บุคคลเห็นสิ่งใด ชื่อว่าไม่พบสิ่งนั้น


    คือในข้อนี้ คำว่า กาย หรือ สตรี บุรุษ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นอกจากประชุมตามที่กล่าวแล้วไม่มีเลย สัตว์ทั้งหลายย่อมกระทำซึ่งความถือผิดด้วยอาการนั้นๆ ในวัตถุอันสักว่าประชุมแห่งของธรรมดาตามที่กล่าวแล้ว เพราะฉะนั้น พระโบราณาจารย์ทั้งหลายจึงกล่าวว่า

    บุคคลพบสิ่งใด ชื่อว่า ไม่เห็นสิ่งนั้น เห็นสิ่งใด ชื่อว่า ไม่พบสิ่งนั้น เมื่อไม่พบก็หลงติด เมื่อติดก็ไม่พ้น ดังนี้

    ได้กล่าวคำนี้ไว้ เพื่อแสดงซึ่งการแยกความเป็นก้อน เป็นแท่ง เป็นต้น

    พบความจริงของสภาพธรรมกันแล้วหรือยัง ยังไม่พบถ้าไม่เจริญสติ ปัญญาไม่รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ ก็ไม่พบสัจธรรม ไม่พบสภาพธรรมตามความเป็นจริง บุคคลพบสิ่งใด ชื่อว่าไม่เห็นสิ่งนั้น เวลาที่ยังไม่พบสภาพธรรมตามความเป็นจริง อะไรบ้าง เห็นสัตว์ เห็นบุคคล เห็นวัตถุ เห็นสิ่งของต่างๆ เป็นตัวตนบ้าง เป็นสัตว์ เป็นบุคคลบ้าง กำลังนั่งบ้าง นอนบ้าง ยืนบ้าง เดินบ้าง เมื่อประชุมรวมกันก็ทรงอยู่ ตั้งอยู่ ในอิริยาบถหนึ่งอิริยาบถใด ไม่ว่าจะเป็นรูป ที่กายของสัตว์บุคคล หรือว่าที่รูปวัตถุภายนอกก็ตาม เวลาที่ประชุมรวมกันแล้วจะต้องทรงอยู่ในลักษณะอย่างใด ถ้าเป็นคนเป็นสัตว์ก็กล่าวว่า ตั้งอยู่ ทรงอยู่ ในอิริยาบถนั้น ในอิริยาบถนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปภายในที่กาย ไม่ว่ารูปวัตถุภายนอกก็ตาม เมื่อประชุมรวมกันแล้ว ก็สามารถที่จะเป็นก้อนเป็นแท่งที่ตั้งอยู่ ทรงอยู่ ในลักษณะหนึ่ง ลักษณะใด ถ้าเป็นคน บอกว่าคนนั่ง กระเป๋า เก้าอี้ ถ้าตั้งอยู่กับนอนลงไปเหมือนกันไหม ก็ยังมีสิ่งที่ประชุมรวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ให้ทรงอยู่ ตั้งอยู่ ในลักษณะอิริยาบถหนึ่ง อิริยาบถใดนั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่พบความจริง ยังไม่พบสัจธรรม ยังไม่พบธรรม ท่านโบราณอาจารย์ทั้งหลายจึงกล่าวว่า เห็นสิ่งใด ชื่อว่าไม่พบสิ่งนั้น เห็นเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งของ ไม่กระจัดกระจายออกไปเป็นรูปแต่ละทาง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย แต่ละรูปไป ถ้าไม่กระจัดกระจายแล้ว เห็นสิ่งใด ชื่อว่าไม่พบสิ่งนั้น ไม่พบรูปธรรมแต่ละรูปตามความเป็นจริง ไม่พบนามธรรมแต่ละนามธรรมตามความเป็นจริง ยังประชุมรวมกันเป็นก้อนเป็นแท่งอยู่ บุคคลพบสิ่งใด ชื่อว่าไม่เห็นสิ่งนั้น ถ้าพบสัจธรรม รู้ลักษณะของรูปแต่ละรูป อิริยาบถไม่มี สัตว์บุคคลไม่มีแล้วอิริยาบถจะมีได้อย่างไร โคทั้งตัวไม่มี คนทั้งคนไม่มี กระเป๋าทั้งใบไม่มี ต้นไม้ทั้งต้นไม่มี เป็นลักษณะของรูปแต่ละรูป เมื่อคนไม่มี สัตว์ไม่มี วัตถุสิ่งของไม่มี จะมีอิริยาบถนั่งนอนยืนเดินได้อย่างไร กระจัดกระจายออกหมดแล้ว ต้องกระจัดกระจายออก ถ้าไม่กระจัดกระจายออกก็ยังประชุมรวมกันเป็นก้อนทรงอยู่ตั้งอยู่ ก็ยังหลงยึดติดอยู่

    นี่ก็เป็นเรื่องที่ท่านจะต้องพิจารณาด้วย แม้แต่พยัญชนะข้อความที่ท่านโบราณาจารย์ทั้งหลายได้กล่าวว่า บุคคลพบสิ่งใด ชื่อว่าไม่เห็นสิ่งนั้น ถ้าพบรูปทางตา ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่เป็นตัวตน ถ้าพบรูปทางหู ไม่มีอิริยาบถนั่งนอนยืนเดิน ถ้าพบกลิ่นตามความเป็นจริง ลักษณะของกลิ่นเท่านั้นที่ปรากฏ รสเท่านั้นที่ปรากฏ ร้อนเท่านั้นที่ปรากฏ อ่อนแข็งเท่านั้นที่ปรากฏ อิริยาบถไม่มี สัตว์บุคคลไม่มี


    หมายเลข 5992
    4 ต.ค. 2566