ที่รู้สิ่งที่ปรากฏว่าไม่เหมือนกันเพราะจิตรู้แจ้งในลักษณะที่ต่างๆกัน


    ลักษณะของจิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งอารมณ์ ไม่ว่าอารมณ์นั้นจะมีลักษณะต่าง ๆ อย่างไร จิตก็เป็นสภาพที่รู้แจ้งในลักษณะต่าง ๆ ของอารมณ์ต่าง ๆ เสียงลมพัดเหมือนกับเสียงน้ำตกไหม ทำไมรู้ว่าไม่เหมือนกัน ที่รู้ว่าไม่เหมือนกัน ก็เพราะเหตุว่า เสียงปรากฏมีลักษณะอาการต่าง ๆ จิตก็รู้ในลักษณะต่าง ๆ ของเสียงต่าง ๆ ที่ปรากฏ เพราะเหตุว่าจิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งอารมณ์

    ทางจมูกก็มีกลิ่นต่าง ๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอะไรก็ตาม ขณะใดที่ปรากฏเป็นกลิ่นแปลก ถ้าสติเกิดขึ้นในขณะนั้น จะรู้ในลักษณะของนามธรรม ซึ่งเป็นสภาพที่รู้แจ้งในกลิ่นลักษณะแปลกที่กำลังปรากฏ เป็นสติปัฏฐาน เป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน เพราะรู้ว่าในขณะนั้นจิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งในกลิ่นแปลกที่กำลังปรากฏในขณะนั้น

    เคยมีกลิ่นแปลก ๆ บ้างไหมคะ กลิ่นนี้มีลักษณะหลายอย่าง  กลิ่นปลาเค็มก็อย่างหนึ่ง กลิ่นตุ ๆ กลิ่นตึ ๆ แล้วก็มีคำที่พยายามจะบัญญัติให้รู้ลักษณะของกลิ่นต่าง ๆ ซึ่งไม่ว่ากลิ่นนั้นจะมีลักษณะต่าง ๆ อย่างไร จิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งในลักษณะต่าง ๆ ของกลิ่นต่าง ๆ นั้น

    เพราะฉะนั้นเวลาที่ได้กลิ่นแปลก ๆ และรู้ว่าในขณะนั้นจิตเป็นสภาพที่รู้แจ้งในกลิ่นต่าง ๆ ขณะนั้นสติระลึกรู้ลักษณะของจิตที่กำลังรู้กลิ่นนั้นได้ทันที เป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน

    ต่อไปนี้ลองดูซิคะ อาจจะไม่เคยสังเกตดูว่า มีกลิ่นแปลก ๆ แต่กลิ่นนี้ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นแกง ก็มีกลิ่นแกงต่าง ๆ ไม่ใช่เป็นแกงชนิดเดียวกัน กลิ่นไหม้ กลิ่นสารพัดกลิ่นที่จะมี ขณะใดที่ได้กลิ่น ขณะนั้นสติปัฏฐานก็เกิดได้

    สำหรับทางลิ้นก็เช่นเดียวกัน มีรสอาหารต่าง ๆ รสผลไม้ต่าง ๆ รสชา รสกาแฟ ซึ่งรับประทานกันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน แต่ว่าถ้าขณะใดแปลก ขณะนั้นสติอาจจะเกิดขึ้นทันทีรู้ว่า จิตกำลังรู้แจ้งในลักษณะต่าง ๆ ของรสต่าง ๆ ที่กำลังปรากฏ บางคนชงกาแฟ เผลอใส่เกลือแทนน้ำตาล รสแปลกไหมคะ ทันทีที่ลิ้มรสแปลกจากปกติ ขณะนั้นจิตเป็นสภาพที่รู้รสลักษณะต่าง ๆ ไม่พ้นจากลักษณะของจิตเลยค่ะ ซึ่งเป็นสภาพที่รู้แจ้งอารมณ์ที่ปรากฏ เพราะฉะนั้น สติก็คงจะเกิดขึ้นได้บ้าง ในขณะที่กำลังลิ้มรส

    ทางกายก็มีการกระทบสัมผัสสิ่งต่าง ๆ เช่น เย็นลม เย็นน้ำ เย็นอากาศ หรือว่ากระทบสัมผัสผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ซึ่งท่านผู้ฟังท่านหนึ่งก็เคยบอกว่า ท่านยืนอยู่ที่ถนนแล้วรู้สึกแข็ง แล้วตอนหลังก็เกิดคิดต่อไปว่า แข็งนั้นเป็นถนน ซึ่งในขณะนั้นแข็งเท่านั้นที่กำลังปรากฏ แต่ว่าเห็นไหมคะว่า เพราะคุ้นเคยกับการที่คิดว่า เรายืนอยู่ที่ถนน เพราะฉะนั้นเวลาที่ลักษณะของแข็งเท่านั้นปรากฏชั่วครู่หนึ่ง ก็เกิดคิดต่อไปว่า แข็งนั้นเป็นถนน แล้วก็ยังคิดต่อไปอีกว่า แข็งนั้นเป็นรองเท้า แล้วก็ยังคิดต่อไปอีกว่า แข็งนั้นเป็นถุงเท้า เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่า ความคิดเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ๆ แล้วก็เกิดขึ้น แล้วเมื่อยังคงยึดถือสิ่งที่แข็งนั้นว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ไม่ลืม ซึ่งความจริงแล้วในขณะนั้น ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ถ้ารู้ลักษณะที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมในขณะนั้น ก่อนที่จะคิดคำว่า ถนนแข็ง หรือว่ารองเท้าแข็ง หรือว่าถุงเท้าแข็ง ในขณะนั้นลักษณะแข็งเท่านั้นเป็นปรมัตถธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ซึ่งไม่ใช่สัตว์ บุคคล ไม่ใช่ถนน ไม่ใช่ถุงเท้า ไม่ใช่รองเท้า เป็นแต่เพียงสภาพแข็ง และจิตเป็นนามธรรมที่กำลังรู้ลักษณะที่แข็ง ไม่ใช่เรารู้

    เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่า ถ้าปัญญายังไม่ได้อบรมจนกระทั่งสามารถที่จะรู้ชัดจริง ๆ ว่า แข็งไม่ใช่ถนน ไม่ใช่รองเท้า ไม่ใช่ถุงเท้า ก็สามารถที่จะเห็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งเกิดขึ้นแล้วดับไป แล้วก็มีสภาพที่คิดนึกเป็นเรื่องราวของถนน ของรองเท้า ของถุงเท้า แล้วก็ดับไปแต่ละขณะ ซึ่งขณะที่คิดก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

     


    หมายเลข 6799
    25 ส.ค. 2558