สัมปฏิจฉันนจิต - สันตีรณจิต กับ ปฏิสนธิกิจ


    ผู้ฟัง สัมปฏิจฉันนะจิตทำกิจปฏินธิได้ไหม

    ท่านอาจารย์ ทำไม่ได้ เพราะตามความเป็นจริง ระหว่างสัมปฏิจฉันนจิต และสันตีรณจิต สัมปฏิจฉันนจิตเกิดก่อน มีเจตสิกเท่ากับสันตีรณจิตที่เป็นอุเบกขาเท่ากันเลย แต่ว่าลองคิดถึงฐานที่เกิด จักขุวิญญาณเกิดที่จักขุปสาท ไม่ได้เกิดที่หทยวัตถุ แต่สัมปฏิจฉันนะไม่ได้เกิดที่จักขุปสาท แต่เกิดที่หทยวัตถุ เพราะฉะนั้นเพิ่งเป็นจิตที่เกิดที่หทยวัตถุ ยังไม่มีกำลังเท่ากับจิตที่หลังจากที่สัมปฏิจฉันนะดับไปแล้ว สันตีรณะก็เกิดที่หทยวัตถุ มีกำลังมากกว่าโดยฐานที่เกิด และในบรรดา ๗ ดวงที่เป็นอกุศลวิบากก็เหลือเพียงดวงเดียวคือสันตีรณะที่จะทำปฏิสนธิได้

    ผู้ฟัง สันตีรณะมีทั้งหมด ๓ ดวง แต่ทำกิจปฏิสนธิได้แค่ดวงเดียว

    ท่านอาจารย์ สำหรับอกุศลวิบาก ๑ ดวง เกิดในอบายภูมิทั้งหมดทุกภูมิ จะเป็นสัตวในนรก จะเป็นเปรต เป็นอสูรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานตัวเล็กตัวใหญ่ ก็ปฏิสนธิด้วยอเหตุกอกุศลวิบากที่เป็นอุเบกขาสันตีรณะ แต่ยังมีอีกหนึ่งที่เป็นอุเบกขาสันตีรณะที่เกิดในสุขติภูมิได้สองภูมิคือ มนุษย์กับเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นต้นชั้นแรก แต่ว่าเป็นผู้ที่พิการตั้งแต่กำเนิดสำหรับในภูมิมนุษย์ จะบ้า ใบ้ บอด หนวก แต่สำหรับเทวดาไม่มีบ้า ใบ้ บอด หนวก แต่ต้องต่างกันเพราะเหตุว่าขณะนั้นไม่ใช่ผลของกุศลที่ทำให้มหาวิบากเกิด

    ผู้ฟัง สันตีรณะมีทั้งหมด ๓ ดวง ทำกิจปฏิสนธิได้ ๒ ดวง เว้นดวงเดียว

    ท่านอาจารย์ คือโสมนัสสันตีรณะ เพราะว่าถ้าเป็นผลของกุศลที่โสมนัส ก็เป็นปัจจัยให้โสมนัสมหาวิบากทำกิจปฏิสนธิ เพราะฉะนั้นถ้าเขามีโสมนัสเวทนาเกิดร่วมด้วย หมายความว่ามีกำลังมากกว่าอุเบกขาเวทนา แต่กำลังอันนั้นถ้ามีแล้วก็ต้องเป็นหน้าที่ของมหาวิบาก ไม่ใช่หน้าที่ของสันตีรณโสมนัสที่จะทำปฏิสนธิ

    ผู้ฟัง เป็นดวงที่มีเหตุเกิดร่วมด้วย

    ท่านอาจารย์ ไม่มี ต้องจำไว้เลย อเหตุกจิตมี ๑๘ เป็นวิบาก ๑๕ เป็นกิริยา ๓ ทั้งหมดในพระไตรปิฎกจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย จะมีอกุศลวิบากเกิน ๗ ไม่ได้ และอกุศลวิบากจะมีเหตุเกิดร่วมด้วยไม่ได้ แต่สำหรับทางฝ่ายกุศลวิบากที่เป็นกุศลวิบากที่ไม่ประกอบด้วยเหตุมี ๘ เท่านั้นเกินกว่านั้นก็ไม่ได้ สำหรับวิบากที่มีเหตุเกิดร่วมด้วยมีมากกว่านั้น เพราะฉะนั้น ถ้ากล่าวถึงจิตประเภทที่ไม่มีเหตุ ๖ เกิดร่วมด้วย ก็จะต้องเป็นวิบาก ๑๕ คือ เป็นอกุศลวิบาก ๗ และเป็นกุศลวิบาก ๘ ส่วนกิริยาจิตมี ๓ ที่เป็นอเหตุกะคือไม่ประกอบด้วยเหตุ ๖ ง่าย และจำได้ดีเลยใช่ไหม น้อยมากเลย

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 75


    หมายเลข 7050
    22 ม.ค. 2567