กรรมจำแนกปฏิสนธิจิตให้วิจิตรต่างกันตามการสะสม


    ทุกท่านมีปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นเป็นขณะแรกในภพนี้  ในชาตินี้   ต่างกันหรือไม่ต่างกัน   ถ้าโดยประเภท   เป็นผลของมหากุศลจิต   จิตที่ทำกิจปฏิสนธิเป็นมหาวิบาก  ทำกิจปฏิสนธิในสุคติภูมิเมื่อเป็นมนุษย์   ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม   อกุศลวิบากทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิ ๔ ภูมิ  คือ เกิดในนรก  หรือเป็นเปรต  หรือเป็นอสุรกาย   หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน  นั่นเป็นผลของอกุศลกรรม   เพราะฉะนั้นอกุศลจิตทำกิจปฏิสนธิในอบายภูมิ   

    แต่สำหรับในสุคติภูมิ   คือ ภูมิมนุษย์   ปฏิสนธิจิตเป็นมหาวิบาก   เป็นผลของมหากุศล  แล้วแต่ว่าจะเป็นมหาวิบากดวงไหนใน ๘ ดวง  เพราะเหตุว่ามหากุศลจิตซึ่งเป็นเหตุมี ๘ ดวง  ประกอบด้วยปัญญา ๔ ดวง  ไม่ประกอบด้วยปัญญา ๔ ดวง  ประกอบด้วยอุเบกขาเวทนา ๔ ดวง   ประกอบด้วยโสมนัสเวทนา ๔ ดวง   เป็นอสังขาริก ๔ ดวง   เป็นสสังขาริก ๔ ดวง

    เพราะฉะนั้นปฏิสนธิจิตของแต่ละท่านต้องเป็น ๑ ใน ๘ ดวง  แต่ถ้าพิจารณาดูกรรม   ซึ่งทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นพร้อมกัมมชรูป   และเมื่อเติบโตขึ้นกัมมชรูปก็ปรากฏทางตา   เพื่อให้เห็นรูปร่างสัณฐานที่ต่างกัน   สภาพของรูปธรรม   กรรมยังจำแนกให้ต่างกันถึงอย่างนี้ 

    เพราะฉะนั้นปฏิสนธิจิตของแต่ละบุคคล   แม้ว่าโดยประเภท  จะเป็นมหาวิบาก ๑ ใน ๘ ดวงก็จริง  แต่ความละเอียดของการสะสมของปฏิสนธิจิตของแต่ละคนก็ย่อมวิจิตร   แต่เป็นสิ่งซึ่งมองไม่เห็น   สามารถที่จะเห็นได้เพียงรูปร่างสัณฐานในภายหลังที่เจริญเติบโตขึ้น   แต่ว่าลักษณะของมหาวิบากจิตซึ่งเป็นผลของกรรมที่ทำให้ปฏิสนธิก็ย่อมต่างกันไป 


    หมายเลข 4937
    28 ส.ค. 2558