้าโดยที่ลักษณะของกายจริงๆ ไม่ได้ปรากฏเลย แต่ธรรมคือสิ่งที่มีจริงที่พิสูจน์ได้ ถ้าจะรู้จักกาย ก็เมื่อมีสิ่งที่เราเคยยึดถือว่าเป็นกายนั้นปรากฏ เช่นกระทบสัมผัสส่วนหนึ่งส่วนใด เรายึดถือทั้งหมดว่าเหมือนไม่ได้ดับไปเลย ยังมีอยู่ให้กระทบอยู่ แต่ความจริงชั่วขณะที่กระทบตรงไหน แล้วก็สิ่งที่ถูกกระทบนั้นปรากฏเท่านั้นที่มีจริงๆ ในขณะนั้น

    เพราะฉะนั้น ถ้ามีการกระทบเดี๋ยวนี้ มีแข็งตรงไหนปรากฏ มีใช่ไหม จริงใช่ไหม?ขณะนั้นถ้าไม่มีกายปสาทรูป สิ่งนั้นปรากฏไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น แม้ในขณะที่แข็งปรากฏ เราก็จะเข้าใจได้ว่าขณะนั้นต้องมีกายปสาทรูปที่กระทบกับแข็ง แข็งจึงปรากฏได้ ขณะนั้นก็คือ กายายตนะกับโผฏฐัพพายตนะ จิตก็คือ กายวิญญาณซึ่งก็เป็นมนายตนะ และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยก็เป็นธัมมายตนะ นี่คือชั่วขณะหนึ่งๆ ที่สภาพธรรมเป็นอย่างนี้จริงๆ เกิดดับอย่างนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เราเลยจริงๆ รูปก็เป็นเพียงรูป นามธรรมก็เป็นนามธรรม นามธรรมก็เกิดดับเร็วมาก รูปก็เกิดดับเร็วด้วย แต่จิตอายุสั้นกว่ารูป เพราะว่าจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะ รูปๆ หนึ่งจึงดับ แล้วเราอยู่ที่ไหนที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา ที่เป็นอัตตา ที่เป็นของเรา แท้ที่จริงๆ ก็ไม่มีเลย มีเพียงชั่วขณะที่สภาพธรรมนั้นปรากฏ ถ้าเข้าใจอย่างนี้จริงๆ จึงจะเห็นกายในกาย เห็นกายว่าเป็นกาย แล้วก็ละการยึดถือกายว่าเป็นเรา เพราะเหตุว่ามีการได้ยินได้ฟัง มีการพิจารณา มีการไตร่ตรอง มีการเข้าใจจนกระทั่งสติสัมปชัญญะสามารถจะรู้ลักษณะจริงๆ ของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏไม่ว่าจะเป็นทางทวารไหน

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 82


    หมายเลข 7137
    22 ม.ค. 2567