ศึกษาโดยการอ่านเพื่อเข้าใจ


    เวลาอ่านหนังสือเรื่องธรรมเป็นเรื่องของจิตเจตสิก ก็มีการไตร่ตรองให้เข้าใจขึ้น หรือว่าขณะที่ฟังธรรมทางวิทยุเรื่องของสภาพธรรม ก็จะมีการค่อยๆพิจารณาไตร่ตรองหลังจากนั้น อ่านหนังสือ พระธรรมมีมากเลย  พระไตรปิฎกแล้วก็มีอรรถกถาด้วย ที่จะทำให้เราเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆที่กำลังปรากฏทุกขณะในชีวิต ซึ่งเราเพิ่งเริ่มที่จะรู้ว่า ทุกอย่างเป็นธรรมที่ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก  

    เพราะฉะนั้นก็จะทำให้มีปัญญาที่สามารถจะทำให้สติปัฏฐานหรือสติสัมปชัญญะเกิด ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม รู้จักตัวจริงของจิต รู้จักลักษณะของเจตสิกแต่ละอย่าง และรู้ลักษณะของรูปซึ่งเกิดและดับด้วย เพราะว่าขณะนี้ต้องไม่ลืม  เรายังไม่รู้ความเกิดและดับ แต่ผู้รู้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  สภาพธรรมใดมีปัจจัยปรุงแต่งเกิดขึ้น สภาพธรรมนั้นดับ ลักษณะที่เกิดดับเป็นลักษณะที่ไม่ยั่งยืน เป็นทุกข์เพราะทนอยู่ไม่ได้ ต้องปราศไป แล้วก็เป็นอนัตตาคือไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่สามารถจะบังคับบัญชาได้

    เพราะฉะนั้นถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ว่า ขณะนี้สิ่งใดก็ตามที่ปรากฏ สิ่งนั้นต้องเกิด นี่เพียงขั้นคิด จริงหรือไม่จริง ถ้าไม่เกิดจะปรากฏได้ไหม เพียงแต่ว่าลักษณะการเกิดของสภาพธรรมนั้นไม่ปรากฏ เพราะเกิดดับสืบต่อเร็วมาก จึงไม่ปรากฏลักษณะที่เกิดและดับ แต่สิ่งใดก็ตามแม้แต่แข็งซึ่งทุกคนกำลังกระทบที่โต๊ะ  ความรู้สึก ความเข้าใจเดิมๆก็คือว่าเหมือนมีโต๊ะอยู่แล้วในห้องนี้ นานแล้วด้วย มาทีไรก็เจอทุกที แต่เวลาที่กระทบกายมีการรู้สิ่งที่แข็งตรงนั้น กายประสาทต้องเกิดแล้วยังไม่ดับ รูปแข็งต้องเกิดและยังไม่ดับ เป็นปัจจัยให้จิตในขณะนั้นเกิดขึ้นรู้ลักษณะแข็งที่กำลังปรากฏ นี่ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดขึ้นๆ นะคะ


    หมายเลข 3771
    26 ส.ค. 2558