โวฎฑัพพนจิตกระทำทางให้กุศลจิตหรืออกุศลจิตหรือกิริยาจิตเกิด


    ทางปัญจทวารกับมโนทวารนี้แยกกันนะคะ ถ้าทางปัญจทวารแล้ว โวฏฐัพพนจิต คือ จิตที่กระทำกิจนี้ พิจารณาอารมณ์ที่ปรากฏทางตา หลังจากจิตเห็นดับไป สัมปฏิจฉนจิตดับไป สันตีรณจิตดับไป โวฏฐัพพนจิตก็เกิด กระทำกิจตัดสินอารมณ์ เพื่อที่กุศลจิต หรืออกุศลจิตสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ แต่สำหรับผู้ที่เป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่มีกุศลจิต และอกุศลจิต เพราะฉะนั้นมหากิริยาจิตจะเกิดต่อ

    โวฏฐัพพนจิตเกิดต่อจากสันตีรณจิต กระทำกิจตัดสินสำหรับกุศล หรืออกุศลที่จะเกิดต่อ เกิดขึ้นกระทำกิจก่อนกุศล และอกุศลค่ะ

    จิตที่เกิดขึ้นในขณะนั้นกระทำกิจนั้นก่อนกุศลจิต และอกุศลจิตเกิด

    แสดงให้เห็นว่า กุศลจิตก็ไม่ได้เกิดตามความพอใจของตนว่า อยากจะเกิด หรือว่าอกุศลจิตก็สามารถจะเกิดได้ว่า อยากจะเกิดเป็นอกุศลเดี๋ยวนี้ก็เกิด ไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะคะ เหมือนอย่างชีวิตตามความเป็นจริงของท่านผู้ฟังว่า ทุกท่านอยากจะให้กุศลจิตเกิด แต่ทำไมอกุศลจิตเกิดบ่อยกว่ากุศลจิต เพราะโวฏฐัพพนจิตกระทำกิจนั้น แล้วก็มนสิการให้จิตต่อไปเป็นอกุศล ทั้งๆ ที่ไม่อยากให้อกุศลเกิดเลย แต่ก็เป็นอนัตตา เพราะเหตุว่าจิตที่กระทำโวฏฐัพพนกิจเป็นอโยนิโสมนสิการ จิตขณะต่อไปจึงเป็นอกุศล แล้วจะเป็นโยนิโส หรืออโยนิโสมนสิการ เป็นอนัตตาอีกเหมือนกัน ไม่มีใครสามารถไปจัดแจงให้โวฏฐัพพนะเป็นโยนิโสมนสิการได้


    หมายเลข 6879
    23 ธ.ค. 2566