ผัสสาหารนำมาซึ่งเวทนา ๓


    ข้อความในปปัญจสูทนี  มีว่า 

       ผัสสาหารที่มีผัสสะให้เกิดสุข   เมื่อเกิดขึ้นก็นำมาซึ่งสุขเวทนา   

    เพียงสั้น ๆ เท่านี้   ท่านผู้ฟังอาจจะคิดแล้วก็พิจารณา   และสติปัฏฐานก็สามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงว่า  เป็นอนัตตา  ไม่ใช่สัตว์  ไม่ใช่บุคคล   ไม่ใช่ตัวตนเลย   เพราะเหตุว่าวันหนึ่ง ๆ   พอรู้สึกเป็นสุข   เคยมีไหม   ความรู้สึกเป็นสุขเกิดขึ้น   พิจารณาระลึกรู้หรือเปล่าว่า  ทำไมสุขจึงเกิดได้   ถ้าปราศจากผัสสเจตสิกซึ่งกระทบสิ่งที่จะทำให้เกิดสุข   สุขย่อมเกิดไม่ได้   ถูกไหมคะ   แต่เวลาที่เกิดความรู้สึกเป็นสุขแล้วนี้   ลืมพิจารณาว่า   เพราะผัสสะกระทบกับอารมณ์ซึ่งนำมาซึ่งสุขเวทนา   สุขเวทนาจึงเกิดได้   

    เพราะฉะนั้นสุขเวทนาในขณะนั้น  ก็ไม่ใช่สัตว์   ไม่ใช่บุคคล   ไม่ใช่ตัวตน   เกิดขึ้นเพราะปัจจัย  คือ ผัสสะกระทบกับอารมณ์ซึ่งทำให้สุขเวทนาเกิด   สุขเวทนาจึงเกิด   แค่นี้ก็ไม่ใช่สัตว์   ไม่ใช่บุคคล   ไม่ใช่ตัวตนแล้ว   ถ้าพิจารณาเรื่อย ๆ ในวันหนึ่ง ๆ   จะยินดีกับผัสสะหรือว่าสุขเวทนาซึ่งเกิดไหมคะ  เพราะผัสสะนั้นเป็นปัจจัย   เพียงผัสสะไม่กระทบอารมณ์ซึ่งทำให้สุขเวทนาเกิด   สุขเวทนาก็เกิดไม่ได้   เพราะฉะนั้นสุขเวทนา   ซึ่งคิดว่าสำคัญแล้วก็แสวงหามากมายนั้น   แท้ที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับผัสสะที่กระทบกับอารมณ์ที่ทำให้สุขเวทนา   สุขเวทนาจึงเกิดได้

    สำหรับเวทนาอื่นก็โดยนัยเดียวกัน   ขณะใดที่รู้สึกเป็นทุกข์ เกิดทุกขเวทนาขึ้น   ถ้าไม่พิจารณาก็ลืมว่า   แท้จริงที่ทุกขเวทนาจะเกิดได้   ก็เพราะผัสสะกระทบกับอารมณ์   ซึ่งทำให้ทุกขเวนาเกิดนั่นเอง   ถ้าขณะนั้นผัสสะไม่กระทบกับอารมณ์ที่ทำให้ทุกขเวทนาเกิด   ความรู้สึกเป็นทุกข์  จะมีไม่ได้

    ถ้าท่านผู้ฟังมีโรคประจำตัว   แต่ว่าเจริญสติปัฏฐาน   จะทราบได้ว่า  ทุกขเวทนานั้นก็เล็กน้อย   ไม่ยั่งยืน   เพราะเหตุว่ากำลังเป็นทุกข์อยู่   จะเจ็บจะปวด   ได้ยินแล้ว   ขณะที่ได้ยิน   สติระลึก   ขณะนั้นไม่เจ็บ   ไม่ปวด   ขณะที่กำลังมีเสียงเป็นอารมณ์   เพราะเหตุว่าในขณะนั้นผัสสะไม่ได้กระทบกับอารมณ์   ซึ่งจะทำให้ทุกขเวทนาเกิด   ทุกขเวทนาก็เกิดไม่ได้   

    เพราะฉะนั้นแม้แต่ทุกขเวทนา ก็ขึ้นอยู่กับผัสสะที่จะกระทบกับอารมณ์ที่จะทำให้ทุกขเวทนาเกิด   ฉันใด   วันหนึ่ง ๆ   ความรู้สึกเฉย ๆ   อทุกขมสุข คือ ไม่สุขไม่ทุกข์นี้   ก็มีอยู่เป็นประจำ   พร้อมที่จะให้พิจารณาให้รู้ความจริงว่า   ที่เฉย ๆ นี้   ก็ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะเฉยเอง   แต่เป็นเพราะผัสสเวทนากระทบกับอารมณ์ซึ่งเป็นปัจจัยให้อทุกขมสุขเวทนาเกิด   ไม่ใช่กระทบกับอารมณ์ซึ่งทำให้สุขเวทนาเกิด   หรือทุกขเวทนาเกิดนั่นเอง   อทุกขมสุขเวทนาจึงเกิดได้ในขณะนั้น

    เพราะฉะนั้นสภาพธรรมทั้งหลายนี้   พร้อมที่จะให้พิสูจน์ตามความเป็นจริง   แม้แต่ในเรื่องของอาหารปัจจัย   ซึ่งผัสสาหารนำมาซึ่งเวทนา ๓   ทุกขณะตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย   ให้ทราบว่า   ไม่ว่าจะเป็นเวทนาประเภทใด ๆ  ทั้งสิ้น   ย่อมเกิดเพราะผัสสะเป็นอาหารปัจจัย

    มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมในเรื่องนี้   


    หมายเลข 5638
    27 ส.ค. 2558