กายานุปัสสี -- เล็งเห็นมหาภูตรูปและอุปทายรูปที่กายนั้น


    ข้อความมีว่า ถึงแม้ผู้มีพระภาคตรัสว่า กายอันมีแล้ว ก็ควรทราบว่า ทรงพูดถึงกายเป็นคำที่ ๒ อีกว่า กายานุปัสสี ดังนี้ มีแล้วก็จริง แต่ก็ยังมีพยัญชนะที่ว่า กายานุปัสสี คือเห็นกายที่เป็นส่วนๆ ที่กระจัดกระจายออกเป็นส่วนๆ ไม่ใช่เห็นรวมกัน

    เพื่อทรงแสดงซึ่งการกำหนด และการแยกกัน ซึ่งความเป็นก้อนเป็นแท่ง เป็นต้น โดยไม่เจือกัน คือ ไม่เล็งเห็นเวทนาในกาย ไม่เล็งเห็นจิตหรือธรรมในกาย เป็นอันทรงแสดงซึ่งการกำหนดในวัตถุคือกายว่า ผู้เล็งเห็นกายดังนี้ ด้วยการแสดงซึ่งอาการแห่งการเล็งเห็นกายโดยไม่เจือกัน

    อีกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เล็งเห็นธรรมอันใดอันหนึ่ง นอกจากอวัยวะน้อยใหญ่ในกาย ไม่ใช่เล็งเห็นหญิงและบุรุษ พ้นจากผมและขน เป็นต้น

    คือในข้อนี้ กายแม้อันใด อันได้แก่ประชุมแห่งภูตรูป และอุปาทายรูป มีผมและขน เป็นต้น ไม่ใช่เล็งเห็นธรรมอย่างเดียว อันนอกไปจากภูตรูป และอุปาทายรูป แม้ในกายนั้น ที่กายเมื่อพิจารณาแล้ว ที่จะไปเห็นธรรมอื่นอีกนอกจากมหาภูตรูปและอุปทายรูปในกายนั้นไม่มี และมหาภูตรูปก็ได้ทรงแสดงไว้แล้ว อุปาทายรูปก็ได้ทรงแสดงไว้แล้ว ดังนั้นผู้ที่มีปัญญาแยกส่วนของรูปที่ประชุมรวมกัน ก็จะมีแต่ลักษณะของมหาภูตรูป และอุปาทายรูปตามที่ได้ทรงแสดงไว้ และตามสภาพของความเป็นจริง แต่ไม่ใช่จะเล็งเห็นธรรมอื่นอันนอกไปจากมหาภูตรูป และอุปาทายรูปที่กายนั้น


    หมายเลข 5990
    4 ต.ค. 2566