ชวนวิถี


    สำหรับจิตที่เกิดต่อจากโวฏฐัพพนจิต กระทำ “ชวนกิจ” ที่ท่านผู้ฟังได้ยินคำว่า “ชวนวิถี” สั่งสมสันดานตน

    ข้อที่ว่า ในคำว่า “จิตฺตํ” นี้ กุศลจิตฝ่ายโลกีย์  อกุศลจิต และมหากิริยาจิต จึงชื่อว่า จิต เพราะสั่งสมสันดานของตน ด้วยสามารถแห่งชวนวิถี

    หลังจากโวฏฐัพพนวิถีจิตดับไปแล้ว จิตที่เกิดต่อเป็น “ชวนวิถี” ซึ่งจะกระทำการสั่งสมสันดาน เวลาที่เป็น “ชวนจิต”

    เวลาเห็นที่เป็นจักขุวิญญาณ กระทำ “ทัสสนกิจ” ไม่ได้สั่งสมสันดาน เป็นวิบากจิตซึ่งเกิดขึ้นเพราะกรรมซึ่งพร้อมด้วยปัจจัยที่จะให้ผลเกิดขึ้น ก็ทำให้จิตเห็นเกิดขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ทำให้สัมปฏิจฉนะเกิดต่อ ทำให้สันตีรณะเกิดต่อ นั่นเป็นผลของกรรมหนึ่ง ที่ทำให้เห็นรูป ๆ หนึ่ง แต่เวลาที่โวฏฐัพพนจิตดับไปแล้ว จิตต่อไปกระทำ “ชวนกิจ”

    เพราะฉะนั้น เป็น “ชวนวิถี” ๗ ขณะ ที่สั่งสมสันดานตนนี้ เพราะว่าเกิดซ้ำถึง ๗ ครั้ง ตอนนี้ที่ทำชวนกิจเป็นกุศลหรืออกุศล สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ แต่สำหรับผู้ที่เป็นพระอรหันต์ ไม่มีกุศลจิตและอกุศลจิต เพราะฉะนั้นก็เป็นมหากิริยาจิตที่กระทำชวนกิจ ที่เป็น “ชวนวิถี”

       ๖ วิถีแล้วค่ะ มีเพียง ๗ อย่าลืมนะคะ เดี๋ยวนี้ก็ถึงวิถีที่ ๖ แล้ว แต่วิถีที่ ๖ นี้ เป็นวิถีที่จะสั่งสมสันดานตน เพราะกระทำกิจซ้ำ เกิดซ้ำ ๆ กัน ๗ ครั้ง ขณะเห็นขณะเดียว ถ้ามีความยินดีในสิ่งที่เห็น อกุศลจิตที่เป็นโลภมูลจิตเกิด ๗ เท่าของจิตเห็นขณะเดียว นี่คือการสะสมอกุศล ซึ่งทุกคนกำลังเป็นตามความเป็นจริงอยู่ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นจะดับกิเลสนี้ง่ายไหมคะ โดยไม่รู้อะไรเลย โดยที่ทั้งอวิชชาก็สะสมไว้ ๗ เท่าๆ ของการเห็นครั้งหนึ่ง  โลภะก็สะสมไว้ ๗ เท่า ๆ ของการเห็นครั้งหนึ่ง แล้วถ้าเป็นโทสมูลจิตก็สะสม ๗ เท่า ๆ ของการเห็น หรือการได้ยินครั้งหนึ่ง ๆ แล้วก็หวังว่า เมื่อไรจะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ทำไมถึงไม่คิดถึงเหตุตามความเป็นจริงที่ได้สั่งสมมาในสังสารวัฏฏ์ว่า จะต้องเป็นปัญญาที่รู้จริง ๆ ในลักษณะของสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน


    หมายเลข 6880
    24 ส.ค. 2558