ธรรมะเป็นเรื่องชีวิตประจำวันอย่างไร


    ส.   บางท่านเข้าใจว่า ธรรมะแยกจากชีวิตประจำวัน แต่ถ้าได้ศึกษาพระธรรมแล้วจะรู้ได้ว่า ธรรมะก็คือชีวิตประจำวันนั่นเอง พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องของโลภะ ความติดข้อง ความต้องการ เป็นชีวิตประจำวันหรือเปล่า พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องโทสะ ความขุ่นเคือง ความไม่สบายใจ เป็นชีวิตประจำวันหรือเปล่า พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องความเมตตา ความกรุณา การเห็น การได้ยิน ความสุข ความทุกข์ต่างๆ พระธรรมที่ทรงแสดงเป็นชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังทรงแสดงว่า ตั้งแต่เกิดจนตายเป็นธรรมะทั้งหมด

    เพราะฉะนั้น จะไม่มีเลยที่คนที่ได้ฟังพระธรรม หรือศึกษาพระธรรมแล้วจะบอกว่า ธรรมะแยกจากชีวิตประจำวัน ถ้าคนไม่รู้จะพูดอย่างนั้น แต่ถ้าคนที่รู้ว่า ธรรมะคืออะไร จะพูดอย่างนี้ไม่ได้เลย เพราะเหตุว่าขณะนี้ก็เป็นธรรมะ กำลังเห็น อาจจะเคยเข้าใจว่าเป็นเรา เป็นตัวตน เป็นคนนั้นคนนี้ แต่ความจริงแล้วเป็นสภาพธรรมะชนิดหนึ่งซึ่งมีจริง อะไรก็ตามซึ่งมีจริง เราไม่ต้องเรียกชื่อก็ได้ อย่างเห็นจะเรียกว่าเห็น หรือไม่เรียกว่าเห็น จะใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาแขก ภาษาจีน ภาษามอญ พม่า เปลี่ยนชื่อไปสารพัดชื่อ แต่เห็นก็เป็นสภาพธรรมะที่มีจริง และสภาพธรรมะที่มีจริง อีกชื่อหนึ่งเราก็เรียกได้ว่า สัจธรรมะ คือธรรมะที่เป็นของแท้ที่พิสูจน์ได้ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงความละเอียดของธรรมะทุกอย่าง ไม่เว้นเลย

    เพราะฉะนั้น จะได้ทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงแสดงทรงแสดงเรื่องธรรมะที่ทุกคนเคยเข้าใจ เคยยึดถือว่าเป็นตัวตน เป็นบุคคล เป็นวัตถุสิ่งต่างๆ ทั้งภายใน ทั้งภายนอกทั้งหมด ทรงแสดงทั้งหมดให้เราเข้าใจถูกต้อง จนกระทั่งความเข้าใจนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นในสิ่งที่มีอยู่รอบตัวเรา เป็นปัญญาแต่ละขั้นที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าไม่อาศัยการฟังพระธรรม เราอาจจะคิดว่า เรารู้จักตัวเราดี หรือบางคนก็บอกว่า รู้จักคนอื่น คนนั้นนิสัยเป็นอย่างไร เห็นแก่ตัวมาก หรือมีจิตใจงาม ๒ คน ๓ คนนี่ต่างกันมาก เราอาจจะคิดว่า เราเข้าใจคนอื่นและตัวเราพอสมควร แต่ถ้าได้ศึกษาพระธรรมแล้วจะรู้ว่า สิ่งที่เราเคยเข้าใจ ยังไม่ถูกต้องทั้งหมด และสิ่งที่เราเคยคิดว่าเข้าใจแล้ว แท้ที่จริงแล้วไม่ตรงตามที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้


    หมายเลข 4659
    30 ส.ค. 2558