ยังเป็นอุเบกขาอาศัยเรือนเพราะอนุสัยกิเลสยังไม่คลายหรือหมดไป


    ถ. เมื่อเริ่มเจริญมรรคมีองค์ ๘ ปัญญาเริ่มรู้ลักษณะนามและรูป แต่ยังไม่ใช่ถึงนามรูปปริจเฉทญาณ โดยมากอุเบกขาเกิดร่วมด้วย โสมนัสก็เกิดร่วมด้วยได้ แต่ไม่ใช่ญาณ ไม่ใช่อุเบกขาอัญญาณ แต่ก็ไม่ใช่อาศัยกามคุณ

    ท่านอาจารย์ ถามว่า เวลาเริ่มเจริญสติปัฏฐาน นามรูปปริจเฉทญาณยังไม่เกิด แต่มีการรู้ลักษณะของนามธรรมบ้าง รู้ลักษณะของรูปธรรมบ้าง เป็นมหากุศลจิต ในขณะนั้นไม่ควรจะเป็นอุเบกขาที่อาศัยเรือน หรือโสมนัสที่อาศัยเรือน เพราะกำลังระลึกรู้ลักษณะของนามและรูป แต่ที่จริงแล้วในที่นี้ยังอาศัยเรือน เพราะกิเลสที่เป็นอนุสัยยังไม่ถึงขั้นที่จะคลาย หรือจะหมดไปได้

    ญาณต้องเกิด ความสมบูรณ์ของปัญญาต้องมีเป็นลำดับขั้น เพราะเพียงแต่การระลึกรู้ลักษณะของรูปบ้าง นามบ้าง ทางตาบ้าง หูบ้าง จมูกบ้าง ลิ้นบ้าง กายบ้าง ใจบ้าง ในการเริ่มเจริญสติทีละเล็กทีละน้อยเป็นมหากุศล แต่ยังเป็นไปในวัฏฏะ ยังไม่ถึงขั้นที่รู้ชัดในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ที่จะละความสงสัยแม้ในขั้นต้นที่ว่า เป็นนามธรรมเป็นสภาพรู้นั้นมีลักษณะอย่างไร ต่างกับรูปธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้อย่างไร โดยความไม่ใช่ตัวตน ในขณะนั้นถึงขั้นที่กำลังเจริญสติปัฏฐาน กำลังเริ่มเจริญความรู้ในลักษณะของนามของรูป แต่สภาพธรรมนั้นยังไม่ประจักษ์ ยังไม่ปรากฏโดยความเป็นอนัตตาทางมโนทวาร ที่จะให้ปัญญารู้ชัด เป็นความสมบูรณ์ของญาณจริงๆ ว่า ที่ว่าไม่ใช่ตัวตนนั้น เพราะนามธรรมมีลักษณะอย่างไร เพราะรูปธรรมมีลักษณะอย่างไร นี่เป็นแต่เพียงญาณขั้นต้นเท่านั้น เมื่อยังไม่ถึง ก็ยังต้องมีเชื้อของความยินดีพอใจในการยึดถือว่าเป็นตัวตนอยู่ ยังไม่ถึงความสมบูรณ์


    หมายเลข 6219
    6 ต.ค. 2566