อดทนที่จะเจริญปัญญา


    ขณะนี้กำลังอดทนอยู่หรือเปล่าคะ ตามความเป็นจริง รู้ว่าขณะนี้กำลังมีสิ่งที่ปรากฏ แล้วก็ไม่ได้เข้าใจถูกต้อง  กว่าจะเข้าใจถูกต้องว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ใครสักคน แต่เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ซึ่งเกิดเพราะมีเหตุปัจจัยที่จะเกิดก็ต้องเกิด แล้วลักษณะของธรรมที่เกิดแต่ละอย่างก็ต่างๆกันไป เป็นธรรมจริงๆ เป็นธาตุแต่ละชนิดซึ่งปรากฏตั้งแต่เกิดจนตายโดยไม่รู้ ๑ ชาติผ่านไป โดยไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมซึ่งเกิดแล้วก็หมดไป เกิดแล้วก็หมดไป ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่สามารถที่จะตั้งมั่นถาวรได้เลย แต่ว่าไม่รู้ เพราะเหตุว่าเมื่อสภาพธรรมอย่างหนึ่งเกิดแล้วดับไป เป็นปัจจัยให้สภาพธรรมอีกอย่าง เกิดดับสืบต่ออยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งไม่ปรากฏรอยต่อ จึงรู้สึกเหมือนว่าขณะนี้ทั้งเห็นด้วยแล้วก็ทั้งได้ยินด้วย แต่ว่าตามความเป็นจริง เห็นกับได้ยินไม่ใช่พร้อมกัน และแม้แต่ความคิดนึกในขณะที่กำลังเห็น ก็ไม่ใช่ขณะที่ได้ยินด้วย

    เพราะฉะนั้นจะเห็นความรวดเร็วของสภาพธรรมซึ่งเกิดดับ แล้วไม่รู้ความจริง แต่จะเริ่มมีการเข้าใจถูกต้องโดยอาศัยการฟังธรรม คือฟังให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆในขณะนี้ ซึ่งเข้าใจไม่ง่ายเลย เพราะเหตุว่าสิ่งที่มีจริงในขณะนี้เป็นสิ่งที่ปัญญาต้องอบรม จนกว่าจะรู้ความจริงตรงตามแต่ละคำ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นสัจวาจา เป็นความจริงซึ่งไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ว่าเป็นสิ่งที่ถ้าไม่ได้ฟังบ่อยๆ ก็ลืม เช่นได้ยินคำว่าธรรม และก็เริ่มมีความเข้าใจว่า ธรรมคือสิ่งที่มีจริงๆ แล้วจริงเมื่อไร จริงเมื่อเกิดแล้วปรากฏ ไม่ว่าจะพูดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม ถ้าพูดถึงเสียง แต่เสียงยังไม่ได้เกิด ยังไม่ได้ปรากฏ เสียงจริงหรือเปล่าขณะนั้น หรือว่าอย่างอื่นจริง ต่อเมื่อไรเสียงเกิดแล้ว ต้องปรากฏด้วย  เมื่อนั้นจึงจะรู้ว่าเสียงจริง คือเกิดขึ้นจึงปรากฏแล้วก็ดับไป แม้แต่การจะฟังเพียงคำไม่กี่คำ แต่ก็ยากที่จะค่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองให้เข้าใจ นี่ก็เป็นความอดทน

     


    หมายเลข 4584
    26 ส.ค. 2558